สุเทพ เทือกสุบรรณปฏิบัติการบาบาร์รอสซาที่ล้มเหลวของนาซี..ใคร? คือผู้ถือธงแห่งชัยชนะ
- 1 -
สงครามบาบาร์รอสซาคือยุทธการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศึกการสู้รบของเยอรมันนาซี
ที่โจมตียุโรปตะวันออกและโซเวียตรัสเซีย ในวันที่ 22 มิถุนายน 1941
ด้วยกองทัพกว่า 3 ล้านคนของเยอรมันนาซีทำให้กองทัพโซเวียตถอยร่นเป็นกระบวน
และพ่ายแพ้ในทุกสมรภูมิการรบ ทหารโซเวียตล้มตายและถูกจับเป็นเชลยนับล้านคน
และได้รับความสูญเสียมหาศาล
ในขณะที่ทัพเยอรมันนาซีบุกเข้าไปในดินแดนโซเวียตอย่างคึกคะนองและแข็งแกร่ง
นั้น ใครๆ ต่างก็วิเคราะห์กันว่าโซเวียตคงจะต้องพ่ายแพ้เยอรมันนาซี
เหมือนดังเช่นประเทศอื่นๆ ที่อยู่ในยุโรปเวลานั้น….
แต่ทว่าเมื่อรบกันเนิ่นนานไปความสูญเสียก็ทวีมากขึ้นระยะเวลามากขึ้น
กองทัพเยอรมันนาซีได้พบกับการต่อต้านอันแข็งแกร่งของชาวโซเวียตรัสเซียผู้
ไม่ยอมแพ้และรวมกำลังกันต่อต้านผู้รุกรานในหลากหลายรูปแบบเช่น
ปรากฏการณ์การต่อสู้ของ “วาสิลี ไซเซฟ” พล
แม่นปืนที่กลายเป็นผู้สร้างขวัญกำลังใจในการต่อสู้ให้กับชาวโซเวียตรัสเซีย
(ดูภาพยนตร์เรื่อง Enemies at the gate ประกอบ)
ในที่สุดกองทัพเยอรมันนาซีก็ถอยร่นและพ่ายแพ้ในที่สุด...
และแม้ว่าปฏิบัติการบาบาร์รอสซาของเยอรมันนาซีจะยังความสูญเสียอย่างใหญ่
หลวงมาให้แก่โซเวียตรัสเซีย...
แต่ทว่าเมื่อถึงตอนท้ายผู้ชูธงแห่งชัยชนะในสงครามนี้ก็คือ “ชาวโซเวียตรัสเซีย” นั่นเอง
- 2 -
ขณะนี้ม๊อบของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
เปรียบได้ไม่ต่างจาการปฏิบัติการบาบาร์รอสซา ในครั้งกระนั้น
เป็นม๊อบที่มีมวลชนที่แข็งแกร่ง....มีกองกำลังกึ่งติดอาวุธประจำอยู่ในม๊อบ
เพียบ...
มีสื่อมวลชนทีออกข่าวคอยปลุกกระแสประชาชนให้สร้างความวุ่นวายขึ้นอยู่ตลอด
เวลา... มีนักวิชาการอมาตย์... มีกลุ่มนักเลงอันธพาล...
มีขบวนการรัฐวิสาหกิจที่เป็นหลืบของสังคม... ข้าราชการอมาตย์...
นายธนาคาร...พ่อค้า..
และเหล่าบุคคลที่อ้างว่าเป็นชนชั้นสูงในสังคม..คอยให้การสนับสนุนในทุกวิถี
ทาง
เพื่อจะล้มการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสากลที่นานาประเทศให้การยอมรับลงให้
จงได้ ซึ่งเป็นเป้าหมายเดียวและเป็นเป้าหมายที่มุ่งมั่นมาโดยตลอด
การปฏิบัติการต่างๆ ของม๊อบราชดำเนินของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
ในครั้งนี้เป็นการออกอาวุธครั้งสุดท้าย
ของขบวนการเผด็จการที่ต่อต้านประชาธิปไตยของประเทศนี้
เมื่อนำสถานการณ์ต่างๆ
ที่เกิดขึ้นนี้มาพิจารณาทีละขั้นทีละตอนตั้งแต่เริ่มต้น จะเห็นได้ชัดว่า
ม๊อบของนายสุเทพ นั้นได้ฉวยโอกาสในขณะที่ประชาชนกำลังไม่พอใจกับการออก พรบ.
นิรโทษกรรม จากนั้นจึงขยายเรื่องมาเรื่อยๆ
กลายเป็นการโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน โดยใช้วาทะกรรมว่า
“โค่นระบอบทักษิณ”
- 3 -
ซึ่งการปฏิบัติการณ์ครั้งนี้ได้ออกมาในรูปแบบ “รวดเร็ว...รุนแรง...แข็งกร้าว...และฉับพลัน” เพื่อสร้างความปั่นป่วนให้กับการบริหารงานของประเทศนี้ ตามขั้นตอนของการก่อการจลาจลคือ
1. สร้างเงื่อนไขในการรวบรวมมวลชน
2. สร้างสถานการณ์ให้เกิดปั่นป่วนขึ้นในมวลชนนั้น
3. ทำให้รัฐบาลไม่สามารถบริหารงานในประเทศได้จนกลายเป็น “รัฐที่ล้มเหลว”
4. ยึดอำนาจรัฐ
ในการก่อม๊อบในครั้งก่อนๆ
ฝ่ายเผด็จการผู้ต่อต้านระบอบประชาธิปไตยก็ได้พยายามเดินตามแผนการณ์นี้มา
ตลอด แต่ไม่เคยสำเร็จเพราะเงื่อนไขไม่เพียงพอ และไม่สามารถรวบมวลชนได้มากพอ
แต่ในครั้งนี้มีเงื่อนไขที่ทำให้มวลชนเข้ามารวมกันมากเป็นประวัติการณ์คือ
เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2556 ทำให้ฝ่ายเผด็จการเชื่อว่า นายสุเทพ
เทือกสุบรรณ
จะสามารถทำตามขั้นตอนการก่อการจลาจลและยึดอำนาจรัฐในครั้งนี้ได้
ดังนั้นเราจึงเห็นตัวละครที่อยู่ในมหากาพย์ เรื่องนี้ออกมากันครบทุกคน
- 4 -
แม้ว่าเวลานี้ม๊อบของสุเทพ เทือกสุบรรณ กำลังฮึกเหิม และก้าวร้าว
ปฏิบัติการณ์ ยึดโน่น ยึดนี่ ตัดน้ำตัดไฟสถานที่ราชการต่างๆ มากมาย
สิ่งเหล่านี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในประเทศไทยสมัยสนธิ ลิ้มทองกุล
ถ้าเปรียบเทียบการยึดสถานที่ต่างๆ ของม๊อบสุเทพ เทือกสุบรรณ
ยังห่างชั้นจากม๊อบของสนธิ ลิ้มทองกุลมากนัก เพราะสมัยสนธิ
ลิ้มทองกุลถึงขั้นเข้าไปยึดทำเนียบรัฐบาล
และสนามบินทั้งสองแห่งเลยเพื่อต้องการปิดประเทศเลยด้วยซ้ำ
แต่ถึงกระนั้นรัฐบาลนายกสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็ยังคงเป็นรัฐบาลอยู่ได้
จนต้องใช้อำนาจพิเศษที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคพลังประชาชน
สิ่งที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
กำลังกระทำเวลานี้คือการกระทำผิดกฏหมายบ้านเมือง
ไม่ใช่เสรีภาพในการชุมนุมอีกต่อไป
ดังนั้นความชอบธรรมในการอ้างสิทธิในการชุมนุมจึงหมดสิ้นลงไปแล้ว
ประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศต่างมองดูม๊อบของนายสุเทพ
ประหนึ่งกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่กำลังทำลายประเทศของตนเอง
และสิ่งที่ปรากฏชัดก็คือ พรรคประชาธิปัตย์ได้ถอยห่างไปจากม๊อบนายสุเทพ
อย่างเห็นได้ชัด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
สั่งห้ามไม่ให้สมาชิกพรรคเข้าร่วมการกระทำผิดกับนายสุเทพ
นักวิชาการสายอมาตย์หลายคนเริ่มออกมากล่าวตำหนินายสุเทพ
ที่กระทำสิ่งผิดกฏหมาย ซึ่งก็หมายความว่า “นายสุเทพ เทือกสุบรรณได้พ่ายแพ้ทางการเมืองไปเรียบร้อยแล้ว” นับจากนี้ต่อไปนายสุเทพ เทือกสุบรรณ มีหนทางเดียวเท่านั้นที่จะเป็นไปได้ก็คือ ใช้เวลาที่เหลือในบั้นปลายชีวิตนั้นในคุกเท่านั้น
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ต้องการให้เกิดขึ้นมากที่สุดในขณะนี้ก็คือ “การสลายการชุมนุมจากฝ่ายรัฐบาล”
ไม่ว่าจะใช้วิธีใด กระบอง....แก๊สน้ำตา... ฉีดน้ำ.... ฯลฯ
ถ้ารัฐบาลกระทำการใดๆ ในขณะนี้ผลที่จะเกิดขึ้นตามมาก็คือ จะมีวีรสตรี
วีรบุรุษแบบเดียวกับ “โบว์ปิงปอง...และจ๊าบซีโฟร์”
เกิดขึ้นทันทีโดยการกระทำของพวกสุเทพ เทือกสุบรรณเอง
แล้วทุกสื่อทุกองค์กรจะออกมาขานรับพร้อมๆ กันว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์
เป็นรัฐบาลทรราชย์สังหารประชาชนของตนเอง
โดยการโยนความเลวทั้งหมดให้กับรัฐบาล
เพื่อสร้างความวุ่นวายเพิ่มขึ้นจนบริหารประเทศไม่ได้
- 5 -
พี่น้องที่รักประชาธิปไตยที่รักและเคารพทุกท่านครับ...
เยอรมันนาซีเปิดปฏิบัติการบาบาร์รอสซา
เพราะเชื่อมั่นว่าตนเองจะต้องเป็นฝ่ายชนะเพราะมีความพร้อมและแข็งแกร่งกว่า
โซเวียตรัสเซีย... และในช่วงต้นของสงครามก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
แต่ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป...การสู้รบยืดระยะนานเพิ่มขึ้นในที่สุดฝ่ายเยอรมัน
นาซีก็พ่ายแพ้ไปจนได้ และผู้ที่ได้รับการชูมือให้เป็นผู้ชนะคือ
กองทัพโซเวียตรัสเซีย แน่นอนว่ามีการสูญเสีย
แน่นอนว่ามีความเจ็บปวดโศกเศร้า แต่ในที่สุดโซเวียตรัสเซียก็เป็นผู้ชนะ
เวลานี้ดูเหมือนว่าม๊อบสุเทพ เทือกสุบรรณ
และหลากหลายองค์กรอมาตย์จะดาหน้ากันออกมารุกไล่จนฝ่ายรัฐบาลเป็นฝ่ายถอยตั้ง
รับ
และหลบหลีกไม่เป็นกระบวนไม่สามารถจะใช้ปฏิบัติการตามกฏหมายควบคุมผู้กระทำ
ผิดซึ่งหน้าได้อย่างถนัด เพราะการบิดเบือนของสื่อ
สถานการณ์เช่นนี้ยังความอึดอัด..หงุดหงิด..
และหวั่นไหวให้กับพี่น้องฝ่ายประชาธิปไตยไม่น้อย
แต่ผมขอให้กำลังใจทุกๆ ท่านว่า “ในทางการเมืองสุเทพ เทือกสุบรรณได้พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิงแล้ว”
ไม่มีความชอบธรรมในการประท้วงด้วยมวลชน
และไม่มีทางที่จะได้รับชัยชนะและมามีอำนาจปกครองประเทศได้อย่างแน่นอน
หรือถ้าแม้นจะมีทหารออกมาทำรัฐประหารและอาจจะต้องเข่นฆ่ากันเลือดนองแผ่นดิน
แต่ประเทศไทยก็จะยังคงตั้งอยู่ได้เช่นเดิม
และรัฐบาลนายกยิ่งลักษณ์ก็จะยังคงเป็นรัฐบาลอันชอบธรรม
ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากนานาชาติ และประชาชนไทยส่วนใหญ่ของประเทศต่อไป
และใครก็ตามที่ออกมาทำรัฐประหารคนๆ
นั้นก็จะกลายเป็นแพะบูชายันต์แทนนายสุเทพ เทือกสุบรรณไปเสียเอง
หน้าที่ของเราผู้เป็นประชาชนผู้รักประชาธิปไตยที่จะทำได้ในขณะนี้ก็คือ กินให้อิ่ม...นอนให้หลับ... ผ่อนคลาย...ไม่ต้องวิตกกังวลใดๆ เฝ้ารอดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแต่ไม่ต้องเคร่งเครียดจนเกินไปนัก ถ้ามีม๊อบมาใกล้ๆ บ้านพักของท่าน ขอให้ท่านหลีกให้ห่างอย่าเข้าใกล้ มองดูม๊อบที่กำลังเดินมานี้เหมือน “หมาบ้า”
ที่ไม่ควรเข้าใกล้เพราะจะติดเชื้อบ้าไปด้วย และท่านอาจจะได้รับอันตราย
คอยตรวจสอบข่าวสารจากสื่อมวลชนฝ่ายคนเสื้อแดงและพิจารณาให้ดีอย่าตื่นตระหนก
แต่ถ้าเมื่อใดก็ตามมีทหารเคลื่อนรถถังออกมายึดอำนาจ หรือมีการกระทำใดๆ
เพื่อล้มรัฐบาลที่มาจาการเลือกตั้งโดยไม่ใช่วิถีทางประชาธิปไตย
เมื่อนั้นท่านก็เลือกที่จะดำเนินการตามทีท่านเห็นสมควรเพื่อต่อต้านการรัฐ
ประหาร และถ้าถึงเวลานั้นจริงถ้าต้องสูญเสียก็คงไม่มีทางเลี่ยงครับ
ไม่มีสิ่งใดที่จะต้องวิตก
หรือหวั่นเกรง ประเทศนี้ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง
ถ้าพวกมันต้องการพังประเทศนี้เราก็จะต้องช่วยกันพังไปพร้อมกับพวกมันด้วย
และถ้าจำเป็นจะต้องสู้ก็ขอสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยแล้วค่อยสร้าง
ประเทศขึ้นใหม่อีกครั้ง ขอประชาชนจงเจริญ...ประชาธิปไตยจงเจริญ...
ประเทศไทยจงเจริญ...ขอประชาชนจงเจริญ...ประชาธิปไตยจงเจริญ... ประเทศไทยจงเจริญ...
โดย ปูนนก
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar