torsdag 7 november 2013

.สถานการณ์เปลี่ยน....ทุกเวลา ทุกนาที.."ช่วยกันหยุดฆาตกรด้วยพลังมวลชน " อย่าลืมใครลงมือก่อนคนนั้นแพ้ รู้เขารู้เราเตรียมตัวรอเวลาที่สุกงอม จะได้ไม่สูญเสียชีวิตเหมือนในอดีตที่ผ่านมา ร้อยใจให้เป็นหนึ่งเดียวจับมือกันให้แน่นแน่วแน่มั่นคง พร้อมส่งเสียงแสดงพลังบอกว่า"ให้ประเทศต้องเดินหน้า" ประชาชนจะไม่ยอมให้ทำร้ายประเทศอีกต่อไป ยุคประชาชนตื่นตัวได้สัมผัสกับความจริงได้รู้ได้เห็นว่าอะไรคือสาเหตุที่แท้จริงที่ขัดขวางทำให้ประเทศชาติเดินหน้าไม่ได้ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เดือดร้อน ดังนั้นอำนาจมืดหรือพลังใดๆก็ไม่สามารถมาทำลายแรงปราถนาของประชาชนได้อีกต่อไป...







พลังมวลชนจงร้อยใจให้เป็นหนึ่งเดียวจับมือกันให้แน่นแน่วแน่มั่นคงในการต่อสู้เรียกร้องครั้งนี้   ต้องรู้เขารู้เราเตรียมตัวให้พร้อมรอเวลาที่สุกงอม    อย่าลืมบทเรียนในอดีตนำมาศึกษาข้อผิดพลาดร่วมกันคิดวางแผนเตรียมตัวให้รอบคอบอดทน  อย่าคิดลงมือก่อนเพราะจะกลายเป็นผู้แพ้   ทำให้สูญเสียชีวิตเพื่อนร่วมเดินทางและทำให้เพื่อนสูญเสียอิสระภาพเหมือนในอดีตที่ผ่านมา.... 

ให้แสดงพลังโดยส่งเสียงบอกอำมาตย์ศักดินาและเหล่าฆาตกรให้รู้ว่า   ประชาชน "ไม่ยอม"  ให้ทำร้ายประเทศชาติและประชาชนอีกต่อไป " ปล่อยประเทศเดินหน้า"  ปล่อยให้รัฐบาลของประชาชนบริหารประเทศต่อไป...... 

เวลาของเผด็จการอำมาตย์ศักดินาได้หมดลงแล้ว   สรรพสิ่งทุกสิ่งทุกอย่างได้เปลี่ยนแปลงไป   ยุคนี้มหาชนเขาตื่นตัวได้เรียนรู้ได้สัมผัสกับความเป็นจริงได้รู้ได้เห็นว่า  ใคร?  หรือ  อะไร?  คือสาเหตุที่แท้จริงที่เอารัดเอาเปรียบขัดขวางทำลายประชาชนและประเทศชาติไม่ให้เดินหน้าพัฒนาประเทศ  พัฒนาความกินดีอยู่ดีของประชาชน...   

ดังนั้นอำนาจมืดหรือพลังใดๆก็ไม่สามารถมาทำลายแรงปราถนาของประชาชนได้อีกต่อไป.
สถานการณ์เปลี่ยน....ทุกเวลา ทุกนาที

เราโดนบดขยี้.....จากการเสียฆ่าโง่ โดนตั้งเตะลูกโทษในจุดโทษ แบบไม่น่าโง่
ผลพวงจากการเสียหายในครั้งนั้น
พวกเขากำลังถือโอกาส..ตีปี๊บ จากสั่งฆ่าประชาชน เป็นเห็นมั้ย กูไม่ได้ทำ แต่พวกเอ็งยิงกันเอง และพยายามจะเบียดแทรกเข้าไปในอำนาจ อย่างน่ากลัว
สังคมสารขันธ์ (คนเมือง) กำลังชี้ดันให้คนเมืองมอง สีดำเป็นสีขาว สีขาวเป็นสีดำ อย่างเป็นระบบ ....
รัฐบาลอยู่ในสภาพเป็ดง่อย...ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลายเป็นตำบลกระสุนตก อย่างไม่น่าให้อภัย ของฝ่ายยุทธศาสตร์และวางแผน
-----------------------------------------------------------------------
วันนี้ เราไม่มีเวลามาทะเลาะกัน
เราไม่มีเวลาจะมายืนชี้หน้าด่ากันอีกแล้ว.......
เพราะเราจะไม่ต่างอะไร กับ....รอการพ่ายแพ้ และนำพาชาติบ้านเมือง Set Zero กันใหม่ ที่ต้นระบอบกรุงรัตนโกสินทร์ หรือ การปฏิรูปประเทศไทย ที่ม๊อบอุรุพงษ์ กำลังออกมาตีปี๊บ
ผมจะไม่พูดถึงว่าใครผิด ใครถูก
แต่ผมอยากบอกกับพวกเราทุกคนว่า ๗ ปีกว่า ตั้งแต่หัวยังไม่หงอก จนหงอกเต็มหัว ผมทุ่มเท สรรพกำลังทุกอย่าง ลงไปชนิดตีค่าเป็นตัวเงินไม่ได้ ผมจะไม่ยอมให้มันล่มสลายลงไปต่อหน้าต่อตา
และที่มันแน่นอก จนสุดจะทนก็คือ ศพพี่น้องเราเกลื่อน กรุงเทพฯ จากน้ำมือของทรราชย์ เมื่อ ๓ ปีก่อน ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม
พี่น้องที่รักทั้งหลาย
ผมทราบชัดเจนว่า ธีม งานวันอาทิตย์นี้ การแสดงจุดยืนของเสรีชนเป็นหลัก ไม่เห็นชอบเรื่องสุดซอยเป็นเรื่องรอง เพราะรัฐบาลตีกรรมเชียงจนสุด ชนิดหงายไพ่เล่นแล้วว่า..มันจบแล้ว
แต่เรากำลังจะเปลี่ยนธีมงานวันที่ ๑๐ ชูธงว่า
"เราไม่เคยลืมฆาตกร" มาแทน
นั่นหมายฟามว่า "เมิงอย่าเนียนไอ้แม่เจ๊ท" ...................
เราไม่เอาสุดซอย แปลว่า เราไม่ลืม คนสั่งการฆ่าประชาชน
นั่นคือสิทธิอันชอบธรรม ที่ไม่ว่าแดงสายไหนก็ไม่ควรลืม และมองข้าม วิณญาณ วีรชน
ผมยอมรับว่า หนักใจ กับการจะต้องพูดกับน้อง ๆ ว่า
พี่ตัดสินใจเข้าร่วมงานวันที่ ๑๐ นี้ โดยน้อง ๆ ทุกคนมีสิทธิที่จะปฏิเสธ หรือไม่เห็นด้วย
วันนี้ การรักษาฐานกำลังพี่น้องเสื้อแดงในกรุงเทพฯ และปริมนทล ยังเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อยืนยันไปในตัวว่า
อย่ามั่วนิ่มยึดอำนาจ หรือเปลี่ยนแปลงชาติบ้านเมืองถอยหลังไปสุดกู่อีก
พี่น้องที่รักทั้งหลาย ในสภาวะระส่ำ ระสาย ขวัญและกำลังใจขาดหาย
กระผม ขอเชิญชวน พี่น้องในบอร์ดประชาทอล์ค เข้าร่วมแสดงพลัง
กูไม่เคยลืมเมิง และกูรู้ว่าใครยิง ณ สี่แยกราชประสงค์ ในวันอาทิตย์ที่ ๑๐ นี้
ผมจะพยายาม ทำป้ายผ้า ตั้งเต๊นท์ หรือจุด แจกน้ำดื่มฟรี หรืออาจซื้อผ้าสีแดง มาผูกกันตรงแยกราชประสงค์ ในวันอาทิตย์นี้
สไตล์หนูหริ่ง คือ ดูแลกันเอง ควบคุมกันเอง หากมามากพอ เขาจะเกรงกลัวเรา
งานนี้ ไม่มีเวที อย่างดี หริ่งก็มีโทรโข่งมือถือ......
จึงขอเรียนเชิญสมาชิกทุกท่าน แสดงกำลังโดยพร้อมเพียงกัน

...................................................................................................

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar