söndag 21 oktober 2012

...... ฝูงเหี้ยแห่งกรุงรัตนโกสินทร์นี้ ยังไม่สูญพันธ์.......คงเป็นการดิ้นเฮือกสุดท้ายของพวก "เคียดแค้นคลุ้มคลั่งและเกลียดชังคนยากจนแห่งชาติ โทษฐานที่ไม่ยอมเชื่อง" มากกว่า เป็นที่น่าสังเกตุว่าเวลานี้ฝูงเหี้ยได้โผล่มาจากรู ออกมาเปิดเผยตัวเห่าหอนจุดไฟยั่วยุปลุกระดมสมุนทาส พวกเหี้ยเหล่านี้มันติดยึดอยู่แต่กับยุคอดีตที่เคยทำงานรับใช้อำมาตย์ชั่ว มันลืมไปว่าเวลานี้เป็นยุคไฮเทคการติดต่อสื่อสารใช้เวลาแค่อึดใจเดียวข่าวสารต่างๆสามารถนำมาเปิดเผยความจริงให้ประชาชนได้ติดตามรับรู้อย่างทันท่วงทีไม่เหมือนยุคของไอ้สงค์ฟันดำ ให้มันหลงงมงายอยู่กับอดีต ประชาชนจงเดินหน้าต่อไปและจงออกมาช่วยกันจับเหี้ยพวกนี้ไปโยนลงนรกอเวจีให้สูญพันธ์ไปจากแผ่นดินไทย........


..............................................................................................................................................
(ประชาชนจวนจะหมดความอดทนกับรัฐบาลแล้ว )
"ประชาชนมีสิทธิจะมาชุมนุมขับไล่รัฐบาล เมื่อเห็นว่ารัฐบาล !@#$%^&*()_+__))((*&^^"

"ซึ่งในเวลานี้ ผมเห็นว่า ประชาชนจำนวนมาก จวนจะหมดความอดทนกับรัฐบาลแล้ว"
......หมายเหตุ- คำพูดในวงเล็บและในเครื่องหมายคำพูดเป็นคำให้สัมภาษณ์ของไอ้เหี้ยประสงค์
..............................................................................................................................................

โดย   คุณสายลมรัก

คำให้สัมภาษณ์นี้ ผมเก็บตกมาจาก นายประสงค์ สุ่นศิริ เหี้ยตัวสุดท้ายแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จากช่อง ๑๐๑ เอ็ฟเอ็ม

จากกรณี ออกมาปฏิเสธว่า ไม่รู้จัก ไม่เกี่ยวข้อง ไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์ใด ๆ ทั้งสิ้นกับ ภาคีเครือข่าย ภตช. ในการออกมาตระโกนว่า "หมาป่า มากินแกะ" ซ้ำซาก( กรณี ไซฟ่อนเงิน ๑.๖ หมื่อนล้านบาท ) ของนายมงคงกิตต์

ที่น่าจะเปลี่ยนชื่อเป็นนายอัปมงคลกิตต์ และเปลี่ยนจากภาคีเครือข่ายต้านทุตจริตคอรัปชั่นแห่งชาติ

มาเป็นภาคีเครือข่าย "เคียดแค้นคลุ้มคลั่งและเกลียดชังคนยากจนแห่งชาติ โทษฐานที่ไม่ยอมเชื่อง" มากกว่า

นอกจากจะปากสั่นหงั่ก ๆ ด้วยอาการพาร์กินสัน เบื้องต้น นายประสงค์ ยังด่านายเฉลิมว่า เป็นธรรมดาที่หมาย่อมออกมาเห่า เพราะมีแผลหรือมีแผนที่จะโกงกินบ้านเมืองอู่แล้ว

แต่ไม่ยักกะด่านายมงคงกิตต์ ซักแอะ โทษฐานเอามาพาดพิง อันเป็นเท็จ (หรือเปล่า) แต่ด่า คนตอบคำถามนักข่าว

อันเนื่องมาจาก นายมงคงกิตต์ เอามาพูดเป็นตุเป็นตะว่า "เอาเหี้ยมาเป็นที่ปรึกษา" เอ้ยไม่ใช่ "เอานายประสงค์ มาเป็นที่ปรึกษาเครือข่ายฯ" (ฮา)

แน่นอนการเสียฟอร์มครั้งยิ่งใหญ่(โดนจับได้ว่าโกหกซ้ำซาก) นี้

เป็นเรื่องแน่นอนว่า นายประสงค์ คงไม่ยอมเน่าด้วยง่าย ๆ ทั้ง ๆที่ตัวของนายประสงค์เองก็ไม่มีอะไรเหลือแล้วที่จะไม่เน่า

แต่ผมสะกิดใจกับความเคลื่อนไหว.....อันสอดประสานกับ

พลเอกสนามม้า ที่หาแดรกกันแถว ๆ นางเลิ้ง และตอนนี้ก็ลอกคราบจาก พันธมิตร เป็น มหาดเล็กรักษาพระองค์ (โหนเจ้า) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยมีตุลย์เจ้าเดิม

กลับกลุ่มพันธมิตรหน้าเดิมในชื่อใหม่เช่น ปราโมทย์ นาครทัพ โดยมีกลุ่มนายสนธิยา แห่งค่ายเอฟอ็ม ๑๐๑ และทีนิวส์ ออกอากาศ ป้ายสี เสียดสี ด่าทางตรงและทางอ้อม ทุกวี่วันอย่างแท้จริง (น่าให้รางวัลรัฐมนตรีที่คุมสื่อเป็นยิ่งนัก)

รวมพลังแข็งแกร่งเป็นขบวนการ ฝนตกขี้หมูไหล คนจัญไรมาพบกันได้อย่างน่าอัศจรรย์

สอดประสานกับท่าที ชายหน้าดำ ที่เริ่มปฏิบัติการ เอาทหาร ที่ลั่นไก มาเป็นตัวประกัน หากคดีนี้เดินทางถึงสุดทาง ว่าจะต้องติดคุกด้วยกัน

ทั้ง ๆ ที่ ท่าทีการดำเนินคดีเขาจะเอาคนสั่ง ไม่ได้เอาผู้ปฏิบัติ

นั่นแปลเป็นอย่างอื่นไม่ได้ว่า หากจุดกระแสติด พรรคแมลงสาป ก็จะโหนเจ้า โหนปืน โหนรถถัง ไม่ต่างอะไรกับ เหตุการณ์ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙

หากทำไม่สำเร็จ นั่นหมายถึง ติดคุกยาว

แม้นทัวโลกจะจับตามอง และรู้ทัน กับกลไกและเกมเดิม ๆ

แต่คนเรายาม หน้ามืด ถึงขนาดฆ่าคนเป็นร้อยได้แล้วหละก็

ไอเรื่องหน้าด้าน อยูกับชาวโลกต่อไปนี้ ถือว่าเป็นเรื่อง จิ๊บ ๆ มาก

ศึกษาการใช้ชีวิตแบบเกาหลีเหนือเอาไว้บ้างก็จะดี

ผมไม่แน่ใจว่า เราจะต้องใช้ชีวิตแบบนั้นกันบ้างหรือเปล่า

ตราบใดที่ ฝูงเหี้ยแห่งกรุงรัตนโกสินทร์นี้ ยังไม่สูญพันธ์

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar