onsdag 2 mars 2016

สถานการณ์พลิกผัน " เลือดย่อมข้นกว่านํ้า"




สถานการณ์พลิกผัน " เลือดย่อมข้นกว่านํ้า" กับความจริงที่ไม่อาจปฎิเสธได้ เมื่ออำนาจทุกอย่างของครอบครัวตกไปอยู่ในมือของผู้ดูแลครอบครัวคือ"พระองค์ เปรม"ว่าที่ผู้สำเร็จราชการผู้ใช้อำนาจแทนพระองค์.... ประชาชนจะได้หยุดมโนไม่สับสน. รอความหวังลมๆแล้งๆ ที่ไม่มีวันเป็นจริง


เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ..ภาพนี้บอกอะไรแก่ประชาชนไทย

โดย  แสงตะวัน

การเปลี่ยนผ่านขึ้นสู่ราช บัลลังก์ของรัชกาลที่๑๐   ระหว่างฟ้าชายและฟ้าหญิง ดูเหมือนจะลงเอยด้วยการตกลงกันได้ระหว่างพี่กับน้อง    เพราะถึงอย่างไรก็เป็นสายเลือดในครอบครัวเดียวกัน   ถ้าไม่มีการวางแผนจากฝ่ายประธานองคมนตรีเปรมกับพวกทหารและอำมาตย์ ที่สนับสนุนเปรม   ที่คิดจะเชิดฟ้าหญิงขึ้นเป็นรัชกาลที่  ๑๐     ขึ้นแทนฟ้าชายซึ่งเป็นองค์มกุฎราชกุมาร    เพื่อเป็นเครื่องมือให้  เปรม  สุรยุทธ์ พร้อมสมุน และ พรรคประชาธิปัตย์ จะได้ครองอำนาจเสวยสุขสืบต่อไป    

แต่เหตุการณ์กลับเปลี่ยนแปลงไม่เป็นไปตามแผนที่่ฝ่ายเปรมคิดไว้   เพราะในช่วงหลังนี้เปรมไม่สามารถเข้าเฝ้าถวายงานกษัตริย์ภูมิพลได้    จนกระทั่งถึงวันที่กษัตริย์ภูมิพลได้ถูกเคลื่อนย้ายออกจากศิริราชไปอยู่ที่หัวหินและนำกลับมาพำนักที่ศิริราชอีกครั้งเพราะป่วยอาการหนัก(โคม่า)จนถึงปัจจุบันไม่ปรากฎพระวรกาย  แสดงให้เห็นว่าเปรมเองและสุรยุทธ์รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ ถูกลอยแพ จากฝ่ายกษัตริย์และพระบรมฯ?    ทำให้เปรมและสุรยุทธ์ไม่สามารถเอากษัตริย์และฟ้าหญิงมาอ้างเป็นเครื่องมือทำการใดๆ เพื่อใช้แสวงหาอำนาจได้อีกต่อไป   ความหวังที่จะเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์    ซึ่งเป็นความทะเยอทะยานใฝ่ฝันอันสูงสุดในชีวิตของเฒ่าเปรมก็ยิ่งห่างใกลออกไปทุกที  

เพราะเป็นโอกาสเดียวที่เปรมกับพวกสมุนและพรรคประชาธิปัตย์จะมีโอกาสรอดได้    เปรมก็แก่ชราสมองเลอะเลือนจำคำพูดตัวเองไม่ได้แล้ว   ไม่รู้จะทนต่อความเสียดทานต่อไปได้อีกสักกี่นํ้า     คณะองคมนตรีที่ห้อมล้อมเปรมก็มีแต่คนแก่จะเข้าโลงอยู่แล้ว    การที่เปรมให้สมุนออกมาก่อกวนสร้างความวุ่นวาย  จนทหารยึดอำนาจรัฐได้รัฐบาลเผด็จการทหาร"คสช."  จึงเป็นการกระทำเพื่อรักษาเครือข่ายและความอยู่รอดของ"ระบอบเผด็จการภูมิพล" เท่านั้นเอง 

ดังนั้นความพยายามครั้งสุดท้ายของเปรม และ สุรยุทธ์(ว่าที่ประธานองคมนตรี) พร้อมพรรคประชาธิปัตย์จึงทำทุกอย่างเพื่อ จะตั้งรัฐบาลของตนเองขึ้นมาให้ได้เพื่อดำรงรักษาระบบเผด็จการอำมาตย์โบราณของ"ระบอบภูมิพล" ให้สืบต่อไป  
ด้วยการปราบปรามยัดเยียดคดีม.๑๑๒ ให้พวกข้าทาสเหลือบไรปลายแถวเครือข่ายราชสำนักที่แอบอ้างทำมาหากินกับ"ส่วนต่าง"เงินส่งส่วยราชสำนัก  นอกจากนี้ในการร่างรัฐธรรมนูญส่งพรรคพวกตนเองมาควบคุม  รวมทั้งยุแย่ทำลายสร้างความแตกแยกในกองทัพ ทั้งหมดคือการกระทำภายใต้ใบสั่งของพระองค์เปรมพ่อบ้านผู้ปกครองดูแลครอบครัว"ตระกูลมหิดล"นั่นเอง
จะได้ไม่สับสนไปกับสถานการณ์เรื่องภายในของครอบครัว"ตระกูลมหิดล"   จงตั้งสติใช้ปัญญา พิจารณาด้วยเหตุและผล  ติดตามข่าวคราว  จะได้ช่วยเหลือร่วมมือกันหาทางปลดปล่อยตัวเองและประเทศชาติออกเป็นไท  โดยศึกษาเรียนรู้ถอดถอนบทเรียนไม่หลงทางเดินหวนกลับเข้าไปอยู่ในวังวนของ"กงจักรปีศาจ"อีกต่อไป.. 
 
จงก้าวผ่านเรื่องความขัดแย้งระหว่าง ตระกูล ชินวัตร กับ ตระกูล มหิดล  ที่มีคนบางพวกยังมีความหวังลมๆแล้งๆว่าลูกชายจอมเผด็จการ ในตระกูลมหิดลจะให้ความช่วยเหลือคนในตระกูลชินวัตรเพื่อทำลายคนในครอบครัวของตนเอง หรือยังไปฝากความหวังเอาว่า ผู้ที่จะสืบทอดระบอบเผด็จการคนต่อไปไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงจะให้ความช่วย เหลือประชาชนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและต่อต้านผลประโยชน์ของครอบครัวตนเอง ก็ค่อนข้างจะบ้าไปแล้ว ลืมเสียเถิดถ้าคิดต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย.










Inga kommentarer:

Skicka en kommentar