måndag 11 maj 2015

อำนาจ"สมบัติผลัดกันชม " ทหารกับการเมืองการแย่งชิงที่ไม่มีวันสิ้นสุดจากอดีตจนถึงปัจจุบัน บนความหายนะของประเทศชาติ บนความเดือดร้อนของประชาชน ที่ถูกจับเป็นตัวประกันครั้งแล้วครั้งเล่า พวกท่านทำเพื่ออะไร? อย่าลืมว่าประเทศไทยเป็นของคนไทยทุกคนไม่ใช่ของพวกท่านกลุ่มเดียว พวกท่านก็แก่กะโหลกะลาวัยใกล้ลงโลงกันทั้งนั้น? โปรดปล่อยวางเลิกยึดติดกับอำนาจสิ่งสมมุติที่ไม่จีรังยั่งยืน ใช้ชีวิตปั้นปลายเสวยสุขบนกองเงินกองทองของพวกท่าน อย่าผูกขาดอำนาจปล่อยให้คนหนุ่มคนสาวคนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสใช้ความรู้ความสามารถพัฒนาบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าประชาชนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีพ้นจากความยากจนเสียทีได้ไหม.. ด้วยความปรารถนาดี...

มติชนออนไลน์
คลิกดูเพิ่ม-matichononline


ฐานการทหาร  ฐานการเมือง

ทําไมทุกครั้งที่มีการขยับขับเคลื่อนจาก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ จึงก่อให้เกิดผลสะเทือนในเชิงปฏิกิริยาสะท้อนตามมาเหมือนกับระลอกคลื่นในมหาสาคร
 


อาจเป็นเพราะ 1 นามของคน เงาแห่งไม้
ขณะเดียวกัน อาจเป็นเพราะ 1 เพราะสถานภาพแต่กาลอดีตของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ แสดงให้เห็น "เครือข่าย" อันเป็นความสัมพันธ์ค่อนข้างสลับซับซ้อน
ทั้งความสัมพันธ์ทาง "ทหาร" ทั้งความสัมพันธ์ทาง "การเมือง"


"คอนเน็กชั่น" หรือที่เรียกว่า "เครือข่าย" แห่งความสัมพันธ์ต่างหากที่ทำให้แม้วัยจะเหยียบเข้าสู่เลข 83 แล้วก็ยังน่าเกรงขาม  มิอาจสบประมาท มิอาจมองข้ามได้


จากเครือข่ายทางด้าน "การทหาร" ทำให้รากฐานของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หนักแน่นดุจแผ่นผา ไม่เพียงในฐานะ "ลูกป๋า" ทำงานสนองให้กับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ตั้งแต่ยังเป็น ผบ.ทบ. กระทั่งสไลด์เข้าดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีในเดือนเมษายน 2523


หากยิ่งกว่านั้นตัว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ยังเดินตามรอย "ป๋า" ทั้งในฐานะ ผบ.ทบ. และ ผบ.ทหารสูงสุด และที่สุดก็ "นายกรัฐมนตรี" ในเดือนพฤศจิกายน 2539
นี่ย่อมเป็น "รากฐาน" อันมากด้วยความมั่นคงและ "แข็งแกร่ง"

อย่าดูหมิ่น "ป๋า"
อย่าดูหมิ่น "ลูกจิ๋ว"


คล้ายกับการทะยานเข้ามาของ คสช. และของรัฐบาลปัจจุบันไม่มีอะไรยึดโยงอยู่กับอำนาจและบารมีของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์   เพราะล้วนเป็น "บูรพาพยัคฆ์"
เติบใหญ่ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 เป็นเหล่าทหารราบ มิได้เติบใหญ่ในกองทัพภาคที่ 2 และมิได้เป็นเหล่าทหารม้า   ทั้งยังองอาจ สง่างามภายใต้ร่มธงแห่ง "ทหารเสือราชินี"


แต่อย่าลืมเป็นอันขาดว่า การเคลื่อนไหวของ กปปส. ผ่านกระบวนการ "ชัตดาวน์" กทม. ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 รากฐานสำคัญมาจากพรรคประชาธิปัตย์ รากฐานอันแน่นหนามาจากพื้นที่ภาคใต้
นี่คือปัจจัยในการ "ปูทาง" และสร้าง "เงื่อนไข" ทางการเมือง


ยิ่งกว่านั้น เมื่อมีการสถาปนา "แม่น้ำ 5 สาย" ขึ้น ไม่ว่าแม่น้ำสายที่ 1 คสช. แม่น้ำสายที่ 2 รัฐบาล แม่น้ำสายที่ 3 สนช. แม่น้ำสายที่ 4 สปช. แม่น้ำสายที่ 5 กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ก็มีเครือข่าย "ลูกป๋า" เข้าไปมีบทบาทร่วมด้วย
หากไม่มีบทบาท ไฉนสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 จึงยังค้างเติ่งอยู่เล่า
หากไม่มีบทบาท ไฉนทุกคราที่มีวาระสำคัญก็จำเป็นต้องมีการตบเท้าเข้าไปแสดงความคารวะอย่างเป็นประจำ   อย่าลืมว่า "ลูกจิ๋ว" ก็เป็น "ลูกป๋า" อย่างยาวนานยิ่งกว่าใครไหนอื่น

รากฐานการทหาร
ฝอ.3 ฝ่ายยุทธการ



พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เติบใหญ่ในฐานะนายทหาร "ปฏิบัติการพิเศษ" ทำงานด้านการข่าว ทำงานด้านยุทธการ แม้จะสังกัดเหล่า "ทหารสื่อสาร"
สมญานามแห่ง "ขงเบ้ง" แห่งกองทัพบก มิใช่จับสลากได้
งานด้านหลักของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ คือการต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ ไม่ว่าในต่างแดน ไม่ว่าระหว่างชายแดน ไม่ว่าในเขตแทรกซึม
 

ผลึกแห่งความคิด 1 คือ การเสนอให้จัดตั้ง "ทหารพราน"
 ผลึกแห่งความคิด 1 ซึ่งสำคัญเป็นอย่างมากก็คือ หลักการ "การเมืองนำการทหาร" อันปรากฏผ่านคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523 นำไปสู่การวางอาวุธ นำไปสู่การยุติ "สงครามกลางเมือง"
ตรงนี้เองจึงทะยานจาก นายทหารคนสนิทรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ไปสู่ตำแหน่งเจ้ากรมยุทธการทหารบก ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบก รองเสนาธิการทหารบก เสนาธิการทหารบก ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารสูงสุด
จากนั้นอำลากองทัพเข้าดำรงตำแหน่งทางการเมืองทั้ง รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย


ในที่สุดก็ "นายกรัฐมนตรี"เป็นนายกรัฐมนตรีภายหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2539 ในฐานะหัวหน้าพรรคความหวังใหม่ซึ่งได้ชัยชนะจากการเลือกตั้งของประชาชนวัย 83 อันสุกงอม
ดินระเบิด ลูกจิ๋ว



เหตุปัจจัยอันใดทำให้อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตผู้บัญชาการทหารบก อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ต้องออกมาเดินสายทั้งๆ ที่มีอายุย่างเข้าปีที่ 83 
เดินสายไปร่วมงานบุญกับผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย
เดินสายไปพบปะรับเรื่องราวร้องทุกข์จากเกษตรกรชาวนาผู้ประสบปัญหาในอาชีพในการดำรงชีวิต
รับรู้ความขัดแย้งทางความคิด รับรู้การแตกแยกในทางการเมือง
คำตอบจาก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เด่นชัดและตรงไปตรงมาว่า เพราะห่วงใยและเห็นใจในชะตากรรมของชาวบ้าน   ไม่ว่าจะเรียกว่า "ราษฎร" ไม่ว่าจะเรียกว่า "พลเมือง"












Inga kommentarer:

Skicka en kommentar