torsdag 31 mars 2016

ใบตองแห้ง : รธน.คนไทยโง่เลว

ใบตองแห้ง:รธน.คนไทยโง่เลว
 
วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 15:57 น.
จำนวนคนอ่านล่าสุด 594 คน
ใบตองแห้ง


"เหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการที่มีผู้ไม่นำพาหรือไม่นับถือยำเกรงกฎเกณฑ์การปกครองบ้านเมือง ทุจริตฉ้อฉลหรือบิดเบือนอำนาจ หรือขาดความตระหนักสำนึกรับผิดชอบ ต่อประเทศชาติและประชาชน จนทำให้การบังคับใช้กฎหมาย ไม่เป็นผล ซึ่งจำต้องป้องกันและแก้ไขด้วยการปฏิรูปการศึกษาและการบังคับใช้กฎหมาย และเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบคุณธรรมและจริยธรรม"


คำปรารภในร่างรัฐธรรมนูญของกรธ. อ่านตอนแรกนึกว่าด่านักการเมือง ด่าคนขัดขวางเลือกตั้ง ที่ไหนได้ลงท้ายกลับบอกต้องปฏิรูปการศึกษา บังคับใช้กฎหมาย เสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม

อ้าวนี่แปลว่าคนไทยส่วนใหญ่ด้อยการศึกษา ขาดศีลธรรม จรรยา และไม่เชื่อฟัง จนต้องปรับทัศนคติกันอีก 2 เจเนอเรชั่น ยังงั้นหรือครับ มิน่าเล่า ร่างรัฐธรรมนูญถึงเห็นว่าคนไทยไม่ควรมีอำนาจปกครองตนเอง ต้องให้ชนชั้นนำคนดีมีศีลธรรมเข้ามา มีอำนาจผ่านระบบแต่งตั้งอุปถัมภ์ ใช้อำนาจสกัดกั้นกลั่นกรองอำนาจเลือกตั้ง จนกว่าคนไทยจะอยู่ในโอวาท ในศีลในธรรม เลิกขัดแย้งกัน เข้าใกล้ยุคพระศรีอาริย์เมื่อไหร่ค่อยปกครองตนเอง


ร่างรัฐธรรมนูญนี้เห็นว่า "เพื่อผลประโยชน์ประชาชน" จำเป็น ต้องลิดรอนอำนาจประชาชน ถ้าอยากให้ประเทศเดินหน้า ประชาชนต้องร่วมมือเชื่อฟัง "ประชารัฐ" ถ้าอยากเป็นประชาธิป ไตย ก็ต้องยอมให้จัดระเบียบ อยู่ใต้บังคับบัญชา ถ้าอยาก "ปราบโกง" ก็ต้องยอมรับระบบสรรหาคนดีกับพวกพ้องเครือญาติ


ร่างรัฐธรรมนูญมีชัยไม่ได้สรุปบทเรียนความผิดพลาดของรัฐธรรมนูญ 2550 แม้แต่น้อย ที่ลดอำนาจตัดสินใจของประชาชน เพิ่มอำนาจสรรหา เพิ่มอำนาจตุลาการภิวัฒน์ตัดสิน "สองมาตรฐาน" ทำลายหลักนิติรัฐนิติธรรมเพียงเพื่อทำลายล้างนักการเมืองจนทำให้วิกฤตบานปลาย

ยิ่งเกิดวิกฤต แทนที่คนชั้นนำจะโทษตัวเอง กลับโทษประชาชนที่นิยมพรรคการเมือง และยิ่งคิดจำกัดอำนาจประชาชน ลงทุกขั้นตอน ตั้งแต่สกัดคนเข้าสู่เลือกตั้ง เพิ่มอำนาจกกต. และศาลแจกใบแดง ซึ่งมีผลเปลี่ยนแปลงคะแนนนิยม เพิ่มอำนาจองค์กรอิสระ สกัดการหาเสียงด้วยนโยบายจนแทบทำไม่ได้ เพิ่มอำนาจศาลรัฐธรรมนูญใช้ "มาตรฐานจริยธรรม" ถอดถอนตัดสิทธินักการเมืองโดยง่าย ทั้งที่ไม่ใช่ความผิดทางกฎหมาย


มิหนำซ้ำ ยังแก้ไขบทเฉพาะกาลตามคำขอ ให้ ส.ว. 250 คนมาจากการสรรหา แล้วแต่งตั้ง 5 ปี โดยมี 6 ผบ.เหล่าทัพเป็นโดยตำแหน่ง


เรื่องย้อนแย้งคือแล้วจะเอาไปทำประชามติทำไม ในเมื่อ คนไทยเคยเลือกตั้งส.ว.ตามรัฐธรรมนูญ 2540 เคยได้เลือกกึ่งหนึ่งตามรัฐธรรมนูญ 2550 แต่ครั้งนี้จะให้ลงประชามติริบอำนาจตัวเอง กลับไปให้แต่งตั้งทั้งหมด พ้น 5 ปีแล้วก็ใช่ว่าจะได้เลือกตั้ง เพราะเป็นระบบผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญสมัครเข้ามาเลือกกันเอง

ถ้าเสียงส่วนใหญ่ยอมลงประชามติตัดอำนาจตัวเอง แปลว่าคนไทยฉลาดขึ้น มีการศึกษา ตระหนักในศีลธรรมจรรยา อย่างนั้นหรือ


แน่ละ มีคนจำนวนหนึ่งแซ่ซ้องโห่ร้องยินดี "รัฐธรรมนูญปราบโกง" นักการเมืองต่อต้านเพราะปิดช่องไม่ให้พวกมันโกง แต่คุณมอบอำนาจให้ใครปราบโกง คนที่มาจากการสรรหาและแต่งตั้งโดยสนช. โดยส.ว. โดยองค์กรอำนาจที่คุณไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแม้แต่น้อย แต่คุณก็ยังเชื่อว่าการสรรหาโดยคนชั้นนำจะได้คนดีกว่าประชาชนเลือกมา


ที่จริง กรธ.พูดถูกนะครับว่า ต้องปฏิรูปการศึกษา เพราะการ ศึกษาไทยทำให้คนคิดไม่เป็น โดยเฉพาะพวกที่มีการศึกษา

ร่างรัฐธรรมนูญมีชัยเป็นตัวแทนความคิดอำนาจศักดิ์สิทธิ์ดีงามต้องมาจากการแต่งตั้ง มาจากการสรรหากันเองในหมู่คนชั้นนำ ซึ่งมีศีลธรรม มีวุฒิภาวะเหนือประชาชนทุกด้าน คนเหล่านี้สมควรมีอำนาจเพราะไต่เต้ามาในระบบราชการหรือสังคม อุปถัมภ์ อำนาจจากเลือกตั้งของชาวบ้านไว้ใจไม่ได้ แต่จำเป็นต้องเลือกตั้งให้สังคมโลกยอมรับ


เหลือเชื่อว่าความคิดนี้ย้อนกลับมาได้ทั้งที่ถูกปฏิเสธไปร่วม 30 ปี ทั้งที่เงื่อนไขทางสังคมและการเมืองเปลี่ยนไป ทัศนคติ ความเชื่อถือศรัทธาของประชาชนก็เปลี่ยนไป โลกวันนี้ยุคสังคม ออนไลน์ ไม่มีใครเชื่อใครโดยไม่ถูกตรวจสอบอีกแล้ว กระทั่งองค์กรอิสระที่เคยเป็นองค์กรเทวดาก็เสื่อมลงทุกขณะ


ร่างรัฐธรรมนูญนี้หรือที่จะให้ประชาชนลงประชามติ จะปรับ ทัศนคติอย่างไรให้คนไทยยอมรับว่าตนเองไม่สมควรมีอำนาจเลือกตั้ง ควรมอบอำนาจให้แต่งตั้ง

เอาละ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะผ่าน เพราะเราอยู่ในภาวะสังคม อับจนสิ้นหวัง ทุกชีวิตต้องระวัง เอาตัวรอดไว้ก่อน แต่ถามจริง จะใช้ปกครองได้อย่างไร ยังมองไม่เห็นเลย ว่าหมด ม.44 แล้วประเทศนี้จะไปอย่างไร




Inga kommentarer:

Skicka en kommentar