หันหัวเรือ เข้าหาฝั่ง ก่อนนั่งเมรุ............
โดย ขุนเขาหันหัวเรือ เข้าหาฝั่ง ก่อนนั่งเมรุ............
หกสิบปีตาย สบายกาย
เจ็ดสิบปีตาย สบายหมอ
แปดสิบปีตาย ขายโลงรอ
เก้าสิบนี้หนอ อยู่รออะไร
อยู่จนแก่ จนเฒ่า ให้เขาแช่ง
ขาไม่แข็ง แรงไม่มี ดีไฉน
กินไม่ได้ ใจไม่สู้ อยู่ทำไม
คนอะไร ทนอยู่ได้ ไม่วายปราณ
หรือจะอยู่ ดูโลกไป ให้ถึงร้อย
นั่งขาห้อย ให้เขาเข็น เป็นสงสาร
กินปลาย่าง ก้างติดคอ ทรมาน
รับประทาน อาหารเหลว เกี่ยวสายคอ
เป็นมนุษย์ สุดยึดถือ คือความดี
ประพฤติดี มีเมตตา กินยาหมอ
ไม่ฆ่าสัตว์ ตัดชีวิต คิดสอพลอ
ชีวิตหนอ ก็อยู่ได้ ไม่ยากเย็น
หากยังคิด โลภโกรธหลง คงลำบาก
ทิฐิมาก ยากอยู่ได้ ใจเราเห็น
ฆ่าคนตาย หลายร้อยร่าง สร้างกรรมเวร
ใส่โลงเย็น เป็นศพตั้ง ยังคลุมเครือ
บทสุดท้าย ก่อนตายตก นกแสกร้อง
ใคร่ขอร้อง ปรองดองเถิด ประเสริฐเหลือ
ลดละเลิก เพิกกฎคลาย วอนนายเรือ
หันหัวเรือ เข้าหาฝั่ง ก่อนนั่งเมรุ............ก่อนเรือลำน้อยจะลอยออก......นอกทะเล
มาตรา 112 – ปะเด็นร้อน
ประเด็นร้อน มาตรา 112
หลายมุมมอง ที่สร้าง ความกังขา
เมื่อแก่นสาร สาระ เจตนา
บัญญัติมา เพื่อสิ่งใด ให้ทบทวน
คนไม่เคย เจอกับตัว อาจไม่รู้
คุณหมดสิทธิ์ จะต่อสู้ หรือไต่สวน
คุณจะถูก ห้ามประกัน ตีโซ่ตรวน
ทุกสำนวน ลับปกปิด หมดสิทธิ์ดู
เสรีภาพ ทางความคิด ของทุกท่าน
จะต้องถูก ปิดกั้น อย่างอดสู
ถ้าเห็นต่าง ทางความเชื่อ ไม่เชิดชู
ท่านมีสิทธิ์ ได้เข้าอยู่ ในตะราง
ถึงวันนี้ ใช่เรื่องของ ใครคนหนึ่ง
ทุกคนจึง ต้องพร้อมใจ ร่วมสะสาง
นิติราษฏร์ เพียงแค่ มาเปิดทาง
แสงสว่าง จะเกิดได้ ต้องช่วยกัน
คนไทยเดิ้ง เซิ้งกวี
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar