onsdag 6 november 2013

...ถึงเวลาตัดสินใจแล้ว...มีสองระบอบให้เลือก. ช่วยกันสร้างระบอบประชาธิปไตยเพื่อผลประโยชน์ของประเทศและของประชาชน หรือ ยอมอยู่ใต้ระบอบเผด็จการราชาธิปไตยต่อไป..ก่อนตัดสินใจเลือกกรุณาเช่วยกันอ่านบทความของคุณ"ปูนนก"ด้วย ขอให้โชคดี..


ห้วงเวลาเช่นนี้แหละคือเวลาแห่งการพิสูจน์หัวใจของคนเสื้อแดงว่า "ยังคงมีศรัทธาในพรรคเพื่อไทยหรือไม่?"

โดย  ปูนนก

หลังจากที่ท่านนายกยิ่งลักษณ์ได้อ่านแถลงการณ์เกี่ยวกับ พรบ. นิรโทษกรรมไปแล้วผลที่ตามมาก็คือความผิดหวังจากผู้ให้การสนับสนุน   ความสมหวังของผู้ต่อต้าน    และรวมถึงเสียงถอนหายใจจากหลายๆ ฝ่ายที่ไม่ต้องการให้ท่านนายกดึงดันต่อไป      ผลกระทบอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นเป็นแรงกระเพื่อมตามมามากมายก็คือการตัดพ้อต่อว่า  การกล่าวหากันและกันอย่างสะใจทั้งสองฝ่าย  ทั้งๆ  ที่เป็นคนเสื้อแดงผู้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยด้วยกัน  ซึ่งเป็นความเศร้าสลดที่ได้เห็นเช่นนั้น      
อย่าไปอาฆาตเคียดแค้น หรือกล่าวโทษกันเองไปมาเลยครับ  เหตุการณ์มันผ่านไปแล้วผลได้เกิดขึ้นแล้วไม่ว่าเรื่องครั้งนี้ใครจะเป็นต้นเหตุไม่ใช่สิ่งสำคัญนัก   เพราะสิ่งที่สำคัญกว่าก็คือเราได้บทสรุปว่าพี่น้องคนเสื้อแดงจำนวนมากไม่พอใจกับ พรบ. ฉบับนี้  เขาต้องการ พรบ. ที่นิรโทษแค่ผู้ชุมนุมไม่เกี่ยวกับผู้สั่งการ  ส่วนผู้สั่งการจะได้รับโทษจริงหรือไม่ก็คงเป็นเพียงแค่ความต้องการเท่านั้นคงไม่มีใครสามารถไปทำอะไรได้ในทางความเป็นจริง   รัฐบาลนายกยิ่งลักษณ์  พรรคเพื่อไทย รวมถึงท่านนายกทักษิณ  ก็ยังคงเป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์ความคิดที่ ล้ำหน้า  มากกว่าผู้ที่ร่วมขบวนอยู่ต่อไป  
ท่านนายกทักษิณ พรรคเพื่อไทย มองไปที่ที่จะได้เป็นหลักโดยเชื่อว่าการ Set Zero จะเป็นหนทางที่จะนำให้ประเทศนี้เดินไปได้อย่างมั่นคงและปราศจากความขัดแย้ง  ส่วนกระบวนการทางยุติธรรมที่จะเล่นงานผู้สั่งการก็มีช่องทางที่จะดำเนินการได้อีกมากนัก  
ทำไงได้ล่ะครับ  ในเมื่อประชาชนต้องการเพียงแค่เอาผู้สั่งการสองคนนี้มาลงโทษให้ได้โดยไม่พิจารณาในด้านอื่น  ประเทศก็จะต้องเดินไปแบบนั้นและเราผู้อยู่ร่วมกันก็ต้องยอมรับผลที่จะเกิดขึ้นด้วย
แต่ถึงอย่างไร...การกล่าวหาซึ่งกันและกัน  การโยนความผิดไปให้กันและกัน  การชี้นิ้วไปที่พี่น้องของกันและกัน  มันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น  ยิ่งพี่น้องคนที่ออกมาต่อต้าน  พรบ. ฉบับนี้  แล้ว  (ดูเหมือนว่า)  ชนะ  ยิ่งจะต้องตระหนักให้ดีว่า...  "ที่จริงแล้วท่านชนะในการต่อสู้ครั้งนี้จริงหรือเปล่า"   ขณะเดียวกันผู้ที่ให้การสนับสนุนก็ไม่ควรจะกล่าวโทษผู้ต่อต้าน  เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไร  ค่อยหาทางอื่นต่อไป  สงครามการต่อสู้ยังไม่จบครับ  ถ้าเราไม่สามารถไว้วางใจกันและกันได้เราจะสู้กับพวกอมาตย์ได้อย่างไร
ให้กำลังใจทุกๆ ท่านนะครับ 
เบื้องแรกนี้ผมคงต้องขอออกตัวอย่างตรงไปตรงมาก่อนครับว่า  ผมไม่เคยได้รับผลประโยชน์ใดๆ จากพรรคเพื่อไทยหรือท่านนายกทักษิณ  ผมไม่ใช่ทีมงานยุทธศาสตร์หรือขี้ข้าม้าใช้ใดๆ  ของพรรคเพื่อไทยทั้งสิ้น   ผมเป็นแต่เพียงประชาชนธรรมดาๆ  คนหนึ่งที่ต้องการให้ประเทศนี้ก้าวพ้นจากวงจรอุบาทที่มีเผด็จการอำนาจมืดครอบงำอยู่ในประเทศนี้  ให้หมดไปเสียทีเพื่อประชาชนจะได้สามารถยืนหยัดได้ด้วยตนเอง  ไม่มีใครมาคอยสูบเลือดสูบเนื้อและอ้างบุญคุณกันไม่รู้จบเช่นที่ผ่านมา   ดังนั้นจึงขอยืนยันว่า  “นายปูนนกกับพรรคเพื่อไทยไม่มีผลประโยชน์ในทางลับใดๆ ต่อกัน”  
ผลจากการผลักดัน พรบ. นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย, เหมาเข่ง, ยกพวง  ฯลฯ หรืออะไรก็แล้วแต่จะเรียกครั้งนี้  ส่งผลให้พรรคเพื่อไทยโดยเฉพาะท่านนายกทักษิณ  ถูกกระหน่ำโจมตีอย่างรุนแรง  หลายคนที่ถือว่าเป็นนักต่อสู้ทางความคิดและต้องการประชาธิปไตยถึงขั้นออกมาตัดขาดความสัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทย  บางคนชี้มือและฟันธงไปเลยว่าพรรคเพื่อไทยกำลังเหยียบย่ำผู้เสียชีวิตเพื่อให้ตนเองได้ครองอำนาจต่อไปโดยไม่สนใจความรู้สึกของประชาชน   หรือกระทั่งบางคนสรุปว่าพรรคเพื่อไทยและท่านนายกทักษิณสมยอมและเกี้ยะเซียะกับอมาตย์ใหญ่อย่างสิ้นเชิงแล้วตามนิสัยพ่อค้าคือ  win win   
แต่ไม่ว่าใครจะพิจารณาเช่นไรหรือเชื่อเช่นไรล้วนแล้วแต่เป็นสิทธิที่จะกระทำได้ตามความเชื่อและความศรัทธาของตน  ซึ่งลักษณะเช่นนี้เป็นทั้งผลดีและผลเสียในตัวของมันเอง  จากกรณีวิกฤติความศรัทธาเรื่อง  พรบ. นิรโทษกรรม ฉบับนี้  ถ้าเรามองกันที่เฉพาะเหตุการณ์นี้เท่านั้นโดยไม่พิจารณาอย่างครอบคลุมก็จะทำให้เราเข้าใจอย่างที่กำลังเข้าใจอยู่นี้    แต่ถ้าในฐานะที่เราเป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและต้องการให้ได้มาซึ่งอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนอย่างแท้จริงนั้นเราควรจะพิจารณาและตอบคำถามตนเองให้รอบด้านมากกว่าที่เป็นอยู่นี้คือ

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar