ผมเชื่อว่า war room ของอมาตย์คงวาง Road Map ของการต่อสู้เอาไว้เช่นนั้น และพยายามทำให้สถานการณ์พัฒนาขึ้นไปจนถึงจุดนั้นให้ได้ เพราะจะว่าไปโดยวิธีพิเศษวิธีนี้เท่านั้นที่จะสามารถสยบทุกๆ ฝ่ายได้อย่างสิ้นเชิง ชนิดไม่มีใคร "กล้าหือ" ได้อย่างแน่นอน.. แต่ต้องขอย้ำว่า "นี่คือความคิดของ war room ของกลุ่มอมาตย์ที่ต่อต้านประชาธิปไตย" แต่จะเป็นไปเช่่นนั้นหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
อย่างน้อยมีเหตุการณ์ในอดีต 2 ครั้งที่สามารถใช้วิธีพิเศษเช่นนี้แล้วได้ผล ทุกฝ่ายยอมยุติและสงบเงียบลงอย่างสิ้นเชิง.. แต่อยากจะบอกเอาไว้อย่างหนึ่งว่า "อดีต นั้นคนทั้งหลายยังโง่อยู่ ใครจะทำอะไรก็ได้ไม่น่าเกลียด แต่มาถึงวันนี้คนทั้งหลายนั้นโง่น้อยลงมากแล้ว การจะทำอะไรแบบเดิมๆ นั้นไม่แน่ว่าผลจะเป็นเช่นเดิมเสมอไปก็เป็นได้"
วันที่ 19 พฤษภาคม 2553 คนไทยสวมเสื้อสีแดง ถูกล้อมฆ่ากลางกรุง เสียชีวิตนับร้อย บาดเจ็บนับพัน สูญหายนับไม่ถ้วน และทรัพย์สินเสียหายเหลือคณานับ ช่วงเวลานั้นคนทั้งประเทศต่างร้องกันระงมเพื่อขอให้มีเหตุการณ์พิเศษเกิด ขึ้นดังที่เคยมีมาในอดีต แต่ทว่าทุกอย่างกลับเงียบเชียบและสงบนิ่งเหมือนเสียงร้องเหล่านั้นอยู่เพียง แค่พื้นดินเคล้ากองเลือดเท่านั้น ไปไม่ถึงท้องฟ้า
แต่ทว่าวันที่ 24 พฤศจิกายน 2555 นี้ถ้าจะมีการปะทะกันบ้างเพื่อรักษาความสงบ อาจจะมีการสูญเสียเกิดขึ้นบ้างเพียงเล็กน้อย ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการที่เป็นสากลในการรักษาความสงบในประเทศ แล้วอยู่ๆ เกิดมีเหตุการณ์พิเศษเข้ามาแทรกซ้อนโดยขอให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งด้วย เสียงของประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ลาออกเพื่อยุติความรุนแรง หรือความขัดแย้งนั้น ท่านคิดว่า “คนจำนวนมากที่เริ่มโง่น้อยลงแล้วนั้น” จะยอมได้หรือ เขาจะยอมให้รัฐบาลของเขายอมทำเช่นนั้นหรือ???
ผมเชื่อว่าจะไม่มีเหตุการณ์พิเศษเช่นนี้ และหรือ ถ้ามี เหตุการณ์ก็จะไม่สงบเงียบอย่างสิ้นเชิงเช่นครั้งก่อนๆ
ไม่ว่าใครจะยอมสยบก็ยอมไปเถอะ แต่ผมไม่ยอมแน่ๆ
ปูนนก
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar