แม้ปี 2020 จะเป็นปีที่เกิดการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทั่วโลก แต่ก็เป็นปีที่มีการประท้วงเกิดขึ้นมากที่สุดปีหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ หรือในไทยเองที่คนออกมาเรียกร้องให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออก และให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์
ตลอด
2 วันของการประชุมร่วมรัฐสภา
เพื่อหาทางออกให้ประเทศจากสถานการณ์การชุมนุมทางการเมือง บรรดา ส.ส.
ฝ่ายค้านเรียกร้องให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ
รมว.กลาโหม ลาออกจากตำแหน่ง
.
ขณะที่ ส.ส. รัฐบาล และ ส.ว.
ช่วยกันอภิปรายสนับสนุนให้นายกฯ อยู่ทำหน้าที่ต่อไป โดยให้เหตุผลหลากหลาย
อาทิ "ไม่เห็นความจำเป็นต้องออก
แต่ควรอยู่ทำหน้าที่รับผิดชอบแก้ปัญหาบ้านเมืองต่อไป",
"เป็นตัวเลือกเพียงตัวเดียวที่เหมาะสมในการปกป้องสถาบันฯ",
"ยังไม่ได้ทำอะไรผิดรุนแรงถึงขั้นจะไล่กัน", "ไม่เคยทุจริตคอร์รัปชันตลอด 6 ปีที่ทำหน้าที่" ฯลฯ
.
ก่อนปิดอภิปรายเมื่อค่ำวานนี้ (27 ต.ค.) พล.อ.
ประยุทธ์กล่าวว่ายินดีร่วมมือในการแก้ปัญหา แต่ต้องไม่ลิดรอนสิทธิของคนอื่น
โดยแสดงความเห็นด้วยกับแนวทางตั้งคณะกรรมการพูดคุยหาทางออกกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
แต่ "ต้องไปหามาว่าจะหาใครมาร่วม ผมก็กังวลว่าจะเจรจาคุยกับใคร
ใครเป็นหัวหน้า เพราะทุกคนเป็นหัวหน้าหมด"
และวิงวอนว่าให้ความเป็นธรรมกับตัวเขาบ้างหลังมีการมาไล่กันทุกวัน
.
นายกฯ ยืนยันด้วยว่า “ผมจะไม่ตัดช่องน้อยแต่พอตัวเพื่อหนีปัญหา
เหมือนที่บางคนเคยทำ
และผมจะไม่ละทิ้งหน้าที่ด้วยการลาออกยามที่บ้านเมืองมีปัญหา" พร้อมย้ำว่า
"ผมจะปฏิบัติหน้าที่อยู่ต่อไปจนกว่าจะไม่มีโอกาสได้ทำ ชัดไหมครับ"
พบผู้ทวิตเตอร์ทวีตปกป้องสถาบันกษัตริย์เหมือนๆ
กัน แม้แต่อายุและคำผิดก็ยังเหมือนกัน
ขณะที่มีผู้เปิดแชทกลุ่มไลน์เหมือนสั่งการให้หน่วยงานราชการปฏิบัติการ IO
ทั้งที่ต้นเดือนทวิตเตอร์เพิ่งปิดบัญชี 926 บัญชี IO ไทย
ตั้งมาอวยกองทัพ-รุมโจมตีคนเห็นต่าง
https://prachatai.com/journal/2020/10/90182
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar