โรนินประชาธิปไตย ตอนที่ ๔๔
ตอน ความล้มเหลวของนายปรีดีและคณะราษฎร พ.ศ.๒๔๗๕
ตอน ความล้มเหลวของนายปรีดีและคณะราษฎร พ.ศ.๒๔๗๕
โรนินประชาธิปไตย ตอนที่ ๔๔
ตอน ความล้มเหลวของนายปรีดีและคณะราษฎร พ.ศ.๒๔๗๕
การศึกษาถึงความล้มเหลวของนายปรีดีและคณะราษฎร ๒๔๗๕ คือสิ่งที่คนรุ่นเรา ต้องถอดบทเรีย...น และนำมากำหนดทิศทางการต่อสู้ในยุคนี้ให้ชัดเจน
ตอน ความล้มเหลวของนายปรีดีและคณะราษฎร พ.ศ.๒๔๗๕
การศึกษาถึงความล้มเหลวของนายปรีดีและคณะราษฎร ๒๔๗๕ คือสิ่งที่คนรุ่นเรา ต้องถอดบทเรีย...น และนำมากำหนดทิศทางการต่อสู้ในยุคนี้ให้ชัดเจน
ความล้มเหลวของ นายปรีดีและคณะราษฎร พ.ศ.๒๔๗๕ คือ การขาดแคลนนักคิด ที่ผลิตงานวรรณกรรม มาแก้ไข วาทกรรมทางการเมืองของชนชั้น ผู้ปกครองที่มีมายาวนานคู่กับการก่อร่าง สร้างตัวของสังคมไทยทีมีรากฐานความคิดมาจากสังคมศักดินา
โลกวันนี้พัฒนาไปไกลกว่า พ.ศ. 2475 มากมาย การฝืนพัฒนาการของการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมที่ คสช.และระบอบอำมาตย์กำลังทำอยู่ ไม่สามารถต้านกระแสโลกาภิวัฒน์และกระแสความเท่าเทียมกันของมนุษย์ได้อย่างแน่นอน
สิ่งที่ คสช.และระบอบเดิมมี คือ อำนาจจากกระบอกปืน แต่ส่ิงที่เขาไม่มีคือ ความชอบธรรม และความสอดคล้องกับหลักการด้านต่างๆที่สากลยอมรับ ซึ่งสองประเด็นหลัง หาก คสช. กระทำมากยิ่งขึ้นไปเท่าไหร่ จะทำให้อำนาจจากกระบอกปืน ไร้ความหมาย เพราะปืนของพวกเขาใหญ่เพียงในกะลาแลนด์เท่านั้น แต่กระจอก กะจิ้ดริ้ด เมื่อโผล่ออกไปนอกกะลา
แต่สิ่งที่เป็นปัญหามากกว่า ในการออกจากวิกฤติการณ์ทางการเมืองไทย ในพ.ศ.นี้ ก็คือ การแก้ไขวาทกรรมทางการเมือง ที่ชนชั้นปกครองใช้ กระบวนการหล่อหลอม กล่อมเกลา ประชาชนในประเทศนี้มานาน แสนนาน จนมีผลให้ ประชาชน (เหล่าทาส ไพร่ยุคใหม่) เชื่อโดยสนิทใจว่า วาทกรรมนี่คือส่ิงที่ถูกต้อง
วาทกรรมเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็น
- คนไม่เท่าเทียมกัน (และไม่ควรเป็นเช่นนั้น)
- บ้านเมืองควรต้องปกครองโดยคนดี
- ประชาชน ต้องกตัญญูต่อ ชนชั้นผู้ปกครอง
- ชนชั้นผู้ปกครองเป็นผู้ถูกคัดเลือกโดย เทพ เทวดา แล้ว สืบทอดสายเลือด จากเทพดาชั้นสูง
- ชนชั้นผู้ปกครองเป็นผู้เสียสละให้แก่ประเทศนี้ สมควรได้รับการปกป้อง
ดังนั้น การแก้ไขความเชื่อจากวาทกรรมเหล่านี้ (ซึ่งชนชั้นผู้ปกครองใช้กับประชาชน เพื่อทำให้แตกแยกกัน ตามหลักการแบ่งแยกแล้วปกครอง) น่าจะยังต้องใช้เวลาอีกมากเพื่อเปลี่ยนแปลงความคิดที่ถูกตอก ถูกยัดเยียดเข้าไปใน สมองส่วนลึก ของเหล่าประชาชน
การแก้ไขโจทย์ประเด็นนี้ท้าทายยิ่งกว่า การโค่นล้ม คสช.
โลกวันนี้พัฒนาไปไกลกว่า พ.ศ. 2475 มากมาย การฝืนพัฒนาการของการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมที่ คสช.และระบอบอำมาตย์กำลังทำอยู่ ไม่สามารถต้านกระแสโลกาภิวัฒน์และกระแสความเท่าเทียมกันของมนุษย์ได้อย่างแน่นอน
สิ่งที่ คสช.และระบอบเดิมมี คือ อำนาจจากกระบอกปืน แต่ส่ิงที่เขาไม่มีคือ ความชอบธรรม และความสอดคล้องกับหลักการด้านต่างๆที่สากลยอมรับ ซึ่งสองประเด็นหลัง หาก คสช. กระทำมากยิ่งขึ้นไปเท่าไหร่ จะทำให้อำนาจจากกระบอกปืน ไร้ความหมาย เพราะปืนของพวกเขาใหญ่เพียงในกะลาแลนด์เท่านั้น แต่กระจอก กะจิ้ดริ้ด เมื่อโผล่ออกไปนอกกะลา
แต่สิ่งที่เป็นปัญหามากกว่า ในการออกจากวิกฤติการณ์ทางการเมืองไทย ในพ.ศ.นี้ ก็คือ การแก้ไขวาทกรรมทางการเมือง ที่ชนชั้นปกครองใช้ กระบวนการหล่อหลอม กล่อมเกลา ประชาชนในประเทศนี้มานาน แสนนาน จนมีผลให้ ประชาชน (เหล่าทาส ไพร่ยุคใหม่) เชื่อโดยสนิทใจว่า วาทกรรมนี่คือส่ิงที่ถูกต้อง
วาทกรรมเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็น
- คนไม่เท่าเทียมกัน (และไม่ควรเป็นเช่นนั้น)
- บ้านเมืองควรต้องปกครองโดยคนดี
- ประชาชน ต้องกตัญญูต่อ ชนชั้นผู้ปกครอง
- ชนชั้นผู้ปกครองเป็นผู้ถูกคัดเลือกโดย เทพ เทวดา แล้ว สืบทอดสายเลือด จากเทพดาชั้นสูง
- ชนชั้นผู้ปกครองเป็นผู้เสียสละให้แก่ประเทศนี้ สมควรได้รับการปกป้อง
ดังนั้น การแก้ไขความเชื่อจากวาทกรรมเหล่านี้ (ซึ่งชนชั้นผู้ปกครองใช้กับประชาชน เพื่อทำให้แตกแยกกัน ตามหลักการแบ่งแยกแล้วปกครอง) น่าจะยังต้องใช้เวลาอีกมากเพื่อเปลี่ยนแปลงความคิดที่ถูกตอก ถูกยัดเยียดเข้าไปใน สมองส่วนลึก ของเหล่าประชาชน
การแก้ไขโจทย์ประเด็นนี้ท้าทายยิ่งกว่า การโค่นล้ม คสช.
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar