tisdag 16 oktober 2012

......เกิดอะไรขึ้นที่บ้านริมน้ำ?????.......ไม่มีใครจะตอบได้.... เราคิดว่าเป็นลางบอกเหตุ ได้มีการเตรียมการระหว่างฝ่ายอำมาตย์เฒ่า ลูกสาว ลูกชายขององค์ราชันและองค์รานี ก่อนเกิด"ศึกชิงบัลลังก์เลือด" ที่กำลังใกล้จะเริ่มแล้วตลอดเวลา ขอให้ประชาชนโปรดระวังตัวอย่าไปร่วมทำศึกในสนามรบ เพราะไม่มีประโยชน์มีแต่จะโดนลูกหลงทำให้บาดเจ็บล้มตาย ปล่อยให้เขาจัดการกันเอง แต่ถ้าเหตุการณ์ลุกลามทำให้ประเทศชาติเสียหายประชาชนมีสิทธิลุกขึ้นต่อสู้ป้องกันตัวเองและปกป้องประเทศชาติได้ไม่ผิด!

-รปภ.ชุดเขียวที่เคยอยู่ประจำอย่างเนืองแน่นหายไปไหนหมด ????
-ตึกกายภาพบำบัติ ที่เคยถูกยึดเอาไปให้ รปภ.สีเขียวพักอาศัย เงียบเหงา ????
-ไม่อยู่แล้วหรือ ????
-ถูกใครขโมยเอาตัวไปหรือเปล่า ???
(ตรวจสอบกันหน่อย ผิดปกติมากๆ สงสัย..สงสัย..สงสัย...)


  โดย  Sealand
จากที่ sealand ได้เคยนำเสนอบทความเชิงวิเคราะห์สถานการณ์ในช่วงผลัดแผ่นดินไปก่อนหน้านี้แล้วหลาย ๆ ครั้ง
โดยชี้ให้เห็นการความ น่าจะเป็น อยู่ ๓ ฝ่าย โดยที่ฝ่ายหนึ่งมีความชอบธรรม
แต่ติดตรงที่ปัญหา ภาพลักษณ์ และความสัมพันธ์กับอดีตนายกฯ ผู้มีบารมีนอกประเทศ จึงทำให้อำนาจเก่าไม่พึงใจที่จะส่งต่ออำนาจให้
แต่ฝ่ายที่ชอบธรรมนี้จะได้เปรียบทันทีหากรัฐบาลเพื่อไทยสามารถยืดอายุรัฐบาลและรักษา สภา ไปจนถึงสถานการณ์ผลัดแผ่นดินได้
ส่วนฝ่ายที่สองเป็นฝ่ายที่พยายามสั่งสมบารมีมาอย่างเอาจริงเอาจังและยาวนาน
และถึงแม้กฎเก่าแก่จะไม่รองรับแต่กฎใหม่นั้นใหญ่กว่าและรับรองสถานะภาพไว้ให้แล้ว จะติดก็แต่ ระบอบรัฐสภา
เพราะหากอยู่ในสภาพปกติโดยมีรัฐบาลพรรคเพื่อไทยอยู่แบบนี้ ย่อมไม่สามารถเป็นฝ่ายขึ้นสู่อำนาจอันสูงสุดนี้ได้แน่
และถึงแม้รัฐบาลจะไม่ใช่ พรรคเพื่อไทย โดยอยู่ในสภาพของพรรคฝ่ายค้าน ถึงอย่างไรก็ยังเป็นอุปสรรคต่อแนวทางนี้อยู่ดี
เพราะ รัฐสภา คือระบบที่ให้การ รับรองอำนาจดังนั้นหากแนวทางนี้ถูกนำเสนอเข้าสู่รัฐสภาย่อมเกิดการ อภิปราย ตามมา
ซึ่งจะทำให้เกิดภาพที่ไม่สู้ดีและอาจจะนำไปสู่ความวุ่นวายตามมา ซึ่งไม่เป็นที่ประสงค์ของฝ่ายนี้
และหากยิ่งปล่อยให้สภาพล่วงเลยออกไปแบบนี้ ผลเสียย่อมส่งผลต่อฝ่ายที่สองนี้อย่างไม่อาจเรียกคืนได้
การแก้ไขมีอยู่หนทางเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ เร่งสถานการณ์แตกหัก เร่งสถานการณ์เพื่อให้เกิดความวุ่นวายจนไม่อาจควบคุมได้
เพื่อเป็นการเปิดทางให้ทหารเข้าทำการควบคุมสถานการณ์จนถึงขั้นรัฐประหารยึดอำนาจ
เพราะหากปล่อยให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยครองอำนาจลากยาวออกไป
อาจจะทำให้สามารถ เจรจาและสมประโยชน์ กับฐานอำนาจของฝ่ายที่สามได้สำเร็จ

กล่าวคือ อำนาจฝ่ายที่สามนั้นยึดครองอำนาจในฝ่ายทหารเอาไว้ได้ถึงแม้จะไม่เบ็ดเสร็จแต่กำลังหลักนั้นสามารถครอบงำเอาไว้ได้หมดแล้ว
โดยมี เป้าหมายหลัก อยู่ที่ชูให้คนของตนรักษาการขัดตาทัพของสองฝ่าย
แต่สถานการณ์กลับกลายเป็นว่าคนของฝ่ายตนนั้น ทรุด ไปก่อนกาลอันควร
จนนำไปสู่สถานการณ์ต่อรองเพื่อดึงมาเป็นพันธมิตรร่วมกันที่สองฝ่ายแรกพยายามเสนอประโยชน์
แต่จากสถานการณ์ที่ปรากฏดูเหมือนว่าฝ่ายแรกจะสามารถผสานและสมประโยชน์ได้มากกว่า
โดยจะเห็นได้จากสถานการณ์โยกย้ายที่ผ่านมาจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ทั้งสองฝ่ายนั้น สมประโยชน์ กันได้อย่างไม่น่าเชื่อ
รวมถึงการประกาศวางมือทางการเมืองของนักการเมืองมากเล่ห์แห่งแดนอีสานใต้เจ้าของขั้วการเมืองสีน้ำเงิน
ที่เคยผสานเข้าอย่างเป็นเนื้อเดียวกันกับขั้วอำนาจของฝ่ายที่สาม
อันเป็นการแสดงให้เห็นว่าถูก เขี่ยทิ้ง เมื่อทั้งสองฝ่ายสมประโยชน์กันแล้ว
ซึ่งเมื่อสถานการณ์ดำเนินไปอย่างนี้แล้ว สถานการณ์ย่อมเดินไปสู่ครรลองของมันเองอย่างยากยิ่งที่จะหลบเลี่ยงเบี่ยงหนี

(มีต่อ ===>>> กลับขั้วปืนจ่อปืน).

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar