โดย อำแดงเหมือน
สถานการณ์ต่างๆขณะนี้ดูไม่ค่อยน่าไว้วางใจนัก เราเชื่อว่าทุกคนคงคาดเดาได้ว่าฝ่ายอำนาจเก่ายังคงมีความพยายามอยู่ตลอดเวลาในการที่จะล้มรัฐบาลให้ได้ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้มากที่จะเกิดการทำรัฐประหารขึ้นอีกรอบโดยฝีมือของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ฝีมือทหาร
เราคิดว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับวินิจฉัยกรณีรับจำนำข้าวที่นิด้าร้องขอให้วินิจฉัย การที่ครั้งแรกยังไม่รับโดยชี้แจงว่าเอกสารยังไม่ครบนั้นเป็นแค่การซื้อเวลาเพื่อโยนหินถามทาง เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าการต่อต้านไม่ได้รุนแรงมากนัก รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยก็มิได้มีปฎิกิริยาตอบโต้ออกมามาก นปช เองก็ขยับตัวนิดหน่อยพอเป็นพิธีเพราะกลัวจะเข้าทางเค้า คงเหลือแต่ชาวนาที่พวกเค้าวิเคราะห์ว่าเป็นการระดมมาไม่ใช่เป็นม๊อบธรรมชาติ และพวกเค้าเห็นว่าเป็นม๊อบที่ไม่มีพลัง ดังนั้นพวกเค้าจะให้ศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องไว้ก่อนและพวกเค้ายังมีเวลาอีกนานที่จะสร้างสถานการณ์ต่างๆขึ้นมาเพื่อดิสเครดิตรัฐบาลไปเรื่อยๆ และพยายามชักจูงให้คนที่พวกเค้าเรียกว่าชนชั้นกลางกับชนชั้นสูงเห็นด้วยว่ารัฐบาลควรจะถูกล้ม
การยื่นญัตติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีจะมีขึ้นอย่างแน่นอนโดยจะเน้นหนักไปที่ประเด็นการรับจำนำข้าว โจมตีที่นโยบายและความบกพร่องในการปฎิบัติทั้งปัญหาการทุจริตและการทำให้ประเทศชาติเสียหาย ซึ่งทางฝ่ายค้านไม่ได้หวังผลในการลงมติแต่หวังผลในการขยายแนวร่วมสถานการณ์ให้เรื่องนี้ดูรุนแรงขึ้น
กลุ่มนักวิชาการและกลุ่มพันธมิตรฝ่ายเสื้อเหลืองจะถูกปลุกระดมกันขึ้นมาอีกครั้ง การที่ศาลปกครองตัดสินว่าตำรวจเป็นฝ่ายผิดและให้ชดใช้ค่าเสียหายให้กลุ่มพันธมิตรที่ได้รับบาดเจ็บนั้น ดูเผินๆเหมือนกับศาลเอียงเข้าข้างพันธมิตรอีกเช่นเคย แต่มองอีกมุมหนึ่ง นี่คือส่วนหนึ่งในแผนการล้มรัฐบาล โดยคำตัดสินแบบนี้จะเป็นการบอกให้พันธมิตรเข้าใจว่าพวกเค้าเป็นฝ่ายถูก และยังเป็นการบอกใบ้ว่าพวกเค้าทำอะไรก็ไม่มีความผิด ทั้งนี้เพื่อเป็นการปลุกขวัญ กำลังใจ สร้างความฮึกเหิมเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่โหมดขับไล่รัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง
และจะยังคงมีกลุ่มอื่นๆออกมาอีกอย่างต่อเนื่องเช่นกลุ่มทหารแก่ กลุ่ม40สว.กลุ่มต่อต้านคอรัปชั่น กลุ่มต่อต้านโลกร้อน กลุ่มนักวิชาการหัวเหลือง และกลุ่มใหม่ๆชื่อแปลกๆอีกตามมา
หลังจากวันที่ 5 ธันวาคมผ่านพ้นไป เมื่อสถานการณ์สุกงอมได้ที่ ศาลรัฐธรรมนูญก็จะมีคำวินิจฉัยออกมาว่านโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 84 โดยหยิบยกหัวข้อหลักมา ไม่พิจารณาถึงข้อย่อยๆหรือข้อยกเว้นต่างๆของมาตรานี้
ผลของคำวินิจฉัยจะทำให้นายกรัฐมนตรีต้องลาออกและคณะรัฐมนตรีจะสิ้นสุดสภาพลงทันที นโยบายรับจำนำข้าวเปลือกจะถูกยกเลิก แต่ครั้งนี้จะยังไม่มีการชูนายอภิสิทธิ์ขึ้นเป็นนายกฯอีก จะปล่อยให้พรรคเพื่อไทยโหวตเลือกนายกฯคนใหม่ โดยหวังว่าเมื่อกำจัดคนของตระกูลชินวัตรออกไปพ้นจากวงการเมืองแล้ว พรรคเพื่อไทยก็จะระส่ำระสาย เกิดการแย่งชิง การแตกแยกกันเอง จนพรรคค่อยๆสลายไป
หลังจากหมดยุคของพรรคเพื่อไทยแล้ว นายกฯในดวงใจคนใหม่ของอำมาตย์คือ นายเนวิน ชิดชอบ เหตุผลคือ นายเนวินเป็นคนที่อำมาตย์หวั่นเกรง องค์กรอิสระต่างๆไม่กล้าตั้งตัวเป็นศัตรู ปชปก็หวั่นๆในตัวนายเนวินอยู่ เพราะนายเนวิน เหนือกว่านายอภิสิทธิ์ทุกด้านคือ เก่งกว่า ขยันกว่า ฉลาดกว่า เลวกว่า หน้าด้านกว่า จงรักภักดีมากกว่า
เราคิดว่ารัฐบาลเองก็รู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น อดีตนายกฯทักษิณก็รู้ พรรคเพื่อไทยก็รู้ พอๆกันกับที่ ทหาร ศาล สื่อ องค์กรอิสระ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ก็รู้
เราไม่ขอเตือนให้ฝ่ายอำนาจเก่าล้มเลิกแผนการ ขอให้ทำตามแผนการเดิม เพื่อเร่งการล่มสลายของระบอบอันเป็นรากเหง้าแห่งปัญหาทั้งหมดโดยสิ้นซาก
ความผิดพลาดของเผด็จการก็คือการประเมินกำลังของประชาชนต่ำเกินไป ไม่เคยมีผู้ปกครองคนไหนในโลกที่เอาชนะประชาชนได้
söndag 7 oktober 2012
....ทำการรัฐประหารโดยใช้ศาลรัฐธรรมนูญ.???....เป็นความคิดของพวกจนตรอก อย่าลืมว่าประชาชน"ตาสว่าง"รู้แล้วว่า ศาลรัฐธรรมนูญคือศาลเถื่อนที่มาจากรัฐธรรมนูญปี ๕๐ ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญของอำมาตย์โจรที่เขียนขึ้นหลังใช้ทหารยึดอำนาจ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ โดยต้องการใช้รัฐธรรมนูญ ปี ๕๐ ฉบับนี้เอื้อประโยชน์แก่พวกอำมาตย์ในการเตรียมการเปลี่ยนผ่านช่วงปลายรัชกาล โดยต้องการใช้กฎหมายในรัฐธรรมนูญปี ๕๐ บางมาตราที่เขียนไว้ควบคุมขัดขวางการทำงานของรัฐบาลที่มาจากประชาชนถ้าไม่ทำตามและเอื้อประโยชน์ให้พวกอำมาตย์........สุดท้ายความผิดพลาดของเผด็จการก็คือการประเมินกำลังของประชาชนต่ำเกินไป ไม่เคยมีผู้ปกครองคนไหนในโลกที่เอาชนะประชาชนได้ .........
Prenumerera på:
Kommentarer till inlägget (Atom)
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar