fredag 29 november 2013

สุเทพ เทือกสุบรรณปฏิบัติการบาบาร์รอสซาที่ล้มเหลวของนาซี..ใคร? คือผู้ถือธงแห่งชัยชนะ

                                  - 1 -

สงครามบาบาร์รอสซาคือยุทธการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศึกการสู้รบของเยอรมันนาซี ที่โจมตียุโรปตะวันออกและโซเวียตรัสเซีย ในวันที่ 22 มิถุนายน 1941 ด้วยกองทัพกว่า 3 ล้านคนของเยอรมันนาซีทำให้กองทัพโซเวียตถอยร่นเป็นกระบวน และพ่ายแพ้ในทุกสมรภูมิการรบ ทหารโซเวียตล้มตายและถูกจับเป็นเชลยนับล้านคน และได้รับความสูญเสียมหาศาล
ในขณะที่ทัพเยอรมันนาซีบุกเข้าไปในดินแดนโซเวียตอย่างคึกคะนองและแข็งแกร่ง นั้น ใครๆ ต่างก็วิเคราะห์กันว่าโซเวียตคงจะต้องพ่ายแพ้เยอรมันนาซี เหมือนดังเช่นประเทศอื่นๆ ที่อยู่ในยุโรปเวลานั้น…. แต่ทว่าเมื่อรบกันเนิ่นนานไปความสูญเสียก็ทวีมากขึ้นระยะเวลามากขึ้น กองทัพเยอรมันนาซีได้พบกับการต่อต้านอันแข็งแกร่งของชาวโซเวียตรัสเซียผู้ ไม่ยอมแพ้และรวมกำลังกันต่อต้านผู้รุกรานในหลากหลายรูปแบบเช่น ปรากฏการณ์การต่อสู้ของ “วาสิลี ไซเซฟ” พล แม่นปืนที่กลายเป็นผู้สร้างขวัญกำลังใจในการต่อสู้ให้กับชาวโซเวียตรัสเซีย (ดูภาพยนตร์เรื่อง Enemies at the gate ประกอบ) ในที่สุดกองทัพเยอรมันนาซีก็ถอยร่นและพ่ายแพ้ในที่สุด... และแม้ว่าปฏิบัติการบาบาร์รอสซาของเยอรมันนาซีจะยังความสูญเสียอย่างใหญ่ หลวงมาให้แก่โซเวียตรัสเซีย... แต่ทว่าเมื่อถึงตอนท้ายผู้ชูธงแห่งชัยชนะในสงครามนี้ก็คือ “ชาวโซเวียตรัสเซีย” นั่นเอง

                                              - 2 -

 ขณะนี้ม๊อบของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เปรียบได้ไม่ต่างจาการปฏิบัติการบาบาร์รอสซา ในครั้งกระนั้น เป็นม๊อบที่มีมวลชนที่แข็งแกร่ง....มีกองกำลังกึ่งติดอาวุธประจำอยู่ในม๊อบ เพียบ... มีสื่อมวลชนทีออกข่าวคอยปลุกกระแสประชาชนให้สร้างความวุ่นวายขึ้นอยู่ตลอด เวลา... มีนักวิชาการอมาตย์... มีกลุ่มนักเลงอันธพาล... มีขบวนการรัฐวิสาหกิจที่เป็นหลืบของสังคม... ข้าราชการอมาตย์... นายธนาคาร...พ่อค้า.. และเหล่าบุคคลที่อ้างว่าเป็นชนชั้นสูงในสังคม..คอยให้การสนับสนุนในทุกวิถี ทาง เพื่อจะล้มการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสากลที่นานาประเทศให้การยอมรับลงให้ จงได้ ซึ่งเป็นเป้าหมายเดียวและเป็นเป้าหมายที่มุ่งมั่นมาโดยตลอด
การปฏิบัติการต่างๆ ของม๊อบราชดำเนินของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในครั้งนี้เป็นการออกอาวุธครั้งสุดท้าย ของขบวนการเผด็จการที่ต่อต้านประชาธิปไตยของประเทศนี้ เมื่อนำสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นนี้มาพิจารณาทีละขั้นทีละตอนตั้งแต่เริ่มต้น จะเห็นได้ชัดว่า ม๊อบของนายสุเทพ นั้นได้ฉวยโอกาสในขณะที่ประชาชนกำลังไม่พอใจกับการออก พรบ. นิรโทษกรรม จากนั้นจึงขยายเรื่องมาเรื่อยๆ กลายเป็นการโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน โดยใช้วาทะกรรมว่า “โค่นระบอบทักษิณ”    

                               - 3 -

  ซึ่งการปฏิบัติการณ์ครั้งนี้ได้ออกมาในรูปแบบ “รวดเร็ว...รุนแรง...แข็งกร้าว...และฉับพลัน” เพื่อสร้างความปั่นป่วนให้กับการบริหารงานของประเทศนี้ ตามขั้นตอนของการก่อการจลาจลคือ

1. สร้างเงื่อนไขในการรวบรวมมวลชน

2. สร้างสถานการณ์ให้เกิดปั่นป่วนขึ้นในมวลชนนั้น

3. ทำให้รัฐบาลไม่สามารถบริหารงานในประเทศได้จนกลายเป็น “รัฐที่ล้มเหลว”

4. ยึดอำนาจรัฐ

ในการก่อม๊อบในครั้งก่อนๆ ฝ่ายเผด็จการผู้ต่อต้านระบอบประชาธิปไตยก็ได้พยายามเดินตามแผนการณ์นี้มา ตลอด แต่ไม่เคยสำเร็จเพราะเงื่อนไขไม่เพียงพอ และไม่สามารถรวบมวลชนได้มากพอ แต่ในครั้งนี้มีเงื่อนไขที่ทำให้มวลชนเข้ามารวมกันมากเป็นประวัติการณ์คือ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2556 ทำให้ฝ่ายเผด็จการเชื่อว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะสามารถทำตามขั้นตอนการก่อการจลาจลและยึดอำนาจรัฐในครั้งนี้ได้ ดังนั้นเราจึงเห็นตัวละครที่อยู่ในมหากาพย์ เรื่องนี้ออกมากันครบทุกคน

                               - 4 -

แม้ว่าเวลานี้ม๊อบของสุเทพ เทือกสุบรรณ กำลังฮึกเหิม และก้าวร้าว ปฏิบัติการณ์ ยึดโน่น ยึดนี่ ตัดน้ำตัดไฟสถานที่ราชการต่างๆ มากมาย สิ่งเหล่านี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในประเทศไทยสมัยสนธิ ลิ้มทองกุล ถ้าเปรียบเทียบการยึดสถานที่ต่างๆ ของม๊อบสุเทพ เทือกสุบรรณ ยังห่างชั้นจากม๊อบของสนธิ ลิ้มทองกุลมากนัก เพราะสมัยสนธิ ลิ้มทองกุลถึงขั้นเข้าไปยึดทำเนียบรัฐบาล และสนามบินทั้งสองแห่งเลยเพื่อต้องการปิดประเทศเลยด้วยซ้ำ แต่ถึงกระนั้นรัฐบาลนายกสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็ยังคงเป็นรัฐบาลอยู่ได้ จนต้องใช้อำนาจพิเศษที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคพลังประชาชน

สิ่งที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กำลังกระทำเวลานี้คือการกระทำผิดกฏหมายบ้านเมือง ไม่ใช่เสรีภาพในการชุมนุมอีกต่อไป ดังนั้นความชอบธรรมในการอ้างสิทธิในการชุมนุมจึงหมดสิ้นลงไปแล้ว ประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศต่างมองดูม๊อบของนายสุเทพ ประหนึ่งกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่กำลังทำลายประเทศของตนเอง และสิ่งที่ปรากฏชัดก็คือ พรรคประชาธิปัตย์ได้ถอยห่างไปจากม๊อบนายสุเทพ อย่างเห็นได้ชัด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สั่งห้ามไม่ให้สมาชิกพรรคเข้าร่วมการกระทำผิดกับนายสุเทพ นักวิชาการสายอมาตย์หลายคนเริ่มออกมากล่าวตำหนินายสุเทพ ที่กระทำสิ่งผิดกฏหมาย ซึ่งก็หมายความว่า “นายสุเทพ เทือกสุบรรณได้พ่ายแพ้ทางการเมืองไปเรียบร้อยแล้ว” นับจากนี้ต่อไปนายสุเทพ เทือกสุบรรณ มีหนทางเดียวเท่านั้นที่จะเป็นไปได้ก็คือ ใช้เวลาที่เหลือในบั้นปลายชีวิตนั้นในคุกเท่านั้น

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ต้องการให้เกิดขึ้นมากที่สุดในขณะนี้ก็คือ “การสลายการชุมนุมจากฝ่ายรัฐบาล” ไม่ว่าจะใช้วิธีใด กระบอง....แก๊สน้ำตา... ฉีดน้ำ.... ฯลฯ ถ้ารัฐบาลกระทำการใดๆ ในขณะนี้ผลที่จะเกิดขึ้นตามมาก็คือ จะมีวีรสตรี วีรบุรุษแบบเดียวกับ “โบว์ปิงปอง...และจ๊าบซีโฟร์” เกิดขึ้นทันทีโดยการกระทำของพวกสุเทพ เทือกสุบรรณเอง แล้วทุกสื่อทุกองค์กรจะออกมาขานรับพร้อมๆ กันว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เป็นรัฐบาลทรราชย์สังหารประชาชนของตนเอง โดยการโยนความเลวทั้งหมดให้กับรัฐบาล เพื่อสร้างความวุ่นวายเพิ่มขึ้นจนบริหารประเทศไม่ได้

                                                   - 5 -

พี่น้องที่รักประชาธิปไตยที่รักและเคารพทุกท่านครับ... เยอรมันนาซีเปิดปฏิบัติการบาบาร์รอสซา เพราะเชื่อมั่นว่าตนเองจะต้องเป็นฝ่ายชนะเพราะมีความพร้อมและแข็งแกร่งกว่า โซเวียตรัสเซีย... และในช่วงต้นของสงครามก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป...การสู้รบยืดระยะนานเพิ่มขึ้นในที่สุดฝ่ายเยอรมัน นาซีก็พ่ายแพ้ไปจนได้ และผู้ที่ได้รับการชูมือให้เป็นผู้ชนะคือ กองทัพโซเวียตรัสเซีย แน่นอนว่ามีการสูญเสีย แน่นอนว่ามีความเจ็บปวดโศกเศร้า แต่ในที่สุดโซเวียตรัสเซียก็เป็นผู้ชนะ

เวลานี้ดูเหมือนว่าม๊อบสุเทพ เทือกสุบรรณ และหลากหลายองค์กรอมาตย์จะดาหน้ากันออกมารุกไล่จนฝ่ายรัฐบาลเป็นฝ่ายถอยตั้ง รับ และหลบหลีกไม่เป็นกระบวนไม่สามารถจะใช้ปฏิบัติการตามกฏหมายควบคุมผู้กระทำ ผิดซึ่งหน้าได้อย่างถนัด เพราะการบิดเบือนของสื่อ สถานการณ์เช่นนี้ยังความอึดอัด..หงุดหงิด.. และหวั่นไหวให้กับพี่น้องฝ่ายประชาธิปไตยไม่น้อย

แต่ผมขอให้กำลังใจทุกๆ ท่านว่า “ในทางการเมืองสุเทพ เทือกสุบรรณได้พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิงแล้ว” ไม่มีความชอบธรรมในการประท้วงด้วยมวลชน และไม่มีทางที่จะได้รับชัยชนะและมามีอำนาจปกครองประเทศได้อย่างแน่นอน หรือถ้าแม้นจะมีทหารออกมาทำรัฐประหารและอาจจะต้องเข่นฆ่ากันเลือดนองแผ่นดิน แต่ประเทศไทยก็จะยังคงตั้งอยู่ได้เช่นเดิม และรัฐบาลนายกยิ่งลักษณ์ก็จะยังคงเป็นรัฐบาลอันชอบธรรม ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากนานาชาติ และประชาชนไทยส่วนใหญ่ของประเทศต่อไป และใครก็ตามที่ออกมาทำรัฐประหารคนๆ นั้นก็จะกลายเป็นแพะบูชายันต์แทนนายสุเทพ เทือกสุบรรณไปเสียเอง

หน้าที่ของเราผู้เป็นประชาชนผู้รักประชาธิปไตยที่จะทำได้ในขณะนี้ก็คือ กินให้อิ่ม...นอนให้หลับ... ผ่อนคลาย...ไม่ต้องวิตกกังวลใดๆ เฝ้ารอดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแต่ไม่ต้องเคร่งเครียดจนเกินไปนัก ถ้ามีม๊อบมาใกล้ๆ บ้านพักของท่าน ขอให้ท่านหลีกให้ห่างอย่าเข้าใกล้ มองดูม๊อบที่กำลังเดินมานี้เหมือน “หมาบ้า” ที่ไม่ควรเข้าใกล้เพราะจะติดเชื้อบ้าไปด้วย และท่านอาจจะได้รับอันตราย คอยตรวจสอบข่าวสารจากสื่อมวลชนฝ่ายคนเสื้อแดงและพิจารณาให้ดีอย่าตื่นตระหนก แต่ถ้าเมื่อใดก็ตามมีทหารเคลื่อนรถถังออกมายึดอำนาจ หรือมีการกระทำใดๆ เพื่อล้มรัฐบาลที่มาจาการเลือกตั้งโดยไม่ใช่วิถีทางประชาธิปไตย เมื่อนั้นท่านก็เลือกที่จะดำเนินการตามทีท่านเห็นสมควรเพื่อต่อต้านการรัฐ ประหาร และถ้าถึงเวลานั้นจริงถ้าต้องสูญเสียก็คงไม่มีทางเลี่ยงครับ

ไม่มีสิ่งใดที่จะต้องวิตก หรือหวั่นเกรง ประเทศนี้ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง ถ้าพวกมันต้องการพังประเทศนี้เราก็จะต้องช่วยกันพังไปพร้อมกับพวกมันด้วย และถ้าจำเป็นจะต้องสู้ก็ขอสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยแล้วค่อยสร้าง ประเทศขึ้นใหม่อีกครั้ง ขอประชาชนจงเจริญ...ประชาธิปไตยจงเจริญ... ประเทศไทยจงเจริญ...ขอประชาชนจงเจริญ...ประชาธิปไตยจงเจริญ... ประเทศไทยจงเจริญ...

โดย ปูนนก

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar