![[IMG]](https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn1/t1.0-9/s640x640/10256290_1485353078345620_1210271764054387477_n.jpg)
![[IMG]](https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/t1.0-9/10313550_1485367555010839_9008491582522248949_n.jpg)
ศาลออกมาแล้ว!!!!!!! ชี้แจงว่า ไม่มีอำนาจและขัดรัฐธรรมนูญ
ในการเสนอนายกฯม.7 อ้าวว..แล้วเทือกจะไปยังไงหล่ะทีนี้..
"ศาลปกครอง-ศาลยุติธรรม"ออกตัว มองเป็นเรื่องการเมือง หลังกปปส.เสนอร่วมหารือเสนอชื่อนายกฯม. 7 ชี้ไม่มีในรัฐธรรมนูญ
แหล่งข่าวจากศาลปกครอง กล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.เสนอให้นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ว่าที่ประธาน ส.ว.ร่วมหา รือประธานศาลฎีกา ประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และประธาน กกต.เพื่อหาบุคคลเป็นกลาง เสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญฯ ม.7 พร้อมทำหนังสือถึงประธานศาลต่างๆให้ร่วมการหารือ ว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นการความเห็นทางการเมืองของฝ่ายหนึ่ง ก็ไม่ทราบว่านายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด จะมีความเห็นอย่างไรต่อกรณีดังกล่าว เพราะคงตอบแทนประธานศาลปกครองสูงสุด คงต้องรอดูว่าจะมีการเข้ามาหารือจริงหรือไม่ อย่างไร เพราะขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดใดๆจากผู้ที่เกี่ยวข้อง เพียงได้แต่ทราบข่าวทางสื่อมวลชนเท่านั้น
ขณะที่ฝั่งศาลยุติธรรม ผู้พิพากษาอาวุโสท่านหนึ่ง แสดงความเห็น มองว่าแนวทางดังกล่าวไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมือง ที่ผ่านมาช่วงแก้วิกฤติบ้านเมืองก่อนเกิดการทำรัฐประหารปี 2549 ที่มีการประชุมหารือ 3 ศาล ประกอบด้วยศาลฎีกา ศาลปกครอง และศาลรัฐธรรมนูญนั้น เป็นเรื่องแนวทางที่จะยึดหลักกฎหมายและหลักนิติธรรรมในการวินิจฉัยคดีต่างๆที่เข้าสู่แต่ละศาล ด้วยความอิสระ รวดเร็ว ยุติธรรม ถูกต้อง ตามกฎหมายและบทญัตติรัฐธรรมนูญ
แต่ไม่ใช่กรณีที่จะร่วมกันเสนอชื่อบุคคลใดตามแนวทางที่ กปปส.แถลง ขณะที่ถ้าพิจารณาจากบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฯ แล้วก็ไม่มีมาตราใดที่จะให้ตุลาการ กระทำเช่นนั้น ทั้งนี้ต้องรอดู ว่าที่ประธานวุฒิฯคนใหม่ จะพิจารณาข้อเสนอของ กปปส.มาปฏิบัติหรือไม่ และถ้าเป็นจริงฝ่ายตุลาการจะเห็นอย่างไร เพราะถ้าจะทำเช่นนี้ต้องมองอีกด้านหนึ่งด้วยว่า ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับ กปปส.คงไม่ยอมและพร้อมจะออกมาคัดค้าน แล้วจะทำอย่างไรเพื่อให้ลดความขัดแย้งนั้นได้ คงไม่ง่ายที่จะให้ 3 ประธานศาลเสนอชื่อบุคคลใดเพราะเสมือนการนำศาลที่เป็นเสาหลักบ้านเมืองไปยุ่งเกี่ยวการเมือง ซึ่งแม้ศาลจะใช้อำนาจตุลาการ ที่เป็น 1 ใน 3 อำนาจอธิปไตยตามระบอบการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่การใช้อำนาจตุลาการ ที่สำคัญคือการวินิจฉัยอรรถคดีด้วยความเป็นธรรม เสมอภาค และยึดหลักนิติธรรม โดยศาลจะใช้อำนาจตุลาการ ตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจฝ่ายบริหาร การเมืองได้ จากการที่ฟ้องคดีเพื่อวินิจฉัยว่ามีพฤติการณ์การใช้อำนาจรัฐที่ถูกต้องหรือไม่อย่างไร ดังเช่นกรณีที่ศาลปกครองและศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยพิพากษาการใช้อำนาจโยกย้ายข้าราชการ ที่ล่าสุดคือกรณีนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วที่ศาลจะต้องตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจรัฐตามระบอบประชาธิปไตย แต่การใช้อำนาจตรวจดังกล่าวต้องมีผู้เสียหาย ผู้มีสิทธิ์ตามกฎหมาย ฟ้องเป็นคดีเข้ามา ไม่ใช่กรณีที่ศาลจะหยิบยกประเด็นขึ้นมาเอง
ดังนั้นกรณีที่ กปปส.เสนอ ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ก็ต้องคิดอย่างระมัดระวังด้วยหากนำมาปฏิบัติแล้วจะทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทด้วยหรือไม่ และถ้าอีกฝ่ายจะใช้วิธีการเช่นเดียบกับ กปปส.ออกมาชุมนุมกดดันแล้วบ้านเมืองจะดำเนินไปแนวทางใด วิกฤติจะคลี่คลาย หรือจะเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ ทุกฝ่ายคงต้องคิดอย่างถี่ถ้วน อย่างไรก็ดีการเลือกตั้งก็ยังต้องเป็นส่วนหนึ่งการปกครอง แต่จะทำกันอย่างไรให้การเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับ
ที่มา..นสพ.กรุงเทพธุรกิจ
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar