fredag 23 oktober 2020

กษัตริย์นั้นเป็นทรราชโดยธรรมชาติและอาชญากรรมนิรันดร


Bild

#เผด็จการเพื่อประเทศชาติ คือ #คำพูดภูมิพล

พระราชดำรัส สุดอเมซิ่งของภูมิพล พูดไว้เมื่อ 14 ธันวา 2519 

ขี้ข้าจึงนำมาพูดซ้ำในวันที่ 29 ธันวา 2557

"อีกด้านหนึ่งยากที่จะพูดเหมือนกัน แต่ว่าต้องพูด ว่ามีบทบาททางการเมือง 
มิใช่ว่าทหารจะต้องไปเล่นการเมือง แต่หากว่าการเมืองมาเล่นทหาร 
และเห็นได้ชัด อันนี้ก็เกี่ยวข้องโดยตรงกับท่านทั้งหลายที่เป็นนายพล
เช่น หนังสือพิมพต่างประเทศเขียนไว้และเจาะจงว่า 
นายพลไทยยึดอำนาจ นายพลไทยเป็นเผด็จการ ซึ่งถ้่าเป็นเช่นนั้นจริง
ก็เป็นหน้าที่รับผิดชอบของท่านนายพลไทยไม่ใช่น้อย เพราะว่าถ้า #เผด็จการก็ต้องเผด็จให้ดี #เพราะว่านายพลไทยและทหารไทยทั้งหลาย ไม่เคยเผด็จการ
เพื่อให้เป็นเผด็จการแบบฝรั่ง #พยายามที่จะทำเพื่อประเทศชาติ"

พระราชดำรัส พระราชทานในพิธีประดับยศนายทหารชั้นนายพล 
ณ พระที่นั่งบรมพิมาน วันอังคารที่ 14 ธันวาคม 2519

http://www.openbase.in.th/files/14122519.pdf

// Nadier

Saint-Just อธิบายว่า กษัตริย์นั้นเป็นทรราชโดยธรรมชาติและโดยตัวของมันเอง เราไม่ต้องพิจารณาเลยว่าการกระทำของกษัตริย์หรือการบริหารราชการแผ่นดินของ กษัตริย์มีความผิดทางอาญาหรือไม่ ....... คัดมาจากบทความตอนหนึ่งของการเสวนาของคณะนิติราษฎร์ เมื่อ ๓๐ กย. ๒๕๕๕ ( จากการอธิบาย ของ Saint - just เราก็สามารถสรูปได้ว่า ภูมิพลก็คือ " ทรราชและ อาชญากรรมนิรันดร " ต่อประชาชนเพราะปล้นอำนาจมาจากปวงชนชาวไทย ) 

วิจารณ์ลักษณะที่สอง  ในสังคมการเมือง อำนาจเป็นของประชาชนเสมอ เพียงแต่ว่ายุคใดสมัยใด อำนาจนั้นจะถูก “แย่งชิง” ไปหรือไม่ หรือประชาชนจะมอบอำนาจนั้นให้แก่ใคร ดังนั้น หากจะย้อนกลับไปหาความเป็นเจ้าของอำนาจ ในท้ายที่สุดก็จะเจอประชาชนในฐานะเจ้าของอยู่ดี การอ้างว่ากษัตริย์เป็นผู้ทรงอำนาจ เป็นผู้ปกครอง มาตั้งแต่นมนาน ในสังคมการเมืองหนึ่งอาจไม่เคยขาดซึ่งสถาบันกษัตริย์เลย นั่นอาจเป็นการอ้างตามประวัติศาสตร์ของพวกราชาชาตินิยม ประวัติศาสตร์ของเจ้า ไม่จำเป็นต้องเป็นโค้ดของเรา Saint-Just อธิบายว่า กษัตริย์นั้นเป็นทรราชโดยธรรมชาติและโดยตัวของมันเอง เราไม่ต้องพิจารณาเลยว่าการกระทำของกษัตริย์หรือการบริหารราชการแผ่นดินของ กษัตริย์มีความผิดทางอาญาหรือไม่ ถ้ากษัตริย์เป็นทรราช นั่นไม่ใช่เพราะความผิดจากการบริหารราชการแผ่นดินของเขา แต่เขาเป็นทรราชก็ด้วยลักษณะของความเป็นกษัตริย์นั่นแหละ Saint-Just เสนออย่างชาญฉลาดว่า การที่กษัตริย์ยึดครองอำนาจสูงสุดของประชาชนไปใช้เอง นั่นแสดงให้เห็นว่าลักษณะของความเป็นกษัตริย์เป็นอาชญากรรมนิรันดร (crime éternel) ต่อประชาชน มนุษย์จึงย่อมมีสิทธิสัมบูรณ์ในการลุกขึ้นสู้และติดอาวุธ   Saint-Just อธิบายว่า ไม่มีใครสามารถครองราชย์ได้อย่างบริสุทธิ์ผุดผ่อง เพราะ กษัตริย์ทั้งหลายล้วนแล้วแต่เป็นกบฏและเป็นผู้แย่งชิง (usurpateur) อำนาจของประชาชนไป 

หรือในประกาศคณะราษฎร “ราษฎรทั้งหลายพึงรู้เถิดว่าประเทศของเรานี้เป็นของราษฎร ไม่ใช่ของกษัตริย์ตามที่เขาหลอกลวง บรรพบุรุษของราษฎรเป็นผู้ช่วยกันกู้ให้ประเทศมีอิสรภาพพ้นมือจากข้าศึก พวกเจ้ามีแต่ชุบมือเปิบ และกวาดรวบทรัพย์สมบัติเข้าไว้ตั้งหลายร้อยล้าน เงินเหล่านี้เอามาจากไหน? ก็เอามาจากราษฎร เพราะวิธีทำนาบนหลังคนนั้นเอง”
หากพิจารณาตามแนวทางนี้ ก็จะไม่มีปัญหาเรื่องอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนหรือไม่ เพราะ อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนเสมอ ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยตลอดกาล เพียงแต่ว่าบางช่วงบางตอน ถูก “ฉกฉวยแย่งชิงขโมย” ไป และสักวันหนึ่ง ประชาชนก็เอากลับคืนมาจนได้


***หมายเหตุ(ผู้เรียบเรียง)- กษัตริย์นั้นเป็นทรราชโดยธรรมชาติ และ เป็นอาชญากรรมนิรันดร   จากยุคพ่อร.9 ต่อเนื่องสู่ยุคลูก ร.10  กษัตริย์ที่โหดร้าย เลวทรามที่สุดแห่งยุค  เป็นกษัตริย์บ้ากามทำตัวเสเพลใช้ชีวิตอย่างหรูหราอยู่ในฮาเร็มที่เยอรมนี ด้วยเงินภาษีราษฏรปีละเกือบสามหมื่นล้านบาท   เพื่อ ปั่นจักรยาน กิน และ ผสมพันธ์  ( สวะสังคม)  เป็นโจรปล้นประเทศ เป็นอาชญากร ไล่ล่าสั่งฆ่าประชาชนที่เห็นต่าง  

มีรัฐบาลประยุทธ์เป็นสุนัขรับใช้สนองฯ   ที่หน้าด้านและเลวทรามเหมือนหมา ประชาชนไล่ออกไม่ยอมออก ไม่มีความละอายแม้แต่น้อย  ก้มหน้าหลับตาทำงานสนองความต้องการของกษัตริย์บ้ากามต่อไป   

โดยใช้อำนาจเผด็จการ"พ.ร.ก.ฉุกเฉิน" สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร(นอกเครื่องแบบ)ใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมทำร้ายเด็กนักเรียนนักศึกษามือเปล่าที่เรียกร้องหาความเป็นธรรม   ให้ประยุทธออกไป  ให้ปรับปรุงสถาบันกษัตริย์(สวะสังคม)ให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ให้แก้รัฐธรรมนูญเผด็จการเป็นรัฐธรรมนูญของประชาชน การที่ประชาชนทุกระดับชั้น ทุกสาขาอาชีพ ตั้งแต่เด็กนักเรียนมัธยม นักศึกษาออกมาชุมนุมอย่างมืดฟ้ามัวดินอย่างต่อเนื่อง   เพื่อให้กษัตริย์และรัฐบาลเผด็จการประยุทธ์   ให้ออกมารับฟังข้อเรียกร้องประชาชน   

แต่กลับได้รับการก่อกวนยั่วยุจากขบวนรถเสด็จของราชินี(นุ้ย) สุทิดา ติดใจ (เมียคนที่สี่อดีตพนักงานรับใช้บนเครื่องบินของการบินไทย) โดยให้ขบวนรถผ่านเข้าไปในม็อบฝูงชนที่มาร่วมชุมนุม  ในวันที่ 14 ตุลา  ได้มีเสียงโห่ร้องออกมาจากประชาชน " เอาภาษีกู ๆ ๆ ๆ ๆ " ไปตลอดทาง    

ในวันต่อมาก็ให้ตำรวจจับกุมประชาชนในข้อหาว่าไปคุกคามเสรีภาพราชินี    แล้วกษัตริย์เลวๆชั่วๆอย่างนี้จะมีไว้ทำไม ?  วันต่อมาเสียงประชาชนอันล้นหลามที่ราชประสงค์ก็ได้ตะโกนโห่ร้องอย่างกึกก้องว่า " ไอ้เหี้ยโอ ๆๆๆ "  

ในอดีตปี 1953 " สมัย ร. 9 พ่อ ร.10 " ก็มีเสียงร้องตะโกนของปวงชนที่ราชประสงค์ว่า " ไอ้เหี้ยสั่งฆ่า อีห่าสั่งยิง " ก็ไม่ได้ต่างกัน   สถาบันกษัตริย์ฆาตกรสืบราชสันตติวงค์กันต่อมาจากรุ่นพ่อถึงรุนลูก แล้ววันนี้กษัตริย์บ้ากามและราชินีที่มาจากสามัญชน(คนธรรมดา)ที่มีโอกาสได้มานั่งเสนอหน้าให้คนกราบไหว้  การกระทำของคุณเช่นนี้ไม่มีความเป็นมนุษย์หลงเหลืออีกแล้ว  อีกไม่นานสถาบันกษัตริย์ไทยคงล่มสลายเหมือนสถาบันกษัตริย์ในประเทศเนปาล)

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar