lördag 29 mars 2014

เอาว๊ะได้บุญ ..สร้างคน..สร้างชาติ...เป็นสิ่งที่คนในสังคมไทยต้องมีจิตสำนึกร่วมกัน หยิบยื่นโอกาสให้กันและกัน จับมือกันลุกขึ้นมาต่อต้านระบอบเผด็จการอำมาตย์ทรราชราชาธิปไตย...เพื่อสร้างโอกาสให้ประชาชนและสร้างอนาคตให้ประเทศไทย...คนด้อยโอกาสมีอยู่จำนวนมากมายคนในสังคมไทยนับเป็นการที่ประเทศสูญเสียทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าที่ประเมินมิได้ นี่คืออุปสรรคของการพัฒนาสังคมไทยทำให้สังคมไทยล้าหลัง....


โดย  สายลมรัก


น้ำตาคลอเลยเว้ย ไม่ใช่การเมือง ไม่ใช่ความขัดแย้ง แต่ขอระบายความรู้สึก
"ทำไมเรียนตั้ง ๗ ปีเลยหละลูก" ผมถามเป็นคำแรก หลังจากเด็กแนะนำตัว

เด็กหนุ่มนิ่งไปนิด พยายามเก็บความรู้สึก กับเสื้อแขนยาวสีมอ ๆ จากราวตลาดนัด กับปากกาบิ๊กส์ ราคาไม่กี่บาททีอกเสื้อ แล้วแกก็บอกว่า

"ผมดรอปเรียนไปสองปีครับ ปีเว้นปี เพราะต้องออกไปหาเงินมาเรียนต่อให้จบ"

กรรมการนิ่ง ผมถอนหายใจ (เดาตั้งแต่อ่านประวัติที่กรอกมาแล้วว่า เด็กคนนี้ คงผ่านอะไรมาเยอะ)

ผมวางปากกา เอามือเท้าคางมองหน้าเด็ก

ปากกัดตีนถีบมาตั้งแต่อายุเท่าไหร่ ?

แกก็พรั่งพรูมาแบบไม่อาย พ่อแม่เป็นคนบ้านนอก มาใช้ชีวิตอยู่ใน กทม. พ่อเลี้ยงทั้งแม่ ทั้งแก ด้วยเงินยาไส้เพียงน้อยนิด ปัจจุบันพ่อยังทำงานอยู่ เงินเดือนแค่ ๗๐๐๐ บาท ด้วยดีกรี ป.๔ แม่ตายไปแล้ว

"ทำไมไม่ขอทุน ? " (จบจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะ XXX เอก YYY)

"เขาเอาเด็กเรียนดีครับ ผมเรียนกลางวันเย็นทำงานถึงดึกนอนไม่มาก ไม่มีเวลาทบทวน เลยขอทุนไม่ได้ อีกอย่างทุนที่ให้มันก็แค่ค่าหนวยกิต อย่างเดียว เลยออกไปทำงานเก็บเงินเรียนเองดีกว่า สงสารพ่อแม่" (เป็นลูกมือเขาติดแอร์อยู่สองปี)

เคยสอนหนังสือนี่ ? เขียนว่าประสบการณ์เคยเป็นวิทยากรพิเศษ

"ครับเขาให้วันละ ๓๐๐ กับ ๕๐๐ ไม่กี่วัน สอนวิชาฟิฟิกส์ ในโรงเรียนเอกชน"

พอแล้วความจริงถามนาน ถามเยอะ ผมแทบจะถามอยู่คนเดียว

ได้แต่ ถอนหายใจ ปัจจุบันแกเป็นลูกจ้างหน่วยงานรัฐ เงินเดือนแค่ ๙๒๐๐ บาท อยากเป็นข้าราชการชั้นตรี เริ่มที่ หมื่นห้าพันบาท แต่สวัสดิการ ช่วยได้มาก

โลกหนอโลก เด็กอีกสองคนที่เพิ่งสัมภาษณ์ไปก่อนหน้า จบปริญญาสามปีครึ่ง จบมัธยมราชินี พ่อเป็นนายทหาร เด็กเนี๊ยบทุกอย่าง ตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า โลกนี้ช่างน่าสดใส

อีกคนหนึ่ง โตที่ต่างประเทศ ภาษาอังกฤษ สุดเนี๊ยบ เล่าประวัติตัวเองได้ลื่นไหล ไม่มีสะดุด ด้วยสำเนียงภาษาที่ดีเยี่ยม

เด็กผู้ชายคนนี้ ถ้ามีโอกาส คงเอาดีได้ เพราะคะแนนชีวิต ผมให้ A+++ แต่อย่างอื่นด้อยกว่าหมด

กว่าจะจบการสัมภาษณ์ น้ำตามันซึม ๆ สองสามครั้ง ไม่ใช่เด็กนะ แต่เป็นกรู (คนถาม)

เสร็จจากการสัมภาษณ์ตกลง เอาไว้สองคน เด็กคนนี้ "ตก"


จบการสอบสัมภาารื เหลือกรรมการอยู่สามคนคุยกันเพื่อสรุป

ผมกลั้นใจถาม "บัญชีนี้ โอนไปอยู่ที่ ตจว.ได้มั้ย (มีขาดอยู่) ให้มันได้มั้ย กูสงสาร"

หน.การเจ้าหน้าที่ ตอบกลับมา "เออผมก็สงสาร ผมเคยลำบากมาก่อนแต่ไม่เท่ามัน"

กรรมการทั้งสามคนจึง !@@$%$$&))_+_+_)* Z (ความลับ) โดยมีผมชักแม่น้ำทั้งห้า ขึ้นกล่อม กรรมการอีกสองคล้อยตาม แบบไม่ยาก

เอาเป็นว่า ขึ้นไว้สำรองอันดับ ๑ ไปอยู่ต่างจังหวัด มีบ้านพักให้ เมียก็ยังไม่มี มีพ่อคนเดียว เอาพ่อไปอยู่ด้วยได้ แถมไม่ต้องเสียค่าเดินทาง(ถามเด็กแล้วมันบอกว่าถ้าติดมันไป)

เฮ้อ...จำไว้นะไอ้คุณลูกทั้งหลาย พ่อแม่ ส่งเสีย หาเงินให้เรียน ดันไม่อยากเรียน อยากเท่ห์ อยากซ่า อยากแรด ดูกรณี ตัวอย่างไว้บ้าง

แม้นจะด้อยโอกาส แต่ไม่เคยที่จะทอดอาลัยกับชีวิต สู้จนมาถึงขั้นนี้ได้

ลูกผู้ใหญ่บางคน ฝากเข้ามาทำงาน อย่าให้เซด...ไม่รู้พ่อแมร่งสอนมาอย่างไร แต่ไป ๆ มา ๆ ก็อยู่ไม่ได้ เพราะเพื่อนร่วมงานไม่ค่อยมีใครเสวนาด้วย ส่วนมากจะลาออกไปเรียนต่อต่างประเทศ (ฮา)

เฮ้อ.......วันนี้ รู้สึกงัยก็ไม่รู้

เอาว๊ะได้บุญ

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar