ต้องมีรัฐบาลเผด็จการทหารที่มีอำนาจไม่จำกัด ปกครองประเทศไปแบบไม่มีกำหนด ไม่มีการเลือกตั้ง ไม่มีรัฐสภา ไม่มีนักการเมือง ประชาชนไม่มีสิทธิ์ทางการเมืองใดๆ ทั้งคิด พูด และแสดงออก
ผู้คนที่ “คิดต่าง” ทั้งหมดจะต้องถูก “เอาออกไปจากสังคม” นานเท่าใดก็ได้ จนกว่าจะ “เปลี่ยนทัศนคติ” ซึ่งก็คือ ให้ทำเหมือนพวกนาซีที่สร้างค่ายกักกัน แยกเอาคนยิว ยิปซี คนที่ต่อต้านนาซี พวกสังคมนิยม คอมมิวนิสต์ คนรักร่วมเพศ ออกไปจากสังคมอย่างถาวร หรือเหมือนพวกคอมมิวนิสต์โซเวียต-จีน-เกาหลีเหนือ ที่สร้าง “ค่ายแรงงาน” เอาไว้คุมขังล้างสมองคนที่คิดต่าง จนกว่าคนเหล่านี้จะ “ยอมเปลี่ยนทัศนคติ”
แสดงความไม่พอใจว่า รัฐบาลนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ “ลุงตู่” ยังเด็ดขาดไม่พอ อ่อนแอเกินไป ซึ่งถ้าหากยัง “เปลี่ยนทัศนคติของคนเห็นต่าง” ไม่สำเร็จ ก็สมควรที่จะเปลี่ยนคนที่เป็นผู้นำ
คำสัมภาษณ์ของนายปีย์ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือเฉพาะตัว ของ “คนแก่หลงยุค” คนหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นการสะท้อนทัศนะของชนชั้นนำไทยในขณะนี้ ที่ยืนยันว่า จะไม่มีการปฏิรูป ไม่ปรับตัว ไม่โอนอ่อน ไม่เปลี่ยนแปลงอะไรทั้งสิ้น ประชาชนต่างหากที่จะต้องยินยอมอยู่กับสภาพเช่นนี้ตลอดไปโดยไม่คิดเห็นต่าง ไม่ตั้งข้อสงสัย และไม่แสดงออกใดๆ
ปัญหาก็คือ วิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วนะครับท่านว่า สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงมีอยู่สองอย่างเท่านั้นคือ สิ่งที่สาบสูญไปแล้ว และสิ่งที่กำลังจะสูญ!
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar