lördag 16 maj 2015

กราบนมัสการ ไว้อาลัยการละสังขารของหลวงพ่อคูณพระอริยะสงฆ์เจ้าผู้ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ ผู้ดำรงสืบทอดพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง มีกิจวัตรน่าเลื่อมใสศรัทธาแห่งภาคอีสาน ท่านได้ละสังขารไปตามกฎการธรรมชาติ" เกิด แก่ เจ็บ ตาย" (ไม่ใช้สเต็มเซลล์ Stem Cell ฉีดรักษาเยื้อชีวิตเหมือนพวกอมนุษย์ที่ไม่ยอมตาย..). ท่านไม่ยึดติด ไม่เยื้อยุดชีวิต ไม่ฝืนกฎแห่งความตาย...ได้หลุดพ้นออกจากวังวนแห่งกิเลสของพวกมนุษย์ในสังคมอันเสื่อมโทรมเต็มไปด้วยสัตว์มนุษย์ที่"ทุศีลขาดธรรม" จิตใจวิปริตโหดเหี้ยมอำมหิตมองเห็นประชาชนเพื่อนร่วมชาติเป็นข้าศึกศัตรู กิเลสหนามัวเมาหลงไหลแย่งชิงอำนาจสิ่งสมมุติโกหกหลอกลวงตัวเองไปวันๆ.. ...ท่านคือตัวอย่างพระสงฆ์อริยะเจ้าที่แท้จริงสมควรกราบไหว้ด้วยความเคารพศรัทธา....


คณะแพทย์แถลงด่วน "หลวงพ่อคูณ" มรณภาพแล้ว เมื่อเวลา 11.45น


คลิกอ่าน-.http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1431753802
รูปภาพของ matichononline
เบื้องหลังพินัยกรรมหลวงพ่อคูณทำไมไม่ให้เก็บศพไว้บูชาเหมือนเกจิรูปอื่นๆ


เปิดบันทึกหนังสือ"หลวงพ่อคูณ"รู้ล่วงหน้า ทำไมต้องมอบร่างให้โรงพยาบาล เมื่อกูตายแล้ว...!?!
คลิก-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1431768236



-http://www.oknation.net/blog/sutku/2008/01/16/entry-4
-------------------
เปิดพินัยกรรมหลวงพ่อคูณ บริจาคศพให้คณะแพทย์มหาวิทยาลัยขอนแก่น ก่อนนำมาฌาปนกิจแบบเรียบง่าย ห้ามขอพระราชทานเพลิงศพ อัฐิ อังคารลอยแม่น้ำโขง
พินัยกรรมก่อนตายของหลวงพ่อคูณเขียนเอาไว้เมื่อประมาณ ๔ ปีที่ผ่านมา โดยพินัยกรรมดังกล่าวมีพยานรับรอง ๔ คน คือ ๑.ร.ศ.สุขชาติ เกิดผล รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ๒.นายประทีป วงษ์กาญจนรัตน์ ๓.นายธวัช เรืองหร่าย ไวยาวัจกรวัดบ้านไร่ และ ๔.นายเนาวรัตน์ สังการกำแหง นิติกร ๘ (ชำนาญการ) มหาวิทยาลัยขอนแก่น
สำหรับเนื้อหาพินัยกรรมดังกล่าวมีข้อความว่า อาตมาหลวงพ่อคูณ อายุ ๗๗ ปี ถิ่นพำนักวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ลงวันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๔๓ ขอทำพินัยกรรมกำหนดการ เผื่อถึงการมรณภาพ เกี่ยวกับเรื่องการจัดงานศพของอาตมา ภายหลังที่อาตมาถึงมรณภาพลง
๑.ศพของอาตมา ให้มอบแก่มหาวิทยาลัยขอนแก่นภายใน ๒๔ ชั่วโมง หลังจากมรณะภาพลง เพื่อให้มหาวิทยาลัยขอนแก่น มอบให้กับภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำไปศึกษาค้นคว้าตามวัตถุประสงค์ของภาคต่อไป
๒.พิธีกรรมศาสนา การสวดอภิธรรมศพ ให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นทำพิธีสวด พระอภิธรรมศพ ที่คณะแพทยศาสตร์ ๗ วัน ตั้งแต่ถึงวันมรณภาพลง
๓.การจัดทำพิธีบำเพ็ญกุศลเมื่อสิ้นสุดการศึกษาค้นคว้าของภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นแล้ว ให้จัดงานแบบเรียบง่าย ละเว้นการพิธีสมโภชน์ใดๆ และห้ามขอพระราชทานเพลิงศพ โกฏิและพระราชพิธีอื่นๆ เป็นกรณีพิเศษเป็นการเฉพาะ โดยให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กระทำพิธีเช่นเดียวกับการจัดพิธีศพของอาจารย์ใหญ่นักศึกษาแพทย์ประจำปีร่วมกับอาจารย์ใหญ่ท่านอื่น แล้วเผา ณ ฌาปนสถานวัดหนองแวง พระอารามหลวง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น หรือวัดอื่นใดที่คณะแพทยศาสตร์เห็นสมควรและเหมาะสม โดยทำพิธีเผาให้เสร็จสิ้นที่จ.ขอนแก่น
๔.เมื่อดำเนินตามข้อ ๓ เสร็จสิ้นแล้ว อัฐิ เถ้าถ่าน และเศษอังคารทั้งหมด ให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นนำไปลอยที่แม่น้ำโขง จ.หนองคาย ตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม
๕.ค่าใช้จ่ายและเงินอื่นใดที่เกิดขึ้นจาการดำเนินการตามนัย ข้อ ๒,๓ และ ๔ ให้ดำเนินการ ดังนี้
๕.๑ ค่าใช้จ่ายในการจัดงานและบำเพ็ญกุศลศพทั้งหมด ให้นำเงินที่อาตมาบริจาคให้แก่ภาควิชาวิทยาศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อปี ๒๕๓๖ เป็นเงินเริ่มต้นในการดำเนินการจัดงานศพ ถ้าไม่เพียงพอให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทดรองจ่ายไปกอ่น
๕.๒ ในการจัดการและบำเพ็ญกุศลศพ ตามนัยข้อ ๕.๑ หากมีเงินเหลือหรือมีผู้บริจาคสมทบ ให้คืนเงินที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทดรองจ่ายไปก่อนให้เสร็จสิ้น
๕.๓ หากมีเงินเหลืออยู่อีกหลังจากดำเนินการตามนัยข้อ ๕.๑ และข้อ ๕.๒ แล้วให้มอบแก่กองทุนพระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฎ์(หลวงปู่เทสก์) เพื่อนำไปใช้ในกิจกรรมช่วยเหลือพระสงฆ์ที่อาพาธประจำหอผู้ป่วยหอสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือให้ดำเนินการอย่างอื่นตามที่อาตมาหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธเห็นสมควร โดยอาตมาจะแสดงความประสงค์ให้ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรเพิ่มเติมแนบไว้ให้ทราบต่อไป หากไม่ดำเนินการให้ถือตามความในตอนต้นเท่านั้น
๖.ให้นายอำเภอด่านขุนทด ศึกษาธิการอำเภอด่านขุนทด และคณะบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกันเป็นผู้จัดการศพ มีอำนาจดำเนินการให้เป็นไปตามพินัยกรรมนี้
๗.ให้ยกเลิกพินัยกรรม ฉบับวันที่ ๑๕ ก.ย. ๒๕๓๖ หรือฉบับอื่นใดที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ และให้ยึดถือพินัยกรรมฉบับนี้แทน
๘.พินัยกรรมฉบับนี้ ต้นฉบับเก็บรักษาไว้ที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และได้มีการทำสำเนาไว้อีก ๓ ชุด เก็บรักษาไว้ที่วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ศึกษาธิการอำเภอด่านขุนทด และนายอำเภอด่านขุนทด แห่งละ ๑ ฉบับ






( ท่านละสังขารแล้วศานุศิษย์ควรเคารพในเจตนารมณ์ที่ท่านต้องการตามพินัยกรรมที่ท่านเขียนไว้  สิ่งที่ควรยึดถือทำต่อไปคือดำรงชีวิตยึดมั่นศรัทธาในคำสั่งสอนของท่านที่ให้ไว้ไม่ใช่ไปยึดติดกับสังขารท่าน )


แพทย์ชี้พ่อคูณมรณภาพตั้งแต่วัดบ้านไร่แล้ว ลูกศิษย์ยอมทำตามพินัยกรรม ส่งสรีระสังขารไป มข.
รูปภาพของ matichononline




ลูกศิษย์ระงมเปล่งเสียงสาธุ ส่ง”หลวงพ่อคูณ”ไปเป็นอาจารย์ใหญ่ ที่คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1431787040

(สัจธรรม มีเกิดก็มีดับ เป็นของธรรมดา ไม่ต้องเสียใจ ทุกคนต้องตายหนีไม่พ้น อีกไม่นานพวกลูกศิษย์ก็ตายเหมือนกัน หมั่นทำสิ่งดีๆละกิเลสเสียสละคืนกำไรส่วนเกินให้สังคมส่วนรวมบ้างบ มองเพื่อนร่วมชาติเป็นคนเท่าเทียมกันตายไม่เอารัดเอาเปรียบกัน) 
ข่าวเพิ่มเติมล่าสุด
คณะบดีคณะแพทยศาสตร์ มข. ระบุหลังบำเพ็ญกุศลหลวงพ่อคูณ 7 วัน นำร่างไปใส่อ่างแก้วพิเศษที่เข้ากราบได้ ดอง 1 ปีก่อนเป็นอาจารย์ใหญ่2 ปี
คลิกอ่านรายละเอียด-มข.เชิญชวน ศิษยานุศิษย์ สวดพระอภิธรรมบำเพ็ญกุศล หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ




รวบรวมหลักธรรมคำสอนของหลวงพ่อคูณมาฝาก แม้ในวันนี้จะไม่มีท่านแล้ว แต่หลักธรรมคำสอนของท่านก็ยังเป็นที่ติดตราตรึงใจมิเสื่อมคลาย อาทิ
“กูไม่มีอะไรมาก กูไม่มีอะไรจะสอนพวกมึงหรอก เพราะพวกมึงก็รู้ว่ากูพูดไม่เป็น พูดไม่เก่งเหมือนเขา เทศนาว่ากล่าวอะไรก็ไม่เป็น กูมีแต่ว่าให่ละชั่ว ทำดีกันเท่านั้นแหละ บุญบาปมีจริงลูกหลานเอ้ย ให่เชื่อว่าบุญมีจริง บาปมีจริง ให่ละชั่ว ทำดี มีศีลธรรมประจำใจ บุญเห็นกับตา บาปเห็นกับตา รักตัวกลัวภัยอย่าทำชั่ว ให่ตั้งอยู่ในเมตตา”
หลวงพ่อคูณกล่าวว่า ขึ้นชื่อว่าบุญมีอะไรก็ทำไป อย่าไปเลือกว่าบุญมากบุญน้อยทำไปก็มากเอง
“คนนับถือศาสนาพุทธ ไม่ต้องเชื่ออะไร เชื่อบุญมีจริง บาปมีจริง ก็ใช่ได้ เท่านั้นพอ ไม่ต้องทำอะไร”

“โลภ โกรธ หลง มึงอย่าไปหลงงมงายเชียวน่ะ ถ้ามึงไม่อยู่ในศีลในธรรมมึงก็จะเป็นไปตามกรรมที่มึงสร้างไว้”
“คนเรา เมื่อมีเมตตาให้กับผู้อื่น ผู้อื่นเขาก็จะให้ความเมตตาตอบสนองต่อเรา ถ้าเราโกรธเขา เขาก็จะโกรธเราตอบเช่นกัน ความเมตตานี่แหละ คืออาวุธที่จะปกป้องตัวเราเองให้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง เป็นอาวุธที่ใครๆ จะนำเอาไปใช้ก็ได้ จัดว่าเป็นของดีนักแล”
“พระไม่ได้อยู่กับคนชั่วแต่อยู่กับคนดี ให้นึกว่าพระมากับเราจะทำชั่วไม่ได้ อย่าทำตัวผิดศีลธรรม ผิดจารีตประเพณี โดยเฉพาะการทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท”
เรื่องราวและคำสอนที่ทางทีมงานได้หยิบยก ขึ้นมานำเสนอ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ทั้งสิ้น แม้วันนี้หลวงพ่อจะจากเราไปแล้ว แต่ท่านก็ยังทิ้งหลักธรรมคำสอนไว้ให้พุทธศาสนิกชนรุ่นหลังได้เลือกนำไป ปฏิบัติ เมื่อได้เกิดมาสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ ความตาย ชีวิตมนุษย์เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ดอก คนเราไม่มีทางรู้วันตายอย่างแน่นอน สังขารย่อมร่วงโรยตามกาลเวลา นี่ก็เป็นอีกหนึ่งคำสอนที่หลวงพ่อได้พูดเตือนสติน้องสาวแท้ๆของท่านเอง… 
MThai News
ขอขอบคุณเรื่องจาก อ.ก๋ง ซินแซเทวดา,หนังสือ ธรรมะโอวาท





Inga kommentarer:

Skicka en kommentar