๒๓ ก.พ.๕๗ ความอดทนมีวันสิ้นสุดวันเริ่มต้น ".ประกาศอิสระภาพ" ปลดปล่อยตัวเองเพื่อความเป็นไทของประชาชนไทยทั่วประเทศทุกหมู่เหล่าก็มาถึง เป็นการบอกพวกอำมาตย์ทรราชฆาตกรให้รู้ว่า".พอกันที"กับความโหดเหี้ยมป่าเถื่อนไร้กฎกติกาของพวกโจร คนไทยไม่ใช่ทาสแผ่นดินไทยเป็นของคนไทยทุกคนจึงรักและหวงแหน จะไม่ยอมให้พวกอำมาตย์ฆาตกรทรราชและกลุ่มพวกโจรมอ็บของ " อีเทพ + ไอ้เทือก " จากภาคใต้มาทำลายประเทศไทยให้ล่มสลายไปกว่านี้ไม่ได้ เพราะประเทศชาติต้องมีกฎหมายปกครองไม่ใช่ใช้กฎเถื่อนของ"อำนาจมืด" ดังนั้นประชาชนไทยทุกหมู่เหล่าต้องลุกขึ้นสู้ สู้ เพื่อปกป้องตัวเองเท่านั้น....

https://www.youtube.com/watch?v=sVGUFwIqH1Q&feature=player_embedded

 เมืองใดไร้ธรรมอำไพ เมืองนั้นบรรลัยแน่นอน

อีกหนึ่งกลุ่มที่ เปิดหน้าออกมาเคลื่อนไหวแล้วในเวลานี้  
ประชาชนจะต่อสู้..อีกครั้ง ตอนนี้ไม่สู้แต่ในป่า แต่จะสู้ในเมืองด้วย..สงครามนี้ยาวนาน..ไม่มีใครกลัวใคร..ไม่มีใครเคารพกฏกติกาบ้านเมือง..ไฟจะลุกทุกย่อมหญ้า
เพราะอำมาตย์ หลงไหลในอำนาจตัวเองมันจึงบานปลายแบบนี้...   
แถลงการณ์ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยเขตงาน444 ร่วมปกป้องประชาธิปไตย

 

กองกำลังที่ถูกกฏหมายเพื่อคานกำลังทหารและองค์กรอิสระ     

ในกรณี ปปช.ชี้มูลนายกยิ่งลักษณ์ ทำให้ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่
นายกมีสองทางให้เลือก
หนึ่ง ยอมรับอำนาจปปช.แล้วหยุดปฏิบัติ
หน้าที่ ให้รองนายกเลื่อนขึ้นมารักษาการแทน
สอง อาระยะขัดขืนไม่ออกจากตำแหน่งรักษาการ
เป็นเหตุให้ ทหารออกมายึดอำนาจ
มีกองกำลังที่จัดตั้งขึ้นใหม่ติดอาวุธโดยถูกกฏหมายจำนวน 500000 คน
เมื่อรวมกับตำรวจอีก 300000คน
รวมเป็น 800000คน
มาคานกับทหารทั้งประเทศ 400000คน
ทั้งๆที่ทหารระดับล่างกว่า70%เป็นทหารแตงโม
พร้อมประชาชน อีก สิบห้าล้านคน หนุนอยู่
ใครแพ้ใครชนะ วิเคราะแบบวิทยาศาสตร์นะครับ

-แรมโบ้อีสานออกแถลงการณ์ตั้งอาสาสมัครพิทักษ์ ปชต.
กำหนดการรับสมัครสมาชิก กลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ (อพปช.) ให้ได้จำนวน 200,000 คนภายเดือนมีนาคม 2557 โดยทั้ง 20 จังหวัดภาคอีสานจะมารวมตัวกันเพื่อสมัครสมาชิกครั้งแรกที่จังหวัดมหาสารคาม ในวันที่ 1 มีนาคม 2557 ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองมหาสารคาม หลังจากนั้นในวันที่ 8 มีนาคม 2557 คณะกรรมการจังหวัดในแต่ละจังหวัดจะเปิดรับสมัครสมาชิกกันเอง เพื่อเป็นการแสดงพลังอันยิ่งใหญ่ของประชาชน ออกมาพิทักษ์ปกป้องการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข และได้จัดเตรียมยุทธวิธีในการจัดการกับกลุ่มบุคคล คณะบุคคล ที่มุ่งจะทำลายประชาธิปไตยของประเทศไทย ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย