söndag 26 april 2015

ข่าวลับกรองแล้ว 26 เมษา 2558 "ฉบับพิเศษต้อนรับการปรากฎกายของนินจา"

ข่าวลับกรองแล้ว26เมษา2558 " ฉบับพิเศษต้อนรับการปรากฎกายของนินจา "


 ”วันศุกร์ ที่ 24 เมษายน 2558 เวลา  14.10  น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากอาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ไปประทับเปลี่ยนพระราชอิริยาบถ และทอดพระเนตรทิวทัศน์ของแม่น้ำเจ้าพระยา ณ หอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร เป็นการส่วนพระองค์

เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงหอประชุมกองทัพเรือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินขึ้นไปยังชั้น 3 ณ ห้องชมชลธี เพื่อประทับเปลี่ยนพระราชอิริยาบถ เสวยพระสุธารส และทอดพระเนตรทิวทัศน์ของแม่น้ำเจ้าพระยา

หอประชุมกองทัพเรือ หรืออาคารชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านตรงข้ามกับพระบรมมหาราชวัง ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2545 ในพื้นที่ของกองทัพเรือ เพื่อใช้รองรับการประชุมสุดยอดผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปค (APEC) ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในปี 2546 และเนื่องจากหอประชุมแห่งนี้มีชื่อเสียงทั้งในด้านสถาปัตยกรรมและเป็นจุดชมทิวทัศน์แม่น้ำเจ้าพระยาที่งดงาม จึงได้รับเกียรติให้ใช้จัดงานพิธีและกิจกรรมต่างๆ ที่สำคัญในระดับชาติและนานาชาติอีกหลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2549 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ  เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ และพระประมุขกับพระราชวงศ์ต่างประเทศ ที่ทรงเข้าร่วมงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มาทอดพระเนตรขบวนเรือพระราชพิธี ณ ราชนาวิกสภา และทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติที่หอประชุมกองทัพเรือแห่งนี้

การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับ ณ ห้องชมชลธี เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับอาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช เมื่อเวลา 15.25  น.”



สืบความลับจับมาตีแผ่เผยแพร่เป็นประจำในขบวนการประชาธิปไตยไทยในสแกนดิเนียเวียโดยกลุ่มเสียงประชาชนไทย(สปท.)  http://thaiscandemo.blogspot.com/



*555 สะใจสะใจ ที่พวกเจ้าเฝ้าอ่านข่าวลับกรองแล้วของสปท.ที่เจาะข่าวลับล้วงข่าวลึกจากก้นวังมาตีแผ่จนคนแห่เข้าชมกันมากจนเวปแน่น


*วันนี้พวกเจ้า (ในวัง) สั่นไหวคล้ายเจ้า (นอกวัง) เข้าทรง  เพราะต้องคอยติดตามข่าวสปท.จากเวปขบวนการประชาธิปไตยในสแกนดิเวีย   กับเวปอาเฮียสุรชัย แซ่ด่าน, ทุกครั้งที่วิจารณ์ว่า " สงสัยกษัตริย์ภูมิพลตายแล้วเพราะเงียบไป " พวกขี้ข้าก็จะเข็นคุณปู่ออกมาโชว์ตัวกันสักที,  แต่เข็นทันทีทันใดไม่ได้    เพราะวันๆนอนคล้ายคนตายจริงๆแต่ยิ่งเข็นออกมาปรากฎตัวก็ยิ่งชัวร์ว่าหมดสภาพ


*จากรูปที่เห็น..ท่านเจ้าคุณปู่จะควบคุมประเทศได้อย่างไรเพราะตัวท่านเองยังควบคุมคอของท่านให้ตั้งบนบ่าตรงๆไม่ได้ต้องใช้หมอนหนุนยันคอตั้งไม่ให้หงายหลัง...แถมด้วยโรคเก่าน้ำคั่งในช่องท้องก็ควบคุมไม่ได้นั่งรถเข็นเห็นท้องป่องเป็นหุ่นกระบอกไอ้เท่ง


*สามวันดีสี่วันไข้ยังง่ายไปสำหรับอาการภูมิพลทุกวันนี้,   เพราะของจริงคือ"สามวันผีสี่วันใกล้จะตาย" เพราะในแต่ละสัปดาห์นอนหลับติดต่อกันแทบจะไม่ตื่นสักวัน


*ถ้าแข็งแรงเป็นปกติจริงก็น่าจะเข็นออกมา  ในวันพระราชพิธีวันจักรีเมื่อ 6 เมษาไปแล้ว,แต่ทุกวันนี้วันๆต้องลุ้นกันว่า " ตัวจะแข็ง " หรือ " แรงจะแข็ง " ขึ้นวันใดกำหนดไม่ได้พอแข็งได้วันใหนก็เอาวันนั้น


*เมื่อ 2 เมษาวันเกิดลูกสาวก็ออกมาโชว์ตัวไม่ได้,  พอ23เมษาปั่นกันจนพอไหวก็อุ้มใส่รถเข็นเห็นชัดว่าคนบริหารจัดการในวังชั้นในใกล้ตัวภูมิพลเป็นสายพระเทพ   ตามสายข่าวที่รายงานนั้นของจริง, ดูกันให้ชัดว่าใครพวกใครในวันนั้น, คนจับท่านเจ้าคุณปู่ที่พอจะรู้สึกตัวสั้นๆให้ใส่เสื้อลายดอกม่วงก็รู้ว่าเป็นใครสายเทพถ่างที่อยู่ใกล้ตัว,  หมอเข็นรถและขี้ข้าที่รายล้อมก็ใส่เสื้อม่วงด้วย   แต่" ดิสธร วัชโรทัย " รู้ทางทำตัวกลางๆไม่ใส่เสื้อม่วง,ทหารเรือก็รู้ทางแต่งชุดราชการก็รอดตัวไป


*ก็แปลกแต่จริงวันนี้ภูมิพลได้แต่นั่งนิ่งไหวติงก็ยากยิ่ง  แต่ทำไมปล่อยให้ ลิงเปรมหลอกเจ้าอยู่ได้,  ทำไมมีอำนาจไม่จัดการเรื่องในครอบครัวตัวเองให้เรียบร้อย  ชาวบ้านจะได้ไม่ถูกคสช.จับร้อยจมูก??? บอกได้คำเดียววันนี้คือ "เห็นแก่ตัว" ไม่ใช่เห็นแก่บ้านเมืองตามที่ปากพูด
 
*แม่น้ำเจ้าพระนั่งดูที่ใหนก็เหมือนกันแต่ทำไมดันต้องมาดูที่กองทัพเรือก็เพราะเรือดำน้ำเป็นเหตุ  เรื่องจะซื้อเรือดำน้ำเป็นเรื่องเก่าที่ทหารเรือลิงหลอกเจ้าสร้างตำนาน  เพื่อหาเงินงบประมาณเข้ากระเป๋าจึงจับเรื่องเล่ากรอกหูเจ้ามานานแล้วว่าพระบรมราชชนก (แปลง่ายๆคือพ่อ) จบจากโรงเรียนนายเรือเฟลนส์บูร์กมุรวิกเยอรมัน (หลังจากที่ล้มเหลวเข้าๆออกๆโรงเรียนทหารบกทั้งในอังกฤษและเยอรมัน) และเริ่มการงานเป็นทหารเรือไทยและทรงโปรดอยากเป็นผู้บัญชาการเรือดำน้ำแต่ไม่ได้ดังใจจึงย้ายวิกไปเป็นหมอ (ชีวิตเจ้าของจริงไม่เป็นโล้เป็นพายจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลานก็เหมือนกันแต่เชลียกันเพราะไม่
เชลียก็ติดตะราง)...นี้คือที่มาของการซื้อเรือดำน้ำที่เล่ากันในวังและเป็นช่วงเวลานาทีทองของทหารยึดอำนาจแล้วก็อนุมัติงบ 3.6 หมื่นล้านบาท   ยามเศรษฐกิจตกต่ำชาวบ้านจึงรุมด่าจึงวางแผนพาคุณป๋าภูมิพลสวมบทสร้างภาพความชอบธรรม  โดยลงทุนใช้ความใกล้ชิดผ่าน "บางคน"ให้ลอบบี้หมอขอให้ท่านเปลี่ยนบรรยากาศไปดูแม่น้ำเจ้าพระยา   ที่กองทัพเรือบ้างเพื่อคนไข้จะได้สบายใจ...เรื่องก็มีเท่านี้เอง


*วันนี้เสี่ยยังเกาะไม่ติดพ่อจึงเป็นจุดอ่อนที่สาย "เทพถ่างบ่างเปรม " ใช้เป็นเกมส์เดินเรื่องเข็นคนไข้ที่หน้าตาไม่น่าจะโชว์ออกมาโชว์พาวว์ขู่ทหารและชาวบ้านผู้รักประชาธิปไตย  แต่ข้างในวังเขารู้กันหมดว่าใครแข็งใครอ่อน


*ยิ่งเสี่ยทิ้งระยะห่างซากคุณปู่ก็ยิ่งถูกแปรรูปเป็นสินทรัพย์ของลิ่วล้อคสช. คอยฉวยโอกาสเอาหุ่นเจ้าคุณปู่มาเชิด   สวมบทอ้างเอาประโยชน์ในแต่ละสถานการณ์, แต่สายข่าวในวังยืนยันว่าคุณปู่พูดเป็นประโยคไม่ได้แล้วแม้แต่จะจับปากกาลงชื่อก็ไม่ได้...ถ้าไม่เชื่อข่าวสปท.ก็ขอให้คณบดีศิริราชช่วยปั้มยาให้ทั้งคุณปู่และคุญย่าออกมาทำบุญพร้อมกัน  ในวันพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสในวันที่ 28 เมษา นี้ที่จะครบ 65 ปีหน่อยดิ...หรือถ้าเวลาป้ำยายังสั้นก็เลือกเอาวันฉัตรมงคล 5 พฤษภาน่าจะไหวกล้าๆหน่อยดิ


*ไม่ต้องวิตก...ปู่ยิ่งอยู่นานไปทั้งๆที่ทำอะไรไม่ได้  เมืองไทยก็ฉิบหายไปไม่มีที่สิ้นสุด...มีแต่คสช.สนุกกับเกมส์หารับประทานง่ายๆไปเรื่อยๆ...แล้วพบกันใหม่//


Inga kommentarer:

Skicka en kommentar