söndag 15 maj 2016

Somsak Jeamteerasakul..........เรื่องเบาๆ ขำๆ ก่อนนอน (เมืองไทย) ก็แล้วกัน.

สมศักดิ์ เจียม

เรื่องเบาๆ ขำๆ ก่อนนอน (เมืองไทย) ก็แล้วกัน
ผมดูข่าวในราชสำนักวันนี้ (หุหุ ใครอยู่เมืองไทยไม่ยอมดู อายคนอยู่ปารีสนะเธอว์ ถถถ) มีรายงานของ "โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ" เกี่ยวกับฟ้าหญิงจุฬาภรณ์เสด็จไปที่มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ อังกฤษ ตอนหนึ่งก็มีคลิปพระราชดำรัสของพระองค์โดยตรง (ที่ผมแค็พมาบางภาพ)
(ดูคลิปที่นี่ https://www.youtube.com/watch?v=Z1eEnKPeS98 )
ผมฟังแล้วก็ขำๆน่ะ คือทรงเล่าว่าทรงตั้งสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ แล้ว "...As we go [ที่จริงตรงนี้ควรเป็น went] along in our work, I thought that... I studied the data and found out that the number one killer of Thai people is cancer..." คือทรงบอกว่า ‪#‎พระองค์‬ ทรงศึกษาข้อมูลและพบว่าโรคที่ฆ่าคนไทยมากสุดคือมะเร็ง (ประโยคนี้ผมยกภาษาอังกฤษของพระองค์มาให้ดู และแปลให้ เพราะในทีวีแปลไม่ตรงนัก)
หลังจากนั้น ก็ทรงพูดว่าพระองค์จึงตัดสินใจว่าจะตั้ง รพ.เฉพาะสำหรับมะเร็ง
ตรงนี้ประโยคเด็ด "It took me 9 years to convince the Thai government"
คือทรงบอกว่า พระองค์ต้องใช้เวลาถึง 9 ปี กว่าที่รัฐบาลไทยจะยอมเชื่อพระองค์ ให้ตั้ง "ศูนย์วิจัยศึกษาและบำบัดโรคมะเร็งจุฬาภรณ์" ในปี 2009 หรือ 2552
หลังจากนั้น ก็ทรงพูดว่าพระองค์จึงตัดสินใจว่าจะตั้ง รพ.เฉพาะสำหรับมะเร็ง
ตรงนี้ประโยคเด็ด "It took me 9 years to convince the Thai government"

คือทรง "พรีเซ้นต์" หรือนำเสนอกับฝรั่งราวกับว่าก่อนหน้านั้น ก่อนที่พระองค์จะ "ศึกษาและพบว่ามะเร็งเป็นโรคอันดับหนึ่ง" หรือก่อนที่จะทรงตั้งศูนย์วิจัยและบำบัดมะเร็งจุฬาภรณ์ ในปี 2552 ประเทศไทยไม่มีศูนย์รักษาหรือวิจัยโรคมะเร็งโดยเฉพาะ และพระองค์ต้องใช้เวลาถึง 9 ปีในการทำให้รัฐบาลไทยเชื่อ
ที่จริง ประเทศไทยมีศูนย์วิจัยและบำบัดรักษามะเร็งมานานแล้ว ที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ (ตรงราชเทวีน่ะ) และยังมีศูนย์รักษามะเร็งโดยเฉพาะตาม รพ หลายแห่งในหลายจังหวัดทั่วประเทศ (ซึ่งสัมพันธ์เป็นเครือข่ายกับสถาบันมะเร็ง) อันที่จริง การตั้งสถาบันมะเร็งแห่งชาติน่ะ ถ้าเอาตามราชการก็โฆษณาว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณของเจ้านั่นแหละ คือตั้งในปี 2507 แล้วในปี 2509 ในหลวงทรงยกที่ดิน (ทรัพย์สินฯ) ให้รัฐบาล มาตั้งเป็น คณะแพทย์รามา คณะวิทยาศาสตร์ (แห่งละราว 40 ไร่) และสถาบันมะเร็ง (5 ไร่)
หลังจากคลิปช่วงที่มีพระองค์พูดเองแล้ว ผู้บรรยายของโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ก็บรรยายต่อทันทีถึงสรรพคุณวิเศษยอดเยี่ยมของ "ศูนย์วิจัยและบำบัดโรคมะเร็งจุฬาภรณ์" (มีเรื่อง "ขำ" นิดหน่อยในคำบรรยายนี้ด้วย ดูท้ายกระทู้)
อย่างที่จั่วหัวไว้ นี่เป็นเรือง "เบาๆ ขำๆ" น่ะ ประมาณว่าก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร ที่ฟ้าหญิงจะทรง "สำคัญตัวเอง" และ "ศูนย์วิจัยและบำบัดโรคมะเร็ง" ของพระองค์ขนาดนั้น
............
มีประเด็นที่น่าสนใจนิดตรงที่ทรงพูดว่า "ฉันใช้เวลาถึง 9 ปี [2543-2552] กว่าจะทำให้รัฐบาลยอมเชื่อ..." คือเวลา 9 ปีทีว่าน่ะ "รัฐบาลไทย" ส่วนใหญ่ คือรัฐบาลทักษิณ (2544-2549) ส่วนที่ศูนย์ฯของพระองค์ได้ตั้งในที่สุด คือสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ (2552)*
*(เพิ่มเติมหลังตั้งกระทู้: คุณ Pruay Saltihead ได้กรุณาค้นข้อมูลมาให้ว่า ตัวอาคาร "โรงพยาบาลศูนย์วิจัยศึกษาและบำบัดโรคมะเร็ง สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์" เริ่มก่อสร้างในปี 2546 แสดงว่า รัฐบาลที่อนุมัติคือรัฐบาลทักษิณ ผมไม่แน่ใจว่าตอนนั้น มีเฉพาะ รพ หรือมีศูนย์วิจัยมะเร็งพร้อมกันไปด้วย)
ผมก็ไม่รู้ว่า ทำไม "รัฐบาลไทย" จึงไม่สนับสนุนการตั้งศูนย์ฯของพระองค์นะ แต่ถ้าจะให้เดา ผมคิดว่า คงเพราะเห็นว่ามันซ้ำซ้อนนั่นแหละ อย่างที่บอก เรื่องการศึกษา วิจัย บำบัด มะเร็งน่ะ มันมีสถาบันฯ มีศูนย์ฯตามโรงพยาบาลที่ทำกันมา 40 ปีแล้ว ก่อนที่พระองค์จะ "ศึกษาและพบว่า..."
มี "ขำ" นิดด้วยว่า หลังจากคลิปช่วงทรงพูดแล้ว ผู้บรรยายพูดต่อทันทีว่า "ด้วยพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ที่ทรงงานหนักเพื่อประชาชนชาวไทย..." แหม ผมฟังแล้วก็ยิ้มเลย ถ้าเพิ่งมาทรง "พบ" ว่ามะเร็งเป็นโรคอันดับหนึ่งและมาคิดตั้งศูนย์ฯ ในปี 2543 หลังประเทศไทยมีเรื่องพวกนี้ 40 ปี นี่ไม่เรียก "วิสัยทัศน์" อะไรหรอกครับ
Somsak Jeamteerasakul's photo.





Inga kommentarer:

Skicka en kommentar