onsdag 26 mars 2014

วันวานไม่หวานแล้ว... เพลงยาวพยากรณ์กรุงรัตนโกสินทร์เคยเขียนทำนายเอาไว้ว่า สูงสุดจะกลับต่ำสุด และที่ต่ำสุดก็จะกลับไปสถิตอยู่สูงสุด หรือบางคำทำนายที่บอกว่า วิญญาณมนุษย์แท้ที่จริงก็ออกจากร่างนั้นไปนานแล้ว เหลือแต่วิญญาณสุนัขที่ครองร่างและสังขารนั้นอยู่



วันวานไม่หวานแล้ว

จักรภพ เพ็ญแข - Jakrapob Penkair

แล้วการเลือกตั้งเมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๗ ทั้งยวงก็ล้มครืนไปตามลมปากขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ สมตามระบอบการปกครองแท้จริงของไทยที่ปวงชนชาวไทยไม่มีสิทธิ์และเสียงที่จะกำหนดใจตนเอง แต่ต้องจุดธูปบูชาวิงวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้บันดาลอะไรๆ ตามใจปรารถนาของตนเองแทน ความจริงไม่ต้องพูดอะไรกันมาก ใครยกเอาสถาบันกษัตริย์มาอ้างได้เต็มปาก โดยสถาบันฯ ไม่ได้ออกมาปฏิเสธหรือชี้ถึงความไม่เหมาะสมในการกล่าวอ้างเช่นนั้น ก็เท่ากับว่า ได้รับสัญญาณให้ทำอะไรก็ได้ในสังคมไทย ถูกหรือผิดกฎหมายก็ได้ ถึงขนาดล่วงละเมิดคนไทยทั้งประเทศก็ได้ โดยแสดงให้เห็นกระจะตากันว่าเป็นประเทศใครใหญ่ใครอยู่ ผมไม่รู้ว่าความประมาทแบบนี้เกิดขึ้นตอนไหน แม้ในรัชกาลก่อนๆ ที่เป็นสมบูรณาญาสิทธิราช ก็ได้อ่านอยู่หลายช่วงตอนในประวัติศาสตร์ว่าเขาเกรงใจราษฎรกันดีอยู่ ในสมัยรัชกาลที่ ๔ ก็เคยมีพระราชโองการ เตือนให้ราษฎรและข้าราชบริพารหลบหลีกกรมพระยาอะไรองค์หนึ่ง ที่ชอบเมาสุราอาละวาดระรานชาวบ้านอยู่เนืองๆ เรียกว่ามีความเกรงใจและเข้าใจชาวบ้านดีพอใช้ทีเดียว แต่ในปัจจุบันความเกรงใจราษฎรนั้นดูจะจางหายไป ยิ่งราษฎรยกระดับขึ้นเป็นพลเมือง มีความเป็นหุ้นส่วนประเทศมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ดูจะยิ่งมีเทวดาบางตนที่ซาดิสต์อยากลองของมากขึ้น กระทำการที่บาดใจปวงชนทั่วทั้งประเทศ เพียงเพื่อจะดูว่า ใครมันจะกล้าหือ ยุคสมัยเช่นนี้เองที่เพลงยาวพยากรณ์กรุงรัตนโกสินทร์เคยเขียนทำนายเอาไว้ว่า สูงสุดจะกลับต่ำสุด และที่ต่ำสุดก็จะกลับไปสถิตอยู่สูงสุด หรือบางคำทำนายที่บอกว่า วิญญาณมนุษย์แท้ที่จริงก็ออกจากร่างนั้นไปนานแล้ว เหลือแต่วิญญาณสุนัขที่ครองร่างและสังขารนั้นอยู่ เรื่องแบบนี้ผมไม่เคยเชื่อถือและไม่เอามาเป็นเรื่องจริงจัง แต่เอามาคิดตอนนี้ก็สนุกดีเหมือนกัน

       วันนี้จึงขอเขียนไว้สั้นๆ ว่า มวลชนประชาธิปไตยโปรดอย่าได้เสียอกเสียใจอะไรนักเลยครับ อีกไม่กี่วันเขาจะปลดนายกรัฐมนตรีอีก หรือเขาจะใช้ประธานวุฒิสภาคนใหม่ยึดอำนาจการปกครองแผ่นดินหรือแม้แต่จะเปลี่ยนหัวของประเทศในคราวเดียวกันนี้เลย ก็ให้เขาทำ อย่าไปเจรจาขอลดราคาอะไรเป็นอันขาด การปรับตัวทางการเมืองและสังคมของไทย คั่งค้างมานานหลายสิบปี เหมือนคนเป็นหนี้สินขนาดหนักที่ต้องปล่อยให้สึมานิโถมเข้ามาทีเดียวเปลี่ยนภูมิทัศน์เขาหลักไปแทบทั้งหมด รัฐไทยก็คงต้องเป็นเช่นนั้น ก่อนหน้านี้เราทั้งหลายต่างหวังในรัฐไทยทั้งรัฐกลับสู่ความสงบ และเข้าโรมรันในเกมเศรษฐกิจระหว่างประเทศอย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่มาบัดนี้เราคงต้องเตรียมการไปอีกทางหนึ่ง ถึงเขาเป็นฝ่ายที่เริ่มต้น เราก็คงไม่นั่งบ่นคร่ำครวญให้เขาได้ทุกอย่างดั่งใจทั้งหมด อย่างน้อยก็ในระยะต่อไปที่เราต้องแสดงศักดิ์ศรีของฝ่ายประชาชนให้ปรากฏชัด

สรุปไว้อย่างนี้ก็แล้วกันครับ:

เมืองเอ๋ย เมืองไทย
สะใจคนใหญ่หฤหรรษ์

ใช้ระบบมั่วซั่วช่างหัวมัน
ให้ผ่านวันกูได้สบายดี

ลูกหลานไม่เหลือบแลทั้งแม่พ่อ
ตัดช่องน้อยเพียงพอขอกูหนี

หวังได้ล่วงสรวงสวรรค์บันไดมี
เหยียบไม่ดีพลาดนรกตกนรกานต์

เรามาร่วมรวมกำลังตั้งใจใหม่
อย่าอาลัยโรคจิตวิตถาร

ให้สีแดงธงชาติอลังการ
เป็นรากฐานรัฐไทยไม่นานเอย.

ที่มา:
http://bit.ly/1iYxtoc          

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar