onsdag 21 oktober 2020

ด่วน ! นายกฯ ขอ "ถอยคนละก้าว" ใช้กระบวนการรัฐสภาแก้ปัญหา ??? (สภาเผด็จการ)

บีบีซีไทย - BBC Thai

35 min

นายกฯ ขอ "ถอยคนละก้าว" ใช้กระบวนการรัฐสภาแก้ปัญหา

“ผู้ประท้วงได้แสดงความคิดของเค้าแล้ว...ตอนนี้จึงเป็นเวลาที่เหมาะสม ที่จะนำความคิด และความต้องการของผู้ป...

นายกฯ ขอ "ถอยคนละก้าว" พร้อมยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ "ยกเว้น หากมีสถานการณ์รุนแรงใด ๆ เกิดขึ้น"

นายกฯ

พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงต่อประชาชนขอทุกฝ่าย "ถอยคนละก้าว" ใช้กระบวนการทางรัฐสภาในการยุติความขัดแย้ง

การแถลงทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจของ พล.อ. ประยุทธ์ เมื่อ 19.00 น. วันนี้ (21 ต.ค.) เกิดขึ้นในขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า "ราษฎร" นับพันคนรวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อเดินต่อไปยังหน้าทำเนียบรัฐบาลในช่วงค่ำ

"หน้าที่ของผม ในฐานะผู้นำประเทศ คือผมต้องดูแลทุกคนในประเทศไทย ผมต้องพยายามรักษาสมดุล ระหว่างมุมมองความคิด และความต้องการต่าง ๆ ที่แตกต่างกันในสังคม และบางอย่างก็แตกต่างกันเป็นอย่างมาก นั่นเพื่อที่จะทำให้คนไทยทุกคน สามารถอยู่ร่วมกันในสังคมเดียวกัน ประเทศเดียวกัน และอยู่ร่วมกันบนผืนแผ่นดินเดียวกันได้ แผ่นดินของพวกเราทุกคน ที่ไม่ว่าจะมีความคิดเห็นไปทางไหน ผมเชื่อว่าทุกคน รักผืนแผ่นดินนี้ด้วยกันทั้งสิ้น... ผมต้องบริหารประเทศบนพื้นฐานหลักการตามกฏหมาย และตามแนวทางและการตัดสินใจจากรัฐสภา ในฐานะเป็นตัวแทนของประชาชนไทย นั่นคือระบบรัฐสภาที่เราต้องเคารพ"

นายกฯ

ภาพของแถลงการณ์ราว 15 นาที เป็นการนั่งแถลงด้วยท่าทีที่สงบ พยายามพูดให้ช้า ชัดถ้อย ชัดคำ เอามือประสานเข้าด้วยกัน วางบนโต๊ะ

นายกฯ กล่าวด้วยว่า ทางออกของปัญหา "ที่จะยุติธรรมสำหรับทุกฝ่าย" คือการพูดคุยกัน ทำงานด้วยกัน ผ่านระบบ และกระบวนการของรัฐสภา

"ผู้ประท้วงได้แสดงความคิดของเค้าแล้ว เสียงและความคิดของพวกเค้า ถูกได้ยินโดยทุกฝ่ายและทุกคนเป็นที่เรียบร้อย ตอนนี้จึงเป็นเวลาที่เหมาะสม ที่จะนำความคิด และความต้องการของผู้ประท้วง มาพิจารณาร่วมกับความต้องการของประชาชนส่วนอื่น ๆ ในสังคมไทย หาเส้นทางที่เหมาะสมและเห็นชอบร่วมกันส่วนใหญ่ ผ่านกระบวนการในระบบรัฐสภา"

นอกจากนี้ เขาได้เรียกร้องให้ทุกฝ่าย "ถอยกันคนละก้าว เพื่อออกห่างจากทางที่จะนำไปสู่ปากเหว" หลีกเลี่ยงการใช้อารมณ์ และความรุนแรง

"การใช้ความรุนแรง จะยิ่งนำมาซึ่งความรุนแรงที่มากกว่าเดิม สิ่งเหล่านี้ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ได้สอนเรามาแล้วหลายครั้ง ซึ่งตอนจบของทุกครั้งก็คือความเสียหายที่ทิ้งไว้กับประเทศ"

อดีตหัวหน้าคณะรัฐประหารย้ำว่าเขา "ได้ยินเสียงความต้องการของผู้ประท้วง" แต่ "ไม่สามารถบริหารประเทศตามเสียงประท้วงหรือความต้องการของผู้ประท้วงกลุ่มต่างๆ ทุกกลุ่มประท้วงได้"

"วงจรที่เราเคยเห็นกันมาตลอดว่า ไม่ว่าฝ่ายไหนมาเป็นรัฐบาลก็ตาม ก็จะต้องเจอกับม๊อบอีกฝ่ายเสมอ และในที่สุด การบริหารประเทศก็ทำไม่ได้ และประเทศก็ไหลลงไปสู่ทางที่จะนำไปสู่ความวุ่นวายและหายนะ พวกเราทุกคนต้องช่วยกันทำลายวงจรนี้"

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
คำบรรยายภาพ,

นายกฯ แถลงข่าวหลังการประชุม ครม. นัดพิเศษ เมื่อวันที่ 16 ต.ค.เรื่องการออกคำสั่ง ประกาศและข้อกำหนดต่าง ๆ ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

นายกฯ "หดหู่"

นายกฯกล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าหดหู่ใจอย่างมากทีมีการทุบตีทำร้ายตำรวจด้วยคีมเหล็กขนาดใหญ่ และพฤติกรรมรุนแรงอีกหลายอย่างต่อเจ้าหน้าที่ เป็นการตั้งใจทำร้ายคนไทยด้วยกัน แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเรามองให้ลึกลงไปกว่านั้น แม้เราจะเห็นคนกลุ่มเล็กๆ ที่มีเจตนาร้าย และปฏิบัติตัวไม่ดีอย่างรุนแรง แต่เวลาเดียวกัน เราก็เห็นว่า ยังมีคนอีกมากมายที่แม้ว่าจะกำลังทำผิดกฏหมาย แต่ก็ปฏิบัติตนด้วยความสงบ มีเจตนาดีที่ต้องการขอความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม และมีความจริงใจที่อยากจะเห็นประเทศดีขึ้น เรามองเห็นคนกลุ่มนี้ด้วย

"เราจะไม่สามารถได้มาซึ่งสังคมแบบที่เราต้องการ ด้วยการใช้คีมเหล็กขนาดใหญ่ตีใส่กัน หรือด้วยการทำลายเศรษฐกิจการหาเลี้ยงปากท้องของคนไทยด้วยกัน หรือด้วยการโจมตีสถาบันอันเป็นที่รักและเคารพยิ่งของคนไทย"

เขายอมรับว่า "เราก็ไม่สามารถได้มาซึ่งสังคมแบบที่เราต้องการ ด้วยการขอคืนพื้นที่ ใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง ด้วยเช่นเดียวกัน" และบอกว่า รัฐบาลพยายามผ่อนปรน หลีกเลี่ยง มีการประกาศให้ทราบก่อนทุกครั้ง ตามมาตรฐานสากล

การชุมนุมที่ราชประสงค์
คำบรรยายภาพ,

หลังจากเจ้าหน้าที่เข้าสลายการชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลโดยไม่มีผู้บาดเจ็บช่วงรุ่งสางของวันที่ 15 ต.ค. ผู้ชุมนุมย้ายมารวมตัวกันที่แยกราชประสงค์ในตอนเย็น

เสนอตัวลดความขัดแย้ง

พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า ในฐานะผู้นำประเทศที่ต้องรับผิดชอบต่อสวัสดิภาพที่ดีของประชาชนคนไทยทุกคน เขาจะเป็นคนเริ่ม "ก้าวแรก เพื่อที่จะลดอุณหภูมิความรุนแรง"

"ผมกำลังเตรียมที่จะยกเลิก พรก สถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในเขตท้องที่กรุงเทพฯ เร็วๆ นี้ ยกเว้น หากมีสถานการณ์รุนแรงใดๆ เกิดขึ้น"

คำปราศรัย 15 นาที ของนายกฯ ยังไม่สามารถทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมเปลี่ยนใจได้ หลังนัดรวมพลที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเมื่อ 17.000 น. แล้วเคลื่อนขบวนผ่านตำรวจคุมฝูงชนมาถึงบริเวณแยกยมราชเมื่อ 20.00 น. มุ่งหน้าทำเนียบรัฐบาล หลายจุดที่มวลชนเคลื่อนผ่าน ตำรวจที่ตั้งกำลังอยู่กลางถนนขยับเปิดทางให้มวลชนผ่านไป


Inga kommentarer:

Skicka en kommentar