lördag 3 november 2012

“สมาพันธ์โรงสีข้าวอาเซียน” มาทำความรู้จักคำว่า “แข่งกันขาย” กับ “ร่วมมือกันขาย” อะไรที่จะทำให้ข้าวมีราคาดีกว่ากัน .


โดย  ปลายอ้อกอแขม


ให้เชื่อเถอะว่า มนุษย์เรา ถ้าคิดได้ มันจะต้องทำได้เข้าสักวันหนึ่ง จะช้าหรือเร็วเท่านั้น ต้องหาวิธีทำให้เป็นไปตามความคิดจนได้ ตัวอย่างมีให้เห็นมากมาย เช่น เราคิดจะบินได้เหมือนนก เราคิดจะไปดวงจันทร์ จะไปดาวอังคาร เราคิดว่าจะคุยกับคนที่อยู่ไกลๆโดยไม่ต้องเดินทาง ฯลฯ หรือที่เรามีทุกอย่างในวันนี้..เพราะความคิด
ความคิด ก็ต้องบวกกับความพยายามที่จะทำครับ แค่คิดอย่างเดียวคงไม่สำเร็จ แต่เมื่อ “คิดได้”แล้ว มันก็สำเร็จไปเกือบครึ่ง อีกครึ่ง ก็คือหาทางทำในสิ่งนั้นให้ได้..คิดได้ ทำได้
“สมาพันธ์โรงสีข้าวอาเซียน” ที่ยิ่งลักษณ์ ผลุดไอเดียในคราวไปประชุมคณะรัฐมนตรีที่เวียดนาม จึงเป็นก้าวแรกแห่งการจุดประกายความคิดที่ให้เกิดการกระทำตามมา..เริ่มก้าวแรก
ความคิดรวบยอดก็คือ ต้องการให้ประเทศผู้ผลิตข้าวรายสำคัญๆทั้งหลาย รวมตัวกันให้เหนียวแน่น แล้วเข้ามาเป็นผู้กำหนดกลไกตลาดข้าว..เหมือนกลุ่มโอเปคที่กำหนดราคาน้ำมัน
น้ำมัน เป็นอาหาร เป็นพลังงานของเครื่องจักรกลต่างๆ ถ้าขาดน้ำมัน เครื่องจักรกลก็ไม่สามารถทำงาน แต่ “ข้าว”เป็นอาหารของมนุษย์หลายพันล้านคนบนโลกนี้ มนุษย์ต้องกินอาหาร ..เชื่อว่าไม่กินน้ำมัน
แค่คิดว่า “มนุษย์ต้องกินอาหาร เราคือแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญ ฉะนั้น เราต้องกำหนดตลาดให้ได้” แค่นี้ จากนั้น วิธีการที่จะไปสู่ความสำเร็จก็อยู่เอื้อม ที่มันยาก ยากแค่ความคิดเท่านั้น..ใช่ไหมครับ !
ในโลกนี้ ประเทศ “ขาใหญ่”ผู้ผลิตข้าวสำคัญมีอยู่ไม่ถึง 10 ประเทศ มีจีน อินเดีย ไทย เวียดนามเป็นหลัก แต่จีนที่มีประชากรจำนานมาก แค่ผลิตกินกันในประเทศก็เกือบจะไม่พอ ส่วนอินเดียก็เจียดขายออกมาไม่มาก เพราะประชากรก็เกือบพันล้านแล้ว ก็เหลือเวียดนามกับไทย..ที่คนยังไม่มาก
ถามว่า ประเทศไหน? ที่ไม่อยากขายข้าวให้ได้ราคาแพงบ้าง ไม่มีหรอกครับ เพียงแต่ว่าไม่รู้จะขายให้ได้แพงอย่างไรเท่านั้น..ตรงนี้ต่างหาก
และระหว่าง “แข่งกันขาย” กับ “ร่วมมือกันขาย” อะไรที่จะทำให้ข้าวมีราคาดีกว่ากัน ขณะที่ผู้ผลิตข้าว มีเพียงไม่กี่รายอย่างนี้ แค่ดูกลุ่มโอเป็คเป็นตัวอย่าง ..ก็คงตอบได้

ที่ผ่านมา แข่งขันกันขายข้าว ต่างคนต่างขาย ไม่เคยมีแนวคิดจะรวมกลุ่มจับมือกันเพื่อกำหนดราคาข้าว ฉะนั้น ราคาข้าวจึงไม่สูง ทั้งๆที่ข้าวมีความสำคัญยิ่งต่อชีวิตของมนุษย์..มองข้ามกันเอง
สมาพันธ์โรงสีข้าวอาเซียน จึงจุดประกายความคิดให้โลดแล่น ซึ่งแน่นอนว่าต้องถูกคัดค้านจากหลายๆประเทศ ที่ต้องการให้การค้าขายข้าวเป็นไปอย่างเสรี แต่ประเทศเหล่านั้น ทำไมไม่คิดบ้างว่า กว่าจะผลิตข้าว ออกมาได้สักเมล็ด มันเหนื่อยยากแค่ไหน ..สำหรับชาวนา
ผมคาดว่า ไม่เกิน 2 ปี หรือปี 2557 นี้ ไทย เวียดนาม อินเดีย จะจับมือกันตั้งสมาพันธ์โรงสีอาเซียนสำเร็จอย่างแน่นอน เพราะได้ประโยชน์ด้วยกันทุกฝ่าย และก็เป็นขาใหญ่แห่งอาเซียน..ครัวโลก
ราคาข้าวมันอยู่แค่นี้ไม่ได้หรอกครับ เมื่อเทียบกับจำนวนพลโลก ไม่ต้องไปสนใจว่าใครมันจะคัดค้านอย่างไร เชื่อว่า คนไม่ได้กลัวว่าข้าวจะแพง แต่กลัวไม่มีข้าวจะกิน..มากกว่า
ที่นี้แหละครับ ชาวนาไทย ชาวนาอาเซียน จะเป็นผู้กุมตลาดข้าวไว้ในมือ เหมือนกุมชะตาชีวิตคนทั้งโลกเอาไว้ ให้เป็นลูกไก่ในกำมือ..รอเวลา“บีบ”อย่างเดียว !!!

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar