måndag 18 maj 2015

"ไม่ขาว ไม่ดำ" ปัญหาโรฮิงญา ในทัศนะ อ. Somsak Jeamteerasakul

วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 23:15:00 น.
ที่มา เฟซบุ๊ก Somsak Jeamteerasakul





ถ้าจะมีปัญหาอะไรปัจจุบัน ที่มีลักษณะ "ไม่ขาว ไม่ดำ" คือมีลักษณะที่ไม่สามารถใช้เหตุผลใดเหตุผลหนึ่งมาสนับสนุนนโยบายให้ปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นหลักหรือเด็ดขาดไปเลยคือเรื่องผู้ลี้ภัยทางเรือนี่แหละทั้งกรณีโรฮิงญาที่ไทยกำลังเจอ และกรณีผู้ลี้ภัยทำนองเดียวกัน ในที่อื่นๆ ทั่วโลก ที่มาเกิดขึ้นในเวลาใกล้ๆ กัน (เดือนที่แล้วนี้เอง มีผู้ลี้ภัยจากอัฟริกา ล่องเรือพยายามมายุโรป แล้วเรือล่มในเมดิเตอร์เรเนียน มีคนตายถึงราว ๑ พันคน ที่ออสเตรเลีย นโยบาย "ผลักคืน" push-back เรือผู้ลี้ภัย ก็กำลังเป็นประเด็นใหญ่โต ในระยะไม่กี่ปีนี้)

ผมตามอ่านการดีเบตเรื่องโรฮิงญา แล้วก็รู้สึกอยู่ว่า ทั้ง ๒ ฝ่าย ให้เหตุผลในลักษณะ "เว่อร์" (หรือ excessive คือ "เกินไป") ทั้งคู่ แน่นอน มีคนตั้งข้อสังเกตว่า งานนี้ ทั้งเหลืองและแดง "สามัคคีกัน" คือ ส่วนใหญ่แสดงความรังเกียจที่จะรับโรฮิงญา ซึ่งฝ่ายที่วิพากษ์ก็พูดถูกที่ว่า การแสดงความรังเกียจหรือเหตุผลที่ยกมาในการสนับสนุนการไม่ยอมรับหลายอัน มีลักษณะ ไร้มนุษยธรรม, racism (รังเกียจทางเชื้อชาติ) และ xenophobia (ความกลัวคนต่างชาติ) ซึ่งก็เหมาะสมอยู่ที่จะวิพากษ์

แต่ผมก็เห็นว่า การให้เหตุผลในเชิง "มนุษยธรรม" ล้วนๆ มีลักษณะ excessive หรือเว่อร์ อยู่หลายคนเช่นกัน คือเรื่องนี้มันไม่ง่ายแค่ว่า "เห็นแก่มนุษยธรรม ควรรับ" อะไรแบบนั้น ไม่มีประเทศไหนสามารถรับผู้ลี้ภัยแบบไม่จำกัดหรือแบบที่มาเรื่อยๆ ไม่หยุด ไม่ลด ได้แน่ และเหตุผลเชิงมนุษยธรรมล้วนๆ ไม่สามารถใช้กับการกำหนดนโยบายในเรื่องนี้ได้ (ไม่ว่าที่ไทยหรือยุโรป) กรณีที่ "บ.ก.ลายจุด" สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบางคน ยกเรื่องจีนอพยพสมัยก่อนมาเปรียบเทียบ (เพื่อด่าพวกลูกหลานจีนทั้งหลายที่ตอนนี้แสดงความรังเกียจโรฮิงญา) ผมก็ว่า เป็นอะไรที่คลาดเคลื่อนนะ (ดูที่ผมเขียนในช่องคอมเม้นท์ของกระทู้นี้ http://goo.gl/rX6KZO ผมควรเพิ่มอีกนิดด้วยว่า ในสมัยที่สยามรับคนจีนแบบไม่มีโควต้านั้น คนที่อพยพออกก็มาก คืออพยพเข้าปีละเป็นหมื่นๆ และอพยพกลับจีนไปปีละเป็นหมื่นๆ เช่นกัน เรื่องนี้ไม่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ไม่ว่าในกรณีผู้อพยพทีไหน ไทยหรือยุโรป)

(จริงๆ เรื่อง "มนุษยธรรม" นั้น ถ้าพูดกันในเชิงปรัชญาแบบถึงที่สุดในกรณีนี้จริงๆ มันยังซับซ้อนในแง่เกี่ยวกับปัญหา "การตัดสินใจ" ด้วยตัวเองของฝ่ายลี้ภัยด้วย ในแง่ของการตัดสินใจที่จะลี้ภัย คือมันเป็น "อ๊อปชั่น" หรือ "ช้อยซ์" อย่างหนึ่งของพวกเขาเองเช่นกัน หมายถึงว่า ไม่ใช่การลี้ภัยทุกกรณีเป็นเรื่องที่ "ไม่มีทางเลือก" เสียทั้งหมด แต่เรื่องนี้ เป็นอะไรที่พูดแล้วยาว เอาเข้าจริง เหตุผลเชิง "คุณธรรม" เป็นอะไรที่มักมีปัญหาเถียงได้ในเชิงปรัชญาไม่รู้จบ)

จริงๆ โดยส่วนตัว ผมก็โน้มเอียงไปในทางที่อาจจะเรียกว่า "รับชั่วคราวเฉพาะหน้ามากๆ อย่างมีเงื่อนไข" ประมาณอาจจะต้องตั้งเป็นศูนย์รับเฉพาะชั่วคราว ในขณะที่ดำเนินเรื่องการเจรจากับประเทศต่างๆ (กรณีโรฮิงญา ผมยังมองว่า ประเทศที่ผิดทีสุดคือพม่านั่นแหละ รวมถึง "ฝ่ายค้าน" พม่า คุณอองซานซูยี ด้วย ที่ไม่ถือว่า คนโรฮิงญาเป็นคนพม่า ตามหลักปัจจุบัน ทุกคนที่เกิดในเขตรัฐก็ต้องถือว่าเป็นคนของรัฐนั้น คนโรฮิงญาที่เกิดในรัฐยะไข่ พม่าก็ควรต้องถือเป็นคนพม่าเต็มที่)

แต่ขณะเดียวกัน ถ้าพูดกันจริงๆ ผมเห็นอยู่เหมือนกันว่า แม้แต่การ "ผลักดัน" (push-back โดยช่วยเรื่องอาหาร น้ำท่า เพื่อการเดินทางต่อ) มันมี point หรือมี "เหตุผล" อยู่เหมือนกัน ในแง่ที่ว่า ถ้าเริ่มรับแล้ว ก็มองหาจุดที่จะหยุดไม่ได้ และจะมีการมาเพิ่มเรื่อยๆ (อันนี้เป็นอะไรที่ผมว่าจริงอยู่ คือถ้ามีข่าวว่า ประเทศใดรับผู้ลี้ภัยทางเรือเสมอ ทั้งคนลี้ภัยเอง ทั้งเครือข่าย-นายหน้า ที่ดำเนินการเรืองนี้ ก็จะมุ่งดำเนินหรือเพิ่มการลี้ภัยโดยมี "เป้า" ที่ประเทศนั้นๆ อยู่)

บางทีก็เคยนึกเล่นๆ ว่า อาจจะต้องใช้ประเภท "รับบ้าง ผลักบ้าง" ด้วยซ้ำ แต่ก็รู้ว่า นี่เป็นอะไรที่ไม่เวิร์คเช่นกัน .. คือจริงๆ เรื่องนี้ ไม่ว่านโยบายไหน ก็ไม่เวิร์คเต็มที่ และมีปัญหาใหญ่ที่เป็นลูกโซ่ตามมาทั้งนั้น (ย้ำว่า "ใหญ่" นะ คือไม่ว่าทางไหน ก็จะมีปัญหาที่ใหญ่ๆ จริงๆ ตามมา ไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ)

เรื่องลี้ภัยทางเรือนี้ ผมตามมาตั้งแต่สมัยที่ใช้ชีวิตอยู่ในออสเตรเลีย และก็ตามเรื่อยมา ยิ่งมาตอนนี้ ก็ยิ่งสนใจเพราะสถานะของตัวเองด้วย (อย่างที่เขียนไปตอนต้น ใครที่ตามเรืองที่ยุโรป คงพอรู้ว่า ตอนนี้ มี "วิกฤต" หนักมากเรื่องนี้) มันเป็นอะไรที่ "แก้ไม่ตก" ในระยะเฉพาะหน้าจริงๆ ยกเว้นแต่จะต้องแก้ปัญหาที่ "ต้นเหตุ" (ซึ่งก็คงไม่ได้ทำให้ปัญหาหมดไปทั้งหมด แต่อย่างน้อย จะลดลงกว่านี้มาก) คือ ที่ตะวันออกกลาง-อาฟริกาเหนือ และที่ในพม่าเอง ซึ่งปัญหาก็ยังอยู่ว่า ปัญหา "ต้นตอ" เหล่านี้ ก็ไม่มีแนวโน้มจะแก้ได้ในเวลาสั้นๆ เสียอีก
        







1 kommentar:

  1. .
    [บทเพลงแปลง]
    .
    ปูเยียวยา...
    ปูเยียวยา...
    ซากศพร้องบอกเจ้า ปูเยียวยา
    .
    แผ่นฟ้าสบตีนดินช้ำ
    ร้องร่ำต่อโชคชะตา
    บาดแผลขอการเยียวยา
    ไพร่ทักษาข้าฯ ไร้เจ้ายิน
    .
    http://goo.gl/CBSEs3
    เพลงแปลง, ปูเยียวยา,เพลงโรฮิงญา, ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
    .

    SvaraRadera