ตำรวจ-ประกาศยกเลิกคำสั่งศอ.รส. เมื่อ 25 พ.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผบช.น. และโฆษกบช.น. กล่าวสรุปสถานการณ์หลังกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามยุติการชุมนุมว่า หลังจาก พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ในฐานะผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส) ได้ประชุมวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ร่วมกับบช.น. และทุกกองบัญชาการ พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวชมเชยกำลังข้าราชการตำรวจทุกกองบัญชาการที่ปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง สมศักดิ์ศรีข้าราชาการตำรวจไทย และสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ โดยผบ.ตร.สั่งการให้ฝ่ายข่าวและฝ่ายสืบสวนดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่อง
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวอีกว่า บช.น.ขอชี้แจงความชอบธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ของกองกำลังข้าราชการตำรวจ กรณีเหตุปะทะกันในตอนสายบริเวณแยกสะพานมัฆวานรังสรรค์ และตอนบ่ายที่แยกสวนมิสกวัน เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ยืนยันว่าได้ปฏิบัติตามนโยบายผู้บังคับบัญชา นโยบายของศอ.รส และตามกฎใช้กำลังอย่างถูกต้องครบถ้วน เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้กระทำผิดจำนวน 137 คน เนื่องจากฝ่าฝืนคำสั่งตามพ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 โดยควบคุมตัวไว้ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 จ.ปทุมธานี ฝ่ายกฎหมายและสอบสวนตรวจสอบพร้อมสอบปากคำแล้ว พบว่ามี 136 คนมีความผิดมีความผิดข้อหาฝ่าฝืนพ.ร.บ.ความมั่นคงฯ มาตรา 18 พนักงานสอบสวนดำเนินคดีขณะนี้อยู่ระหว่างปล่อยตัวไปโดยไม่มีหลักประกัน
“ส่วนที่เหลือ 1 คน คือ นายสมสมัย นิทาจิ๊ อายุ 58 ปี คนขับรถยนต์บรรทุกเครื่องเสียงพุ่งชนเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไว้ในความผิดข้อหาฝ่าฝืนพ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงฯ มาตรา 18 และข้อหาขับรถยนต์โดยไม่มีใบอนุญาต ส่วนข้อหาพยายามฆ่า ฝ่ายกฎหมายและสอบสวนกำลังตรวจสอบข้อมูลทางพยานหลักฐานอยู่หากปรากฏพยานหลักฐานที่ชัดเจนแล้วก็จะดำเนินการแจ้งข้อหาต่อไป ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราบนำตัวนายสมสมัย จากตชด.ภาค 1 ควบคุมตัวไว้ที่กองปราบปราม โดยผู้ต้องหามีสิทธิในการประกันตัวได้ แต่ต้องรอให้การสอบสวนเสร็จสิ้นเรียบร้อยก่อน” รองผบช.น.กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.อดุลย์ นำภาพจากกล้องซีซีทีวีและกล้องวีดิโอที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบันทึกภาพไว้ขณะเกิดเหตุปะทะกับผู้ชุมนุมทั้ง 2 จุด มาเปิดให้ดู พร้อมแจกให้สื่อมวลชน พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า ภาพที่บันทึกไว้เห็นว่า กลุ่มผู้ชุมนุมใช้เครื่องมือที่เตรียมมาตัดลวดหนาม รื้อแบริเออร์ ตำรวจได้จับกุมส่งสน.ดุสิต ดำเนินคดี 10 คน นอกจากนี้ยังมีภาพที่บันทึกไว้ขณะกลุ่มผู้ชุมนุมใช้รถบรรทุกฝ่าเข้าไปพุ่งชนตำรวจบาดเจ็บ 5 นาย โดยมีบาดเจ็บสาหัส 2 นาย มีภาพกลุ่มผู้ชุมนุมใช้แก๊สตาน้ำปาใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน กระทั่งตำรวจต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎการใช้กำลัง ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนตามแผน
ส่วนการประกาศยกเลิกประกาศปิดถนนและพื้นที่หวงห้ามนั้น พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า ที่ประชุมศอ.รส.ได้หารือเกี่ยวกับการประกาศยกเลิกคำสั่งและการขออนุมัตินายกรัฐมนเตรียกเลิกศอ.รส. โดยพล.ต.อ.อดุลย์ ฐานะผอ.ศอ.รส. มีมติอนุมัติให้ประกาศยกเลิกคำสั่งที่ 1-4/2555 ที่ระบุสถานที่ห้ามเข้าออก และถนนต่างๆ ที่ห้ามใช้เส้นทางคมนาคมและใช้ยานพาหนะ มีผลตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย.นี้เป็นต้นไป ส่วนการอนุมัติเลิกศอ.รส. ที่ประชุมมติให้เสนอต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อขออนุมัติต่อไป
เมื่อถามว่าทีแรกคาดการณ์ว่ามีผู้ชุมนุม 7.6 หมื่นคน แต่ยอดกลุ่มผู้ชุมนุมมีประมาณ 2.2 หมื่นคน สาเหตุเป็นเพราะเหตุใด พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า จากการประเมินในครั้งแรกทางสันติบาลได้ตรวจสอบว่าแต่ละพื้นที่จะมีผู้มาชุมนุมเท่าใด จากส่วนไหนบ้าง และรวบรวมมาจากทุกสาย ปรากฏว่าพอถึงวันชุมนุมจริงมีการยกเลิกในบางกลุ่ม ทราบภายหลังว่าเป็นเพราะตกลงกันไม่ได้ หรือหักกันอะไรต่างๆ จนไม่สามารถเข้ามาได้
söndag 25 november 2012
.......ฤๅหลักความยุติธรรมจะกลับคืนสู่สังคมไทย.......ขอฝากเตือนถึงฝ่ายอำมาตย์และนายทุนผู้สนับสนุนม็อบที่คิดจะนำแผนบันไดขั้น สอง สาม สี่ ออกมาใช้เพื่อทำลายรัฐบาล ทำร้ายประชาชน ทำร้ายประเทศชาติ จงลืมตาดูความล้มเหลวของ"ม็อบพอเพียง" ที่ผ่านมาคงช่วยให้พวกท่านรู้แล้วว่าประชาชนไทยได้เลือกแล้วว่าต้องการระบอบประชาธิปไตยที่มาจากปวงชนชาวไทยในการปกครองประเทศและประชาชนต้องการเป็นผู้กำหนดอนาคตของตัวเองและอนาคตของประเทศชาติ เมื่อรัฐบาลและประชาชนทุกหมู่เหล่าได้ร่วมจับมือกันทำสิทธิหน้าที่ตามกฎหมายภายใต้ระบอบประชาธิปไตย.
Prenumerera på:
Kommentarer till inlägget (Atom)
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar