torsdag 26 januari 2017

ปรองดองไม่หกหก :คอลัมน์ ใบตองแห้ง


ปรองดองไม่หกหก
ใบตองแห้ง
ปรองดองแปลว่าอะไร วันก่อนฟังดีเจ.รายการวิทยุถาม เป็นไปได้หรือจะให้คนคิดเหมือนกัน พ่อแม่ลูก คนในครอบครัวยังคิดต่าง
ใช่เลย นั่นคือคำถามจี้ใจ คสช.ยินดีอยู่ร่วมกับคนคิดต่างไหม หรือจะใช้ปรองดองเป็นแค่เครื่องมือ “ปรับทัศนคติ” ให้ทุกคนยอมจำนนต่อระบอบทหาร ศาล รัฐราชการเป็นใหญ่ ซึ่งบัญญัติวาทกรรมใหม่ว่า “ประชาธิปไตยสมบูรณ์”
ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ใช่ปรองดอง เพราะปรองดองแปลว่าทำให้ความเห็นต่างอยู่ร่วมกันได้ ภายใต้กติกา ที่หนีไม่พ้นกติกาตัดสินด้วยเสียงส่วนใหญ่ แต่ปกป้องเสรีภาพเสียงข้างน้อย ให้แสดงความคิดเห็นได้
จะชอบหรือไม่ก็ตาม กติกาอยู่ร่วมกันของความเห็นต่างนั่นแหละ เรียกว่า “ประชาธิปไตย” จะยอมรับหรือไม่ยอมรับ ก็ฝืนความจริงไม่ได้ ไม่มีสังคมไหนหรอกคนคิดเหมือนกัน นอกจากสังคมทาส หรือสังคมบุพกาล
ฉะนั้นถ้าบอกปรองดอง แต่ไม่ยอมให้มีความเห็นต่าง มันก็ไม่ใช่ปรองดอง เป็นแค่บังคับให้ยอมจำนน ใครไม่ยอมก็กลายเป็นพวกบัวใต้น้ำ
คิดอย่างนั้นก็ปกครองประเทศต่อไปสิครับ จะบังคับปรองดองทำไม ไม่มีใครต่อต้านได้หรอก ยังไงก็ต้องจำนนต่ออำนาจทหาร ศาล และสิ่งที่เรียกว่า “กฎหมาย” ใครคิดต่างก็ใช้ พ.ร.บ.ห้ามชุมนุมสาธารณะ พ.ร.บ.คอมพ์ พ.ร.บ.สื่อ ฯลฯ หรือใช้อำนาจอะไรก็ได้ แบบอุ้มช่างซ่อมรถเสื้อแดงหายไป 6 วัน สั่งห้ามปริปาก อยากอยู่นานแค่ไหนก็อยู่ได้ ระหว่างนี้ก็ปฏิรูปการศึกษา ให้ซีพีช่วยปลูกปัญญา ไทยแลนด์ 4.0 สอนเด็กคิดเป็นแต่อย่าคิดต่าง สร้างพลเมืองในโอวาท
ขนาดอนุกรรมาธิการ สปท.ชูนโยบาย 66/23 เอาอย่างป๋าเปรม ท่านยังไม่เห็นด้วย แต่ก็ถูกต้องแล้วครับ พวกคิดเลอะเทอะ จะเอา 66/23 มาใช้ได้ไง 66/23 คือนโยบายยุติสงครามกลางเมือง ด้วยการคืนเสรีภาพประชาธิปไตย แม้เพียงครึ่งใบ ก็ยังดีกว่าสมัยรัฐบาลหอยหลัง 6 ตุลา แต่ยุคนี้สมัยนี้ยังไม่เกิดสงครามกลางเมืองซักหน่อย ไม่เห็นต้องถอย ปล่อยให้มีเสรีภาพความเห็นต่าง
66/23 มาตามเงื่อนไขประวัติศาสตร์ หลังจากเผด็จการยาวนาน เกิด 14 ตุลา 2516 เป็นประชาธิปไตยสั้นๆ 3 ปี ชนชั้นนำกลัวภัยคอมมิวนิสต์ ตั้งข้อหาประชาธิปไตยทำบ้านเมืองวุ่นวาย จนเกิด 6 ตุลา 2519 แล้วรัฐประหาร หลังจากนั้นจึงตระหนักว่าเดินผิดทาง ผลักนักศึกษาเข้าป่า พคท.เติบใหญ่ ขยายสงคราม ก็กลับลำรัฐประหารตัวเอง ล้มรัฐบาลหอย ร่างรัฐธรรมนูญ มีเลือกตั้ง กลับสู่ประชาธิปไตยครึ่งใบ เปิดพื้นที่ให้ NGO ชาวบ้าน สหภาพแรงงาน สื่อ มีเสรีระดับหนึ่ง
ขณะเดียวกัน พคท.เกิดขัดแย้งภายใน จากการจำกัดเสรีภาพ ไม่เป็นประชาธิปไตย อุดมการณ์สังคมนิยมเริ่มล่มสลาย จีนทำสงครามกับเวียดนาม หันมาจับมือรัฐบาลไทยหนุนเขมร 3 ฝ่าย พคท.ถูกโดดเดี่ยว พ่ายแพ้ทั้งการเมืองการทหาร 66/23 จึงออกมารองรับ ให้นักศึกษาประชาชนกลับบ้านได้
66/23 มาตามสเต็ป ไม่ใช่อยากปรองดองก็ 66/23 เริ่มต้นจากรู้ตัวก่อนว่าพลาดไปแล้ว ต้องปรับแนวทาง แม้ไม่เกิดการรับผิด ไม่สะสางความยุติธรรม ว่าใครเข่นฆ่า 6 ตุลา แต่หลังล้มรัฐบาลหอย ก็นิรโทษกรรมแกนนำนักศึกษาที่ถูกคุมขัง ต่างจากวันนี้ที่เกิดคดีความมากมายในรอบ 3 ปี กระทั่งไผ่ ดาวดิน ก็ยังไม่ได้ประกัน
ถามจริง ถึงวันนี้ มีใครเห็นว่า คสช.ทำผิด ต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง เพื่อสร้างความปรองดอง ใครมองอย่างนั้นยก มือขึ้น!
ก็ยังไม่เห็นทำผิดอะไรนี่ครับ ประชาธิปไตยก็พังก่อนทหารเข้ามา ทหารดีทุกอย่าง ทหารเป็นกลาง ไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับใคร ไม่ต้องเซ็น MOU แถมยังโปร่งใส ซื้อรถถัง ซื้อเรือดำน้ำได้ ในขณะที่งบขาดดุลเพิ่มหนี้ 1.9 แสนล้าน
นั่นสิ ทำไมจะต้อง 66/23 ย้อนยุคมนต์รักทรานซิสเตอร์ ในขณะที่อีกด้าน อุดมการณ์ประชาธิปไตยก็ไม่ได้ปลุกให้คนเข้าป่าจับปืน แถมไม่สามารถปลุกคนให้ลุกฮือต่อต้านเพื่อตายฟรี ขณะที่คนจำนวนมากไม่เดือดร้อนอะไร ปากกัดตีนถีบ ทำมาหากิน กลับบ้านไปดูเกมโชว์ ดูละครหลังข่าว
66/23 ไม่จำเป็น และเอามาใช้ก็ไม่ได้ผล ปรองดองก็ไม่จำเป็น และทำอย่างไรก็ไม่ได้ผล เพราะถึงอย่างไรก็จะมีคนคิดต่าง มีความเรียกร้องต้องการที่หลากหลาย
ถ้าไม่ต้องการให้คิดต่าง ถ้าไม่ต้องการแบ่งปันอำนาจ อยากคุมอำนาจไว้ให้มั่นคง ไม่หกกระเซ็น ก็ไม่ต้องปรองดอง ไม่ต้อง 66/23 ไม่ต้องเลือกตั้ง ทำตามโพลที่เรียกร้องให้ ลุงตู่อยู่นานๆ เพียงแต่ควบคุมอำนาจและความเห็นต่าง และแก้ปัญหาปากท้องให้ได้จริงๆ ก็แล้วกัน

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar