การตีสองหน้าของกษัตริย์ภูมิพล
กษัตริย์ภูมิพลขึ้นครองราชย์โดยการแย่งชิงบัลลังก์มาจากพี่ชายของตัวเอง เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๙ เวลา ๙ .๔๕ นาฬิกา เสียงปืนดังขึ้นในพระทีนั่งบรมพิมาน ขณะที่รัชกาลที่ ๘ เสียชีวิตมีผู้ใกล้ชิดอยู่ในเหตุการเพียงไม่กี่คนหนึ่งในจำนวนนั้นคือภูมิพลผู้เป็นน้องชาย จากนั้นภูมิพลก็ได้ขึ้นครองราชย์ เป็นกษัตริย์แทนพี่ชายมาจนกระทั่งทุกวันนี้ คดีสวรรคต ร. ๘ ยังเป็นประเด็นที่มืดมนหาฆาตกรตัวจริงมาลงโทษไม่ได้จนถึงเวลานี้ว่าใครคือฆาตกรตัวจริง ซึ่งหลักฐานที่พอที่จะเชื่อได้ว่าฆาตกรตัวจริงยังมีชีวิตอยู่หรืออาจจะกำลังป่วยหนักจนไม่สามารถพูดได้ก็อาจจะเป็นได้ เรื่องนี้คือสาเหตุของความวุ่นวายทั้งหลายที่เกิดขึ้นในเมืองไทยตั้งแต่กษัตริย์องค์ปัจจุบันขึ้นมาครองราชย์ เพราะคดีสวรรคต ร. ๘ เป็นเรื่องที่ลึกลับมากผู้ที่เป็นฆาตกรเองก็ต้องการปกปิดเรื่องนี้ให้เป็นความลับสุดยอดจนตัวเองยอมตายคาบัลลังก์เพื่อปกปิดความลับนี้ไว้.
หลังจากกษัตริย์รัชการที่ ๘ สิ้นพระชนม์ลง รัฐบาลของคณะราษฎรในเวลานั้นได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นและมีพยานหลักฐานสืบทอดใกล้ตัวฆาตกรเข้าไปทุกทีแต่น่าเสียดายที่เกิดการรัฐประหารปี ๒๔๙๐ ขึ้นเสียก่อนโดยกลุ่มทหารฝ่ายขวาและพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นกลุ่มที่นิยมกษัตริย์ หลังจากนั้นก็มีการรัฐประหารมาเรื่อยๆอย่างต่อเนื่องจนถึงเวลาปัจจุบันมีรัฐประหารเกิดขึ้น ๑๐ ครั้งในรัชการของกษัตริย์ภูมิพล คือ ๒๔๙๐, ๒๔๙๑, ๒๔๙๔, ๒๕๐๐, ๒๕๐๑, ๒๕๑๔, ๒๕๑๙, ๒๕๒๐, ๒๕๓๔, ๒๕๔๙ . ถือว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการรัฐประหารมากที่สุดในโลก การรัฐประหารแต่ละครั้งก็มีกษัตริย์ภูมิพลมีส่วนร่วมทุกครั้งไม่โดยตรงก็โดยทางอ้อม หลังจากที่มีการรัฐประหารกษัตริย์ภูมิพลจะต้องลงพระปรมาภิไธยทุกครั้ง เพราะเหตุใด ?
เมื่วันที่ ๑๖ เดือนกันยายน ในปี พ.ศ ๒๕๐๐ เมื่อจอมพลแปลก พิบูลย์สงครามขอเข้าพบกษัตริย์ภูมิพลเพื่อขอรื้อฟื้นคดีสวรรคต ร. ๘ ขึ้นมาพิจารณาใหม่เพราะได้หลักฐานมาใหม่จากพลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์ หลังจากที่เผ่าได้พบและพูดคุยกับหนึ่งในสามทหารมหาดเล็กที่เป็นแพะรับบาปที่ถูกข้อหาว่าเป็นผู้ร่วมปลงพระชนม์ในหลวงอานันท์ หรือ ร. ๘ ก่อนถูกประหารชีวิต หลังจากจอมพลแปลกได้เข้าพบกษัตริย์แล้วก็เดินทางกลับออกจากวัง กษัตริย์ภูมิพลก็ได้เรียกให้สฤษดิ์เข้าพบแล้วบอกกับสฤษดิ์ว่าจอมพลแปลกจะขอปลดสฤษดิ์ออกจากตำแหน่ง !! สฤษดิ์ไม่พอใจจึงสั่งให้ทำรัฐประหารในวันนั้นเลยคือวันที่ ๑๖ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๐๐ เวลา ๑๙.๐๐ นาฬิกา
ในเหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ เมื่อนักศึกษาประชาชนเป็นจำนวนมากกำลังสลายตัวที่หน้าวังสวนจิตรลดาก็ถูกกระสุนปืนของกษัตริย์ที่สั่งผ่านมายัง มนชัย พันธ์คงชื่น นายตำรวจที่คุมกำลังเผชิญหน้ากับนักศึกษาอยู่ในเวลานั้นทำให้ผู้คนล้มตายและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก เมื่อฆ่านักศึกษาประชาชนแล้วกษัตริย์ภูมิพลก็ออกมาพูดทางวิทยุว่าให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน เหมือนกับให้เปรมออกมาพูดในทุกวันนี้ว่า “ ให้คนไทยรักกันเหมือนเดิม..”..
เมื่อนางสาว ยิ่งลักษณ์ได้ขึ้นมาเป็นรัฐบาลได้ไม่กี่เดือนกษัตริย์ภูมิพลก็สั่งไห้ปล่อยน้ำจากเขื่อนท่วมประเทศเพื่อหวังจะล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ จนประเทศชาติเสียหายผู้คนล้มตายอย่างไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทย
ปัจจุบันปัญหาความวุ่นวายและการขัดแย้งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในสังคมไทยในเวลานี้ก็มาจากการเตรียมการเปลี่ยนผ่านรัชกาล ซึ่งเดิมทีฟ้าชายเองย่อมมีสิทธิ์ตามกฏมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงค์ แต่กษัตริย์ภูมิพลต้องการจะให้ลูกสาวขึ้นเป็นรัชกาลที่ ๑๐ แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ทำตามนโยบายของทักษิณที่ต้องการให้ฟ้าชายขึ้นเป็นกษัตริย์รัชกาลที่ ๑๐ ตามกฎมณเฑียรบาล ซึ่งเป็นสาเหตุให้กษัตริย์และสมุนบริวารจึงมีความพยายามอย่างยิ่งที่จะโค่นล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ลงและตั้งรัฐบาลที่ตัวเองควบคุมได้ขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือในการเปลี่ยนผ่านรัชกาลให้เป็นไปตามความประสงค์ของตนนี่คือสาเหตุแห่งความวุ่นวายทีเกิดขึ้นในสังคมไทยในเวลาปัจจุบัน.
"ครม.หุ่นใบ้ ๗ นาที"เข้าเฝ้าเวลา ๑๗.๐๓ นาฬิกาเดินทางกลับ เวลา ๑๗.๑๐ นาฬิกา
ใช้เวลาในการเข้าเฝ้า ๗ นาที
ในอีกด้านหนึ่งภูมิพลออกมาเป็นหุ่นให้ ครม. ยิ่งลักษณ์ ๓ เข้าถวายสัตย์ เพื่อเป็นการอำพลางเพื่อหลอกลวงประชาชนชาวไทยและชาวโลกว่าสนับสนุนรัฐบาลยิ่งลักษณ์และว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่...
ดูชัดๆ คนอยู่เบื้องหลังล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
ในขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งภูมิพลก็ให้การสนับสนุนให้ลูกสมุนบริวารข้าทาสทั้งหลายออกมารณรงค์
เพื่อขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ นี่เป็นการตีสองหน้าของกษัตริย์ภูมิพล !!!
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar