วิเคราะห์สถานการณ์ก่อนสิ้นปี 2555
กรณีเมื่อสิ้นรัชกาลที่ 9
โดย
กลุ่มเสียงประชาชนไทย (สปท.)
วันนี้สังคมโลกได้เข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่าวิกฤตความวุ่นวายในประเทศที่ประทุรุนแรงในรอบ
6 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ 19
ก.ย.
49 ที่ผ่านมา
เป็นผลมาจากการเมืองปลายรัชกาลที่ 9 เนื่องจากระบอบการปรกครองของไทย
มิได้เป็นประชาธิปไตย หากแต่เป็นระบอบราชาธิปไตยใหม่ (Neo
Absolute Monarchy.)
ที่อำนาจการเมืองการปกครองของเศรษฐกิจรวมศูนย์อยู่ที่ตัวของพระมาหากษัตริย์ แต่อาศัยรูปแบบระบอบประชาธิปไตยเป็นเครื่องมือ
ดังนั้น เมื่อกษัตริย์ใกล้จะสิ้นอายุไขจึงเกิดการแย่งชิงอำนาจระหว่างรัชทายาทคือ
สยามมกุฎราชกุมาร (วชิราลงกรณ์) และ สยามมกุฎราชกุมารี (สิรินธร) แต่ที่น่าสงสารที่สุดคือประชาชนไทยที่ไม่อาจจะรู้ความจริงเหล่านี้ได้แต่ต้องรับผลกรรมจากการแย่งชิงอำนาจนี้
สถานการณ์ความขัดแย้งในพระราชวัง
ขณะนี้เกิดข่าวลือแพร่สะพัดกันต่างๆ นาๆ ในสามกลุ่มข้อมูลคือ กลุ่มที่หนึ่งกษัตริย์ภูมิพล
สิ้นพระชนม์แล้ว กลุ่มที่สอง กษัตริย์และพระราชินี
ใกล้สิ้นพระชนม์แต่ไม่รู้ว่าใครจะสิ้นก่อนกัน กลุ่มที่สาม สุขภาพของกษัตริย์ภูมิพลดีขึ้นแล้ว
ท่ามกลางข่าวลือข่าวปล่อย สปท.
ขอวิเคราะห์สถานการณ์ก่อนสิ้นปี 2555 ว่า
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสถานการณ์ทางการเมืองมิได้ขึ้นต่อกลุ่มข่าวลือใดข่าวลือหนึ่งแต่ปัจจัยสำคัญนั้นขึ้นอยู่กับภาวการณ์ไร้ประสิทธิภาพของระบอบราชาธิปไตยใหม่ที่จะบริหารประเทศชาติต่อไปได้
ความเจ็บป่วยตามอายุไขหรือความตายล้วนแต่ส่งผลต่อวิกฤตการทางการเมืองเป็นอย่างเดียวกัน
แต่ที่ส่งผลมากที่สุดตามข้อมูลที่เป็นจริงคือ กษัตริย์ภูมิพลและราชินี
ต่างก็ป่วยอย่างหนักไม่สามารถปฏิบัติภารกิจได้ ส่วนแถลงการณ์และข่าวลือว่าทั้งสองพระองค์อาการดีพร้อมจะบริหารราชการแผ่นดินได้เป็นเรื่องโกหกและไม่ควรนำมาวิเคราะห์ให้เกิดความสับสน
เราขอวิเคราะห์สถานการณ์ฟันธงเพื่อประเมินสถานการณ์ในระยะก่อนสิ้นปีนี้ว่าจะเกิดภาวการณ์ปรับเปลี่ยนรัชกาลอย่างแน่นอนไม่เกินสิ้นปีนี้หรืออย่างช้าต้นปีหน้าเพื่อให้พี่น้องคนไทยได้รู้ถึงอนาคตและตระเตรียมการณ์รับมือกับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นท่ามกลางการหลอกลวงทางข่าวสารและภาพลักษณ์ที่ดีของรัชกาลใหม่ดังนี้...
1. ความขัดแย้งในการช่วงชิงอำนาจของรัชทายาทที่เหล่าอำมาตย์กลุ่มเก่าต้องการรักษาอำนาจของตนเองไว้ยังพยายามทุกวิธีทางที่จะเชิดสยามราชกุมารีขึ้นเป็น
รัชกาลที่ 10 เพื่อพวกตนที่จะบริหารอำนาจกันต่อยังดำรงอยู่โดยไม่ยอมปล่อยให้การสืบราชสมบัติเป็นไปตามกฎมนเทียรบาลด้วยเกรงกลัวว่าสยามมกุฎราชกุมารจะขึ้นครองอำนาจ
จะทำให้พวกตนหมดอำนาจและผลประโยชน์ ด้วยเพราะความเข้มแข็งของสยามมกุฎราชกุมาร ไม่ยอมเป็นหุ่นเชิดให้
ดังจะเห็นได้อย่างเป็นรูปธรรมว่าพวกเหล่าอำมาตย์ได้ใช้ความพยายามทุกอย่างในการเสริมกำลังความเข้มแข็งของตนในระบบรัฐสภา
ด้วยการแต่งตั้ง ส.ว. ที่หมดอายุและแต่งตั้งเพิ่มเติม ด้วยการแต่งตั้งกลุ่มฮาร์ดคอร์ทางการเมืองที่ร่วมรัฐประหาร
19 กันยา 49
กลับเข้ามาดำรงตำแหน่งอย่างครบถ้วน
รวมตลอดถึงยังใช้กลไก ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง ศาลอาญาพิเศษสำหรับนักการเมือง และ
องค์กรอิสระ พยายามทำลายรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ทั้งทางกฎหมายและทางการเมืองเพื่อจะกระทำการแย่งชิงอำนาจรัฐบาลอันเป็นเงื่อนไขสำคัญตามรัฐธรรมนูญ50
ในหมวดพระมหากษัตริย์ที่นำไปสู่การแต่งตั้งกษัตริย์พระองค์ใหม่
2. สถานการณ์ในวังน่าเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่ากษัตริย์และราชินีเกิดการป่วยหนักจนไม่อาจจะบริหารจัดการอำนาจได้แล้ว
ดังมีปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดและหลากหลายที่บ่งบอกถึงความจริงนั้นคือ
2.1 การไม่ปรากฏตัวของกษัตริย์และราชินีต่อสาธารณะชน
นานเกือบกว่า 5 เดือน
นับตั้งแต่หมายกำหนดการที่ออกเมื่อต้นเดือนมิถุนา จะเสด็จไปราชบุรีเมื่อวันที่ 13
มิถุนายน
2555 ทั้งๆที่ในช่วงที่พระองค์เจ็บป่วยประมาณ
5-6 ปี พระองค์จะต้องแสดงตัวต่อสาธารณะชนอย่างน้อยเดือนละครั้ง
แม้จะไม่มีพระราชกรณียกิจใดๆเลย ก็จะมีการสร้างกิจกรรมขึ้นเพื่อให้แสดงพระองค์ว่ายังพร้อมบริหารจัดการอำนาจ
เช่น การให้หมอเข็นรถพาออกไปดูแม่น้ำดังที่เป็นข่าวเป็นต้น
2.2 การไม่อาจจะปรับคณะรัฐมนตรีในรัฐบาล
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ทั้งๆ ที่การเตรียมการณ์ให้นักการเมืองบ้านเลขที่ 111
ที่หลุดพ้นจากการตัดสิทธิ์ทางการเมืองเมือง
31 พ.ค. 55
มาเป็นรัฐมานตรีได้นานเกือบห้าเดือนแล้วรวมตลอดทั้งแม้จะมีการลาออกของ รมว.มหาดไทย
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ก็มิอาจจะมีการแต่งตั้ง รมว. ใหม่ได้ เพราะเนื่องจากสำนักพระราชวังต้องการปกปิดข่าวความป่วยหนักของกษัตริย์ภูมิพล
ซึ่งหัวใจสำคัญหลักคือ นายกฯ ต้องนำรัฐมนตรีใหม่เข้าเฝ้า และกษัตริย์จะต้องให้โอวาทซึ่งเป็นไฟท์บังคับมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้
ซึ่งจะทำให้ประชาชนและชาวโลกรู้ความจริงว่ากษัตริย์ได้สิ้นพระชนม์แล้วหรือป่วยหนักมากน้อยอย่างไร
ภาวการณ์ทางการเมืองเช่นนี้ไม่อาจจะทนได้เกินไปกว่าวันที่
5 ธ.ค. 55
เพราะกษัตริย์ต้องปรากฏตัวต่อสาธารณะชน
2.3 ภาวการณ์เร่งเร้าที่จะทำรัฐประหารรัฐบาล
น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดย ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปรกครอง องค์กรอิสระ ประชาธิปัตย์ พันธมิตร
ไม่ต่างอะไรกับเมื่อต้นปี 52 ที่จะล้มรับบาล
สมัคร รัฐบาล สมชาย ซึ่งความถี่ของการประสานงานกันทั้งในและนอกสภา ตั้งแต่ 30
, 31 พ.ค. – 1 มิ.ย.
จนถึงการตัดสินของของศาลรัฐธรรมนูญกรณีจะล้มรัฐบาลเมื่อ 13 มิถุนา
และ มีนา จนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจำนำข้าว เรื่องสนามกอล์ฟอัลไพน์ กรณี
ปปช. จะฟ้องเล่นงาน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต่อการสลายการชุมนุม พันธมิตรเมื่อ 7
ต.ค.
51 ทั้งๆที่อัยการสั่งไม่ฟ้องรวมตลอดถึงการนัดชุมนุมใหญ่เริ่ม
21 ต.ค. นี้
เพื่อประสานกับสถานการณ์การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้นเดือน พฤศจิกายน นี้
รวมตลอดถึง ส.ว. กลุ่ม 40 สายอำมาตย์จะเปิดฉากอภิปรายถล่มเรื่องนโยบายจำนำข้าวและทุจริต
ปลายเดือนตุลา ซึ่ง ปชป. ศาลรัฐธรรมนูญ
ศาลปกครอง กำลังร่วมกันละเลง กันอยู่ในขณะนี้
2.4 ท่าทีความเข้มแข็งของทหารเสือราชินีได้แสดงท่าทีที่เปลี่ยนไปต่อรัฐบาลได้บ่งบอกให้เห็นถึงสถานการณ์ที่น่าเชื่อได้ว่า
กษัตริย์และราชินี ทรงประชวนอย่างหนัก ทำให้การแสดงท่าทีจากที่เคยข่มขู่รัฐบาลด้วยกำลังว่าจะกระทำการรัฐประหารนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดเพราะการยึดอำนาจจะสำเร็จได้ต้องเข้าพบกษัตริย์และราชินีหลังจากกระทำการแล้ว
จากสถานการณ์ดังกล่าวข้างต้น
ได้ข้อสรุปและข้อควรระวังดังนี้...
I.
ความพยายามรัฐประหารด้วยกลไกทางกฎหมายโดยใช้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญ
ศาลปกครอง องค์กรอิสระ โดยประสานกับการเตรียมการของการก่อจลาจลยังคงอยู่
เพื่อให้เกิดศุนย์ญากาศทางอำนาจและช่วงชิงการแต่งตั้งรัชกาลใหม่ในขณะที่เกิดภาวะศุนย์ญากาศนั้น
II.
ใช้เกมใหม่ที่คาดไม่ถึงคือการสร้างพินัยกรรมโดยอ้างว่าเป็นพระราชประสงค์ของกษัตริย์ชิงประกาศแต่งตั้ง
สยามกุฎราชกุมารีขึ้นครองราชย์บัลลังก์อันเป็นการกระทำรัฐประหารขั้นสูงสุด
ในภาวการณ์ที่เป็นทางออกที่ดีที่สุดของเหล่าอำมาตย์เก่าในขณะนี้ ซึ่งจะเป็นการระดมกำลังทหารและประชาชนเข้าสนับสนุนสมเด็จพระเทพและการสืบอำนาจของระบอบอำมาตย์ต่อไป
ดังนั้น สถานการณ์ในภาวการณ์เมืองปลายรัชกาลขั้นสุดท้ายนี้จึงล่อแหลมต่อความรุนแรงและความสับสนของประชาชนที่จะเป็นเหยื่อของระบอบอำมาตย์เก่าและค้ำจุนระบอบกษัตริย์ที่ผุโทรมกดขี่ขูดรีดประชาชนมายาวนานให้สืบอำนาจต่อไปโดยใช้ชีวิตและเลือดเนื้อของประชาชนเป็นเครื่องสังเวย
จบ.
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar