โดย ปูนนก
เหลือเวลาแค่ 2-3 วันเท่านั้นก็จะถึงวันที่ เสธ. อ้าย ประกาศชุมนุมใหญ่เพื่อขับไล่รัฐบาลที่ลานพระรูปแล้ว โดยการชุมนุมครั้งนี้กลุ่มองค์การพิทักษ์สยามได้ประกาศประชาสัมพันธ์เอาไว้อย่างเอิกเกริกว่าจะมีคนมาร่วมชุมนุมนับล้านคน เอาเถอะไม่ว่าคนจะมาชุมนุมเท่าไรก็ตามนั่นคงไม่ใช่ประเด็นสักเท่าใดนักเพราะจุดหมายสำคัญของการชุมนุมครั้งนี้อยู่ที่ “ล้มรัฐบาลและยุติการบริหารบ้านเมืองด้วยระบอบประชาธิปไตย” โดยนำการปกครองด้วยเผด็จการสมบูรณ์แบบมาใช้บริหารประเทศ ดังนั้นการชุมนุมครั้งนี้จะมองข้ามเสียไม่ได้โดยเด็ดขาด
เสธอ้าย ไม่ได้มีความสำคัญใดๆ เลยแม้แต่น้อยในการชุมนุมล้มรัฐบาลครั้งนี้เป็นแค่เพียง “ตลกหน้าม่าน” ก่อนโขนตัวจริงจะออกโรง เท่านั้น โดยอาศัยมวลชนที่มาชุมนุมจะสร้างให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในกรุงเทพฯ และถ้าทำได้ก็จะให้ถึงขั้น ปะทะ กันด้วยกำลังเกิดการบาดเจ็บล้มตาย ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะมีการขยายเรื่องให้ใหญ่โตโดยพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลเพื่อสร้างกระแสความปั่นป่วนในประเทศจนไม่อาจบริหารประเทศได้ดังที่เคยทำมาแล้วเหมือนสม้ยท่านนายกทักษิณ, นายกสมัคร, และนายกสมชาย
มีกระแสการวิเคราะห์ออกมาจากผู้รู้หลายท่านว่าการชุมนุมของ เสธ อ้าย ครั้งนี้ อาจจะใช้วิธีการล้มรัฐบาลตามแบบของทรอตสกี้ โดยพยายามทำเหมือนการปฏิวัติโดยประชาชนด้วยการไปยึดระบบสาธารณูปโภคทั้งหมดเพื่อสร้างความปั่นป่วนให้กับประชาชน และไปสร้างความกดดันให้กับรัฐบาลอีกทอดหนึ่ง ซึ่งประกอบกับมีกระแสออกมาอย่างต่อเนื่องเช่นกันว่าการชุมนุมครั้งนี้จะมีกำลังทหารจากหลายกรมกองแฝงกายเข้าร่วมชุมนุมด้วยเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการวิเคราะห์ว่าการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามจะใช้วิธีดังกล่าวเพื่อล้มรัฐบาลจึงมีความเป็นไปได้ไม่น้อยเช่นกัน เพราะถ้าเป็นเพียงการชุมนุมของมวลชนธรรมดาไม่มีทางที่จะล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนได้เลย ไม่ว่าจะใช้เวลาและมวลชนมากเท่าใดก็ตาม
เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาท่านนายกทักษิณ โฟนอินเข้ามาในการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่สมุทรปราการ ซึ่งถ้าพิจารณาจากการโฟนอินครั้งล่าสุดนี้จะเห็นได้ถึงน้ำเสียงและท่าทีการพูดที่แข็งกร้าวต่อการกระทำใดๆ ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลซึ่งไม่อยู่ในระบอบประชาธิปไตยอย่างชัดแจ้ง โดยแนะนำให้พี่น้องคนเสื้อแดงอยู่อย่างสงบในที่ตั้งแต่ต้องเปิดการสื่อสารที่สามารถติดต่อกันได้ตลอดเวลา ซึ่งพิจารณาจากการสื่อสารตรงนี้แล้วแสดงให้เห็นว่าทางการข่าวของท่านนายกทักษิณก็พิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการก่อความวุ่นวายจนถึงกับปะทะกันด้วยกำลังอยู่บ้างเช่นกัน
ผมเชื่อว่าการชุมนุมในครั้งนี้จะเป็นการชุมนุมครั้งสุดท้ายที่สำคัญที่สุดของกลุ่มอำนาจเก่า และกลุ่มอมาตย์ ประชาชนผู้รักประชาธิปไตยจะต้องมอบความไว้วางใจให้กับรัฐบาลในการดำเนินการในการต่อสู้ครั้งนี้ ต้องมั่นใจว่ารัฐบาลเองก็มีฝ่ายวิเคราะห์สถานการณ์อยู่เช่นกันและการต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นการต่อสู้ที่ชี้เป็นชี้ตายของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และรอคอยสัญญาณจากรัฐบาลเพื่อเข้าร่วมในการปราบกบฎ ซึ่งแม้ว่านักการเมืองที่อยู่ในรัฐบาลแต่ละคนอาจจะไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการต่อสู้เพื่อระบอบประชาธิปไตย หรือมีประโยชน์ทับซ้อนอยู่ก็ตาม แต่ในขณะนี้เวลานี้จำเป็นจะต้องร่วมมือร่วมใจกันไว้ก่อนจนกว่าจะถึงเวลาที่ “ฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน” เมื่อ “คนชั่วถูกปราบราบคาบสิ้น” แล้ว เมื่อนั้นค่อยมาดูแลนักการเมืองให้ทำตามสัญญาประชาคมที่พูดเอาไว้ก่อนรับเลือกตั้ง ก็ยังไม่สายครับ
ปูนนก
เหลือเวลาแค่ 2-3 วันเท่านั้นก็จะถึงวันที่ เสธ. อ้าย ประกาศชุมนุมใหญ่เพื่อขับไล่รัฐบาลที่ลานพระรูปแล้ว โดยการชุมนุมครั้งนี้กลุ่มองค์การพิทักษ์สยามได้ประกาศประชาสัมพันธ์เอาไว้อย่างเอิกเกริกว่าจะมีคนมาร่วมชุมนุมนับล้านคน เอาเถอะไม่ว่าคนจะมาชุมนุมเท่าไรก็ตามนั่นคงไม่ใช่ประเด็นสักเท่าใดนักเพราะจุดหมายสำคัญของการชุมนุมครั้งนี้อยู่ที่ “ล้มรัฐบาลและยุติการบริหารบ้านเมืองด้วยระบอบประชาธิปไตย” โดยนำการปกครองด้วยเผด็จการสมบูรณ์แบบมาใช้บริหารประเทศ ดังนั้นการชุมนุมครั้งนี้จะมองข้ามเสียไม่ได้โดยเด็ดขาด
เสธอ้าย ไม่ได้มีความสำคัญใดๆ เลยแม้แต่น้อยในการชุมนุมล้มรัฐบาลครั้งนี้เป็นแค่เพียง “ตลกหน้าม่าน” ก่อนโขนตัวจริงจะออกโรง เท่านั้น โดยอาศัยมวลชนที่มาชุมนุมจะสร้างให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในกรุงเทพฯ และถ้าทำได้ก็จะให้ถึงขั้น ปะทะ กันด้วยกำลังเกิดการบาดเจ็บล้มตาย ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะมีการขยายเรื่องให้ใหญ่โตโดยพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลเพื่อสร้างกระแสความปั่นป่วนในประเทศจนไม่อาจบริหารประเทศได้ดังที่เคยทำมาแล้วเหมือนสม้ยท่านนายกทักษิณ, นายกสมัคร, และนายกสมชาย
มีกระแสการวิเคราะห์ออกมาจากผู้รู้หลายท่านว่าการชุมนุมของ เสธ อ้าย ครั้งนี้ อาจจะใช้วิธีการล้มรัฐบาลตามแบบของทรอตสกี้ โดยพยายามทำเหมือนการปฏิวัติโดยประชาชนด้วยการไปยึดระบบสาธารณูปโภคทั้งหมดเพื่อสร้างความปั่นป่วนให้กับประชาชน และไปสร้างความกดดันให้กับรัฐบาลอีกทอดหนึ่ง ซึ่งประกอบกับมีกระแสออกมาอย่างต่อเนื่องเช่นกันว่าการชุมนุมครั้งนี้จะมีกำลังทหารจากหลายกรมกองแฝงกายเข้าร่วมชุมนุมด้วยเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการวิเคราะห์ว่าการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามจะใช้วิธีดังกล่าวเพื่อล้มรัฐบาลจึงมีความเป็นไปได้ไม่น้อยเช่นกัน เพราะถ้าเป็นเพียงการชุมนุมของมวลชนธรรมดาไม่มีทางที่จะล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนได้เลย ไม่ว่าจะใช้เวลาและมวลชนมากเท่าใดก็ตาม
เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาท่านนายกทักษิณ โฟนอินเข้ามาในการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่สมุทรปราการ ซึ่งถ้าพิจารณาจากการโฟนอินครั้งล่าสุดนี้จะเห็นได้ถึงน้ำเสียงและท่าทีการพูดที่แข็งกร้าวต่อการกระทำใดๆ ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลซึ่งไม่อยู่ในระบอบประชาธิปไตยอย่างชัดแจ้ง โดยแนะนำให้พี่น้องคนเสื้อแดงอยู่อย่างสงบในที่ตั้งแต่ต้องเปิดการสื่อสารที่สามารถติดต่อกันได้ตลอดเวลา ซึ่งพิจารณาจากการสื่อสารตรงนี้แล้วแสดงให้เห็นว่าทางการข่าวของท่านนายกทักษิณก็พิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการก่อความวุ่นวายจนถึงกับปะทะกันด้วยกำลังอยู่บ้างเช่นกัน
ผมเชื่อว่าการชุมนุมในครั้งนี้จะเป็นการชุมนุมครั้งสุดท้ายที่สำคัญที่สุดของกลุ่มอำนาจเก่า และกลุ่มอมาตย์ ประชาชนผู้รักประชาธิปไตยจะต้องมอบความไว้วางใจให้กับรัฐบาลในการดำเนินการในการต่อสู้ครั้งนี้ ต้องมั่นใจว่ารัฐบาลเองก็มีฝ่ายวิเคราะห์สถานการณ์อยู่เช่นกันและการต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นการต่อสู้ที่ชี้เป็นชี้ตายของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และรอคอยสัญญาณจากรัฐบาลเพื่อเข้าร่วมในการปราบกบฎ ซึ่งแม้ว่านักการเมืองที่อยู่ในรัฐบาลแต่ละคนอาจจะไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการต่อสู้เพื่อระบอบประชาธิปไตย หรือมีประโยชน์ทับซ้อนอยู่ก็ตาม แต่ในขณะนี้เวลานี้จำเป็นจะต้องร่วมมือร่วมใจกันไว้ก่อนจนกว่าจะถึงเวลาที่ “ฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน” เมื่อ “คนชั่วถูกปราบราบคาบสิ้น” แล้ว เมื่อนั้นค่อยมาดูแลนักการเมืองให้ทำตามสัญญาประชาคมที่พูดเอาไว้ก่อนรับเลือกตั้ง ก็ยังไม่สายครับ
ปูนนก
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar