Somsak Jeamteerasakul added 3 new photos.
อดีตนักการทูตสหรัฐเล่าประสบการณ์ต้อนรับราชินีสิริกิติ์เยือนเท็กซัส (2524): ในหลวงขอให้สหรัฐช่วย"ดัดนิสัย"พระบรมฯ http://goo.gl/K3fS7B
เกร็ดประวัติศาสตร์:
อดีตนักการทูตสหรัฐเล่าประสบการณ์ต้อนรับราชินีสิริกิติ์เยือนเท็กซัส
(2524): ในหลวงขอให้สหรัฐช่วย "ดัดนิสัย" พระบรมฯ
"มิตรสหายท่านหนึ่ง" ได้กรุณาส่งลิงค์เว็บไซต์ของ "สมาคมเพื่อการศึกษาและฝึกอบรมทางการทูต" (Association for Diplomatic Studies and Training หรือ ADST) ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนแต่สัมพันธ์กับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ (ที่ทำงานอยู่ในตึกของกระทรวงฯและทำงานใกล้ชิดกับหน่วยงานกระทรวงฯ จริงๆเรียกได้ว่าเป็นกึ่งรัฐ)
"สมาคม" ดังกล่าว มีโครงการทำ "ประวัติศาสตร์บอกเล่า" หรือ Oral History คือสัมภาษณ์บรรดาอดีตเจ้าหน้าที่และนักการทูตสหรัฐถึงประสบการณ์สมัยทำงาน
ลักษณะการสัมภาษณ์แบบนี้ มีข้อเด่นตรงที่พวกอดีตทูตเขาก็จะเล่าพวกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ซึ่งปกติในเอกสารการทูตที่เป็นทางการอาจจะไม่ได้บันทึกไว้ หรืออย่างน้อยไม่ได้บันทึกไว้ละเอียดแบบนี้
บทสัมภาษณ์ที่ผมนำมาให้ดูวันนี้ เป็นการสัมภาษณ์นายริชาร์ด ซี ฮาวแลนด์ (Richard C. Howland) อดีตผู้ดูแล "โต๊ะไทย" Thai Desk นี่เป็นภาษาที่พวกกระทรวงต่างประเทศเขาใช้กัน กระทรวงต่างประเทศไทยก็เรียกกันแบบนี้ "โต๊ะ..." ประเทศนั้นประเทศนี้ ตำแหน่งทางการจริงๆ เรียกว่า Country Director for Thailand หรือผู้อำนวยการแผนกประเทศไทย ซึ่งนายฮาวแลนด์อยู่ในตำแหน่งนี้ระหว่างปี 2522-2524 (ดูประวัติของฮาวแลนด์ สมัยที่เขาได้รับแต่งตั้งจาก ปธน.เรแกนให้ไปเป็นทูตซูลีนัม ที่นี่ https://goo.gl/LcIOuZ ก่อนจะเป็นผู้ดูแล "โต๊ะไทย" ของกระทรวงฯ เขาเคยเป็นเจ้าหน้าที่ประจำสถานทูตสหรัฐในอินโดนีเซียและลาว)
บทสัมภาษณ์เล่าความทรงจำของฮาวแลนด์ (ซึ่งผมแค็พบางส่วนมาเป็นภาพประกอบกระทู้) อยู่ที่นี่ https://goo.gl/wersJN โดยจั่วหัวว่า "ควีนประเทศไทยมาเยือนใจกลางเท็กซัส" (Queen of Thailand Deep in the Heart of Texas) ฮาวแลนด์ได้เล่าสมัยที่ราชินีสิริกิติ์เสด็จเยือนสหรัฐในปลายปี 2524 แล้วได้เสด็จไปเท็กซัส ซึ่งฮาวแลนด์ได้รับมอบหมายให้เป็นคนคอยต้อนรับ
(ไม่แน่ใจจะจำกันได้ไหม นี่คือทริปที่พระราชินีให้สัมภาษณ์ นสพ.ในดัลลัส เท็กซัส พาดพิงถึงพระบรมฯว่า "ลูกชายฉัน เขามีลักษณะเป็นดอนฮวนอยู่หน่อยๆ" ดูกระทู้ของผมเรื่องนี้ ที่นี่ http://goo.gl/MZLqeY มีลิงค์ให้ดาวน์โหลดคำแปลบทสัมภาษณ์พระราชินีฉบับเต็มด้วย)
ในบทสัมภาษณ์นี้ ฮาวแลนด์ได้เล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเรื่องการต้อนรับพระราชินีในเท็กซัส ซึ่งอ่านเพลินดี ผมขออภัยที่ไม่มีเวลาแปลให้โดยละเอียดสำหรับท่านที่อ่านอังกฤษไม่ได้ แต่ใครอ่านได้และพอมีเวลา แนะนำให้อ่านนะ สนุกดี เช่น มีเล่าเกร็ดเรื่องฮาวแลนด์ต้องกำชับคนอเมริกันที่จะมาคอยต้อนรับและพบพระราชินีว่า "ห้ามเอ่ยถึงละครเพลงเรื่อง เดอะคิงแอนด์ไอ", วิธีที่เจ้าภาพแต่ละงานจะ "เชิญชวนดื่มอวยพร" ต้องดื่่มให้ในหลวงไม่ใช่ให้พระราชินี แล้วพระราชินีจะทรงเชิญดื่มอวยพรตอบให้ ปธน.สหรัฐ แต่มีครั้งหนึ่ง เกิด "ผิดคิว" เศรษฐีที่เป็นเจ้าภาพดินเนอร์คร้้งหนึ่งดันชวนดื่มอวยพรให้พระราชินี ร้อนถึงนายฮาวแลนด์ต้องลุกขึ้นกล่าวดื่มอวยพรให้ในหลวง พระราชินีจึงทรงชวนดื่มอวยพรให้ ปธน.สหรัฐได้, เรื่องใครจะเป็นคนลีลาสกับพระราชินี (เรียงลำดับความอาวุโสของตำแหน่งเจ้าหน้าที่สหรัฐในที่นั้น)
หรือเรื่องการที่พระราชินีทรงชอบนอนดึก ตี 3 ตี 4 แล้วไปตื่นเอาสายๆวันต่อมา ซึ่งในประเทศไทย คนอื่นๆรอบข้างก็ต้องคอยปรับตัวตาม ฮาวแลนด์ก็พูดในแง่ดีนะว่า ตอนอยู่ในไทย เพราะ "ทรงงาน" ถึงดึก แต่ตอนไปเท็กซัส ฮาวแลนด์ได้เล่าว่าครั้งหนึ่ง งานต้อนรับต่างๆเสร็จตั้งแต่ 4 ทุ่ม "ยังเร็วไป" ที่ราชินีจะเข้านอน พระองค์จึงขอให้เจ้าภาพพาพระองค์ไป "เที่ยวผับ" แห่งหนึ่ง ซึ่งทรงอยู่ถึงเกือบรุ่งเช้า กลับโฮเต็ลตอนตี 4 เป็นต้น
ยังมีตอนที่พระราชินีได้เห็นหน้า "หลาน" เป็นครั้งแรก คือได้เห็นคุณพลอยไพลิน เจนเซน ซึ่งเพิ่งเกิดในเดือนกุมภาพันธ์ปีนั้น คุณอุบลรัตน์ได้ถือโอกาสที่พระราชินีมาสหรัฐ อุ้มมาพบ (คุณอุบลรัตน์ตอนนั้นอยู่แคลิฟอร์เนีย) ฯลฯ
..................
ประเด็นที่ผมนำมาเล่าในที่นี้ (คือส่วนที่ผมแค็พมาให้ดูเป็นภาพประกอบที่ 2 และ 3) คือที่ฮาวแลนด์กล่าวถึงพระบรมฯ และเล่าเรื่องที่ในหลวงทรง "กลุ้มใจหนัก" เรื่องความประพฤติของพระบรมฯ (เขาใช้สำนวนฝรั่งว่า "The King was endlessly wringing his hands....") แล้วเลยทรงขอให้สหรัฐช่วย "ดัดนิสัย" พระบรมฯ (เขาใช้คำว่า "straightens up" และ "straightens out") ด้วยการจะส่งพระบรมฯมาฝึกทหาร(ฝึกบิน)ที่สหรัฐ ตามประวัติพระบรมฯในวิกิพีเดียไทย ทรงเสด็จไปฝึกในสหรัฐประมาณ 1 ปี จากปลายปี 2525 ถึงปลายปี 2526 (ดูหัวข้อ "ประสบการณ์ทางทหาร" ที่นี่ https://goo.gl/1kjDZZ) พูดอีกอย่างคือ พระราชินีเสด็จสหรัฐคราวนั้น นอกจากเพื่อพักผ่อนแล้ว อีกอย่างหนึ่งคือเพื่อมาฝากฝังล่วงหน้าเรื่องพระบรมฯ ให้สหรัฐช่วยดูแลและ "ดัด" ความประพฤติตามไอเดียในหลวง พอดีช่วงนั้น (ตามที่ฮาวแลนด์เล่าไว้ในบทสัมภาษณ์) พระบรมฯกำลังมีเรื่องอื้อฉาว เพราะกำลังทะเลาะกับชายา (หม่อมโสม) และ mistress (แปลแบบไทยๆคือ "เมียน้อย") คนหนึ่ง คือคุณเบ๊นซ์ตั้งท้อง (คุณจุฑาวัชร ลูกคนแรกเกิดปี 2522 คุณวัชเรศร เกิดกลางปี 2524)
ฮาวแลนด์เริ่มเล่าถึงพระบรมฯ ดังนี้
The next child of the King and Queen was the Crown Prince, Vajiralongkhorn (at right), not at all like his father. He was a real bad actor, a fighter pilot, shoot-‘em-up character. We had trained him to be a fighter pilot at one point.. He was a good pilot, but he took on all the worst characteristics of the “Top Gun” type of guy. He was reportedly always getting in trouble, hanging around with criminals and other unsavory types. Although married, he also supposedly had dozens of mistresses. Once the Crown Prince had gone into some restaurant and fired his pistol in the air when he didn’t get the service he thought he was entitled to.
แปลแบบคร่าวๆประมาณว่า พระบรมฯ แม้จะเป็นนักบินที่ดี แต่เอาลักษณะนิสัยแบบแย่ที่สุดทั้งปวง (all the worst characteristics) ของทำนองตัวละครนักบินในหนัง "ท็อปกัน" อะไรแบบนั้น เป็นคนที่มักจะนำเรื่องยุ่งยากมาเสมอ และมักจะคบหา(หรือล้อมรอบด้วย)พวกที่มีนิสัยแย่ๆแบบโจรๆ (criminals and other unsavory types) กล่าวกันว่า ครั้งหนึ่ง พระบรมฯยิงปืนขึ้นฟ้าในร้านอาหาร เพราะไม่ได้อะไรดังใจ
ฮาวแลนด์ได้เล่าว่า หลังจากเยือนเท็กซัส พระราชินีได้ไปวอชิงตัน และได้คุยกับเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐเรื่องจะขอส่งพระบรมฯมาดัดนิสัย ในที่สุดฝ่ายสหรัฐก็ยินยอม (กระทรวงต่างประเทศต้องติดต่อไปกระทรวงกลาโหมหลายครั้ง จนทางฝ่ายกระทรวงกลาโหมยอม) ต่อมา เมื่อพระบรมฯมาสหรัฐ ทางสหรัฐตอนแรกส่งไปฝึกบินที่ฟลอริด้า ซึ่งฮาวแลนด์กล่าวว่าเป็นความผิดพลาด เพราะถึงเวลาพระบรมฯสามารถหนีไปเที่ยวบ่อย ฝ่ายสหรัฐจึงส่งพระองค์ไปฝึกบินที่แอริโซน่าแทน (แอริโซน่าเป็นรัฐทะเลทราย ไม่ได้มีแสงสีให้เที่ยวมากเหมือนฟลอริด้า)
ตามที่ฮาวแลนด์เล่า ที่แอริโซน่า พระบรมฯเจอครูฝึก 2-3 คนที่ "เข้ม" พูดกับพระองค์ตรงๆ "If you don’t knock it off, boy, we’re going to really put you through the wringer at this base...." (แปลประมาณว่า "นี่เจ้าหนุ่ม ถ้าแกไม่เลิกนิสัยแย่ๆ เราจะจับซ่อมให้เข็ด")
ฮาวแลนด์พูดทำนองคุยว่า ครูฝึกที่แอริโซน่า ประสบความสำเร็จในการ "ดัดนิสัย" พระบรมฯ แม้จะไม่ถึงกับทำให้กลายเป็นคนดีได้เต็มที่ แต่ก็เกือบๆ (didn’t exactly make an honest man out of him, but almost) หลังจากนั้น พระบรมฯก็ "เปลี่ยนนิสัย" ตัวเองไปเยอะอะไรทำนองนั้น
..............
บทสัมภาษณ์ฮาวแลนด์นี้ ทำในเดือนมกราคม 2542 ผมสงสัยว่า ฮาวแลนด์ออกจะมองโลกในแง่ดีไปหน่อย (ฮา)
"มิตรสหายท่านหนึ่ง" ได้กรุณาส่งลิงค์เว็บไซต์ของ "สมาคมเพื่อการศึกษาและฝึกอบรมทางการทูต" (Association for Diplomatic Studies and Training หรือ ADST) ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนแต่สัมพันธ์กับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ (ที่ทำงานอยู่ในตึกของกระทรวงฯและทำงานใกล้ชิดกับหน่วยงานกระทรวงฯ จริงๆเรียกได้ว่าเป็นกึ่งรัฐ)
"สมาคม" ดังกล่าว มีโครงการทำ "ประวัติศาสตร์บอกเล่า" หรือ Oral History คือสัมภาษณ์บรรดาอดีตเจ้าหน้าที่และนักการทูตสหรัฐถึงประสบการณ์สมัยทำงาน
ลักษณะการสัมภาษณ์แบบนี้ มีข้อเด่นตรงที่พวกอดีตทูตเขาก็จะเล่าพวกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ซึ่งปกติในเอกสารการทูตที่เป็นทางการอาจจะไม่ได้บันทึกไว้ หรืออย่างน้อยไม่ได้บันทึกไว้ละเอียดแบบนี้
บทสัมภาษณ์ที่ผมนำมาให้ดูวันนี้ เป็นการสัมภาษณ์นายริชาร์ด ซี ฮาวแลนด์ (Richard C. Howland) อดีตผู้ดูแล "โต๊ะไทย" Thai Desk นี่เป็นภาษาที่พวกกระทรวงต่างประเทศเขาใช้กัน กระทรวงต่างประเทศไทยก็เรียกกันแบบนี้ "โต๊ะ..." ประเทศนั้นประเทศนี้ ตำแหน่งทางการจริงๆ เรียกว่า Country Director for Thailand หรือผู้อำนวยการแผนกประเทศไทย ซึ่งนายฮาวแลนด์อยู่ในตำแหน่งนี้ระหว่างปี 2522-2524 (ดูประวัติของฮาวแลนด์ สมัยที่เขาได้รับแต่งตั้งจาก ปธน.เรแกนให้ไปเป็นทูตซูลีนัม ที่นี่ https://goo.gl/LcIOuZ ก่อนจะเป็นผู้ดูแล "โต๊ะไทย" ของกระทรวงฯ เขาเคยเป็นเจ้าหน้าที่ประจำสถานทูตสหรัฐในอินโดนีเซียและลาว)
บทสัมภาษณ์เล่าความทรงจำของฮาวแลนด์ (ซึ่งผมแค็พบางส่วนมาเป็นภาพประกอบกระทู้) อยู่ที่นี่ https://goo.gl/wersJN โดยจั่วหัวว่า "ควีนประเทศไทยมาเยือนใจกลางเท็กซัส" (Queen of Thailand Deep in the Heart of Texas) ฮาวแลนด์ได้เล่าสมัยที่ราชินีสิริกิติ์เสด็จเยือนสหรัฐในปลายปี 2524 แล้วได้เสด็จไปเท็กซัส ซึ่งฮาวแลนด์ได้รับมอบหมายให้เป็นคนคอยต้อนรับ
(ไม่แน่ใจจะจำกันได้ไหม นี่คือทริปที่พระราชินีให้สัมภาษณ์ นสพ.ในดัลลัส เท็กซัส พาดพิงถึงพระบรมฯว่า "ลูกชายฉัน เขามีลักษณะเป็นดอนฮวนอยู่หน่อยๆ" ดูกระทู้ของผมเรื่องนี้ ที่นี่ http://goo.gl/MZLqeY มีลิงค์ให้ดาวน์โหลดคำแปลบทสัมภาษณ์พระราชินีฉบับเต็มด้วย)
ในบทสัมภาษณ์นี้ ฮาวแลนด์ได้เล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเรื่องการต้อนรับพระราชินีในเท็กซัส ซึ่งอ่านเพลินดี ผมขออภัยที่ไม่มีเวลาแปลให้โดยละเอียดสำหรับท่านที่อ่านอังกฤษไม่ได้ แต่ใครอ่านได้และพอมีเวลา แนะนำให้อ่านนะ สนุกดี เช่น มีเล่าเกร็ดเรื่องฮาวแลนด์ต้องกำชับคนอเมริกันที่จะมาคอยต้อนรับและพบพระราชินีว่า "ห้ามเอ่ยถึงละครเพลงเรื่อง เดอะคิงแอนด์ไอ", วิธีที่เจ้าภาพแต่ละงานจะ "เชิญชวนดื่มอวยพร" ต้องดื่่มให้ในหลวงไม่ใช่ให้พระราชินี แล้วพระราชินีจะทรงเชิญดื่มอวยพรตอบให้ ปธน.สหรัฐ แต่มีครั้งหนึ่ง เกิด "ผิดคิว" เศรษฐีที่เป็นเจ้าภาพดินเนอร์คร้้งหนึ่งดันชวนดื่มอวยพรให้พระราชินี ร้อนถึงนายฮาวแลนด์ต้องลุกขึ้นกล่าวดื่มอวยพรให้ในหลวง พระราชินีจึงทรงชวนดื่มอวยพรให้ ปธน.สหรัฐได้, เรื่องใครจะเป็นคนลีลาสกับพระราชินี (เรียงลำดับความอาวุโสของตำแหน่งเจ้าหน้าที่สหรัฐในที่นั้น)
หรือเรื่องการที่พระราชินีทรงชอบนอนดึก ตี 3 ตี 4 แล้วไปตื่นเอาสายๆวันต่อมา ซึ่งในประเทศไทย คนอื่นๆรอบข้างก็ต้องคอยปรับตัวตาม ฮาวแลนด์ก็พูดในแง่ดีนะว่า ตอนอยู่ในไทย เพราะ "ทรงงาน" ถึงดึก แต่ตอนไปเท็กซัส ฮาวแลนด์ได้เล่าว่าครั้งหนึ่ง งานต้อนรับต่างๆเสร็จตั้งแต่ 4 ทุ่ม "ยังเร็วไป" ที่ราชินีจะเข้านอน พระองค์จึงขอให้เจ้าภาพพาพระองค์ไป "เที่ยวผับ" แห่งหนึ่ง ซึ่งทรงอยู่ถึงเกือบรุ่งเช้า กลับโฮเต็ลตอนตี 4 เป็นต้น
ยังมีตอนที่พระราชินีได้เห็นหน้า "หลาน" เป็นครั้งแรก คือได้เห็นคุณพลอยไพลิน เจนเซน ซึ่งเพิ่งเกิดในเดือนกุมภาพันธ์ปีนั้น คุณอุบลรัตน์ได้ถือโอกาสที่พระราชินีมาสหรัฐ อุ้มมาพบ (คุณอุบลรัตน์ตอนนั้นอยู่แคลิฟอร์เนีย) ฯลฯ
..................
ประเด็นที่ผมนำมาเล่าในที่นี้ (คือส่วนที่ผมแค็พมาให้ดูเป็นภาพประกอบที่ 2 และ 3) คือที่ฮาวแลนด์กล่าวถึงพระบรมฯ และเล่าเรื่องที่ในหลวงทรง "กลุ้มใจหนัก" เรื่องความประพฤติของพระบรมฯ (เขาใช้สำนวนฝรั่งว่า "The King was endlessly wringing his hands....") แล้วเลยทรงขอให้สหรัฐช่วย "ดัดนิสัย" พระบรมฯ (เขาใช้คำว่า "straightens up" และ "straightens out") ด้วยการจะส่งพระบรมฯมาฝึกทหาร(ฝึกบิน)ที่สหรัฐ ตามประวัติพระบรมฯในวิกิพีเดียไทย ทรงเสด็จไปฝึกในสหรัฐประมาณ 1 ปี จากปลายปี 2525 ถึงปลายปี 2526 (ดูหัวข้อ "ประสบการณ์ทางทหาร" ที่นี่ https://goo.gl/1kjDZZ) พูดอีกอย่างคือ พระราชินีเสด็จสหรัฐคราวนั้น นอกจากเพื่อพักผ่อนแล้ว อีกอย่างหนึ่งคือเพื่อมาฝากฝังล่วงหน้าเรื่องพระบรมฯ ให้สหรัฐช่วยดูแลและ "ดัด" ความประพฤติตามไอเดียในหลวง พอดีช่วงนั้น (ตามที่ฮาวแลนด์เล่าไว้ในบทสัมภาษณ์) พระบรมฯกำลังมีเรื่องอื้อฉาว เพราะกำลังทะเลาะกับชายา (หม่อมโสม) และ mistress (แปลแบบไทยๆคือ "เมียน้อย") คนหนึ่ง คือคุณเบ๊นซ์ตั้งท้อง (คุณจุฑาวัชร ลูกคนแรกเกิดปี 2522 คุณวัชเรศร เกิดกลางปี 2524)
ฮาวแลนด์เริ่มเล่าถึงพระบรมฯ ดังนี้
The next child of the King and Queen was the Crown Prince, Vajiralongkhorn (at right), not at all like his father. He was a real bad actor, a fighter pilot, shoot-‘em-up character. We had trained him to be a fighter pilot at one point.. He was a good pilot, but he took on all the worst characteristics of the “Top Gun” type of guy. He was reportedly always getting in trouble, hanging around with criminals and other unsavory types. Although married, he also supposedly had dozens of mistresses. Once the Crown Prince had gone into some restaurant and fired his pistol in the air when he didn’t get the service he thought he was entitled to.
แปลแบบคร่าวๆประมาณว่า พระบรมฯ แม้จะเป็นนักบินที่ดี แต่เอาลักษณะนิสัยแบบแย่ที่สุดทั้งปวง (all the worst characteristics) ของทำนองตัวละครนักบินในหนัง "ท็อปกัน" อะไรแบบนั้น เป็นคนที่มักจะนำเรื่องยุ่งยากมาเสมอ และมักจะคบหา(หรือล้อมรอบด้วย)พวกที่มีนิสัยแย่ๆแบบโจรๆ (criminals and other unsavory types) กล่าวกันว่า ครั้งหนึ่ง พระบรมฯยิงปืนขึ้นฟ้าในร้านอาหาร เพราะไม่ได้อะไรดังใจ
ฮาวแลนด์ได้เล่าว่า หลังจากเยือนเท็กซัส พระราชินีได้ไปวอชิงตัน และได้คุยกับเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐเรื่องจะขอส่งพระบรมฯมาดัดนิสัย ในที่สุดฝ่ายสหรัฐก็ยินยอม (กระทรวงต่างประเทศต้องติดต่อไปกระทรวงกลาโหมหลายครั้ง จนทางฝ่ายกระทรวงกลาโหมยอม) ต่อมา เมื่อพระบรมฯมาสหรัฐ ทางสหรัฐตอนแรกส่งไปฝึกบินที่ฟลอริด้า ซึ่งฮาวแลนด์กล่าวว่าเป็นความผิดพลาด เพราะถึงเวลาพระบรมฯสามารถหนีไปเที่ยวบ่อย ฝ่ายสหรัฐจึงส่งพระองค์ไปฝึกบินที่แอริโซน่าแทน (แอริโซน่าเป็นรัฐทะเลทราย ไม่ได้มีแสงสีให้เที่ยวมากเหมือนฟลอริด้า)
ตามที่ฮาวแลนด์เล่า ที่แอริโซน่า พระบรมฯเจอครูฝึก 2-3 คนที่ "เข้ม" พูดกับพระองค์ตรงๆ "If you don’t knock it off, boy, we’re going to really put you through the wringer at this base...." (แปลประมาณว่า "นี่เจ้าหนุ่ม ถ้าแกไม่เลิกนิสัยแย่ๆ เราจะจับซ่อมให้เข็ด")
ฮาวแลนด์พูดทำนองคุยว่า ครูฝึกที่แอริโซน่า ประสบความสำเร็จในการ "ดัดนิสัย" พระบรมฯ แม้จะไม่ถึงกับทำให้กลายเป็นคนดีได้เต็มที่ แต่ก็เกือบๆ (didn’t exactly make an honest man out of him, but almost) หลังจากนั้น พระบรมฯก็ "เปลี่ยนนิสัย" ตัวเองไปเยอะอะไรทำนองนั้น
..............
บทสัมภาษณ์ฮาวแลนด์นี้ ทำในเดือนมกราคม 2542 ผมสงสัยว่า ฮาวแลนด์ออกจะมองโลกในแง่ดีไปหน่อย (ฮา)
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar