onsdag 29 april 2015

โศกนาฎกรรม กับความเชื่อแปลกๆ เกี่ยวกับภัยพิบัติแผ่นดินไหวที่เนปาล เรื่องความเชื่อทางศาสนา นรกสวรรค์ เชื่อภูติปีศาจผีสางเทวดา เชื่อข่าวลือข่าวปล่อย จากปากต่อปากของคนในสังคมที่ด้อยพัฒนาการเทคโนดลยี่ล้าหลังขาดการติดต่อ ไม่ได้รับข่าวสารการรับรู้ที่เป็นความรู้ความจริงที่เป็นวิทยาศาสตร์.มีที่มาที่ไปเหตุและผลที่พิสูจน์ได้..

รูปภาพของ บีบีซีไทย - BBC Thai


บีบีซีไทย - BBC Thai
·
ข่าวลือและความเชื่อแปลกๆเรื่องแผ่นดินไหวเนปาลกำลังแพร่สะพัดในโซเชียลมีเดีย
ท่ามกลางโศกนาฏกรรมแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเนปาล กลับมีมือมืดคอยปล่อยข่าวลือและความเชื่อแปลกประหลาดเกี่ยวกับแผ่นดินไหวครั้งนี้ผ่านทางโซเชียลมีเดียอย่างแพร่หลาย
ในสื่อโซเชียลมีเดียอาทิ เฟซบุ๊คและยูทูป มีผู้เผยแพร่วิดีโอที่อ้างว่าได้จากกล้องวงจรปิดของโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงกาฐมาณฑุ ซึ่งเผยให้เห็นภาพแผ่นดินไหวจนทำให้เกิดคลื่นรุนแรงในสระว่ายน้ำ วิดีโอดังกล่าวได้รับความสนใจจากสื่อนานาชาติ และมียอดเข้าชมกว่า 5 ล้า...นครั้งแต่ภายหลังพบว่าภาพดังกล่าวไม่ได้มาจากเนปาล ทว่าน่าจะเป็นภาพแผ่นดินไหวในเม็กซิโก เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 และมีการลบวันเวลาที่ปรากฏในวิดีโอ รวมทั้งมีการปรับภาพให้อยู่ในลักษณะกลับหัวกลับหาง
นอกจากนี้ยังมีการปล่อยวิดีโอของอาคารที่ถล่มในอียิปต์ และรูปถ่ายเด็กนักเรียนกำลังขดตัวอยู่ใต้โต๊ะเรียน ซึ่งปรากฏว่าเป็นภาพที่ถ่ายขึ้นระหว่างการซ้อมรับเหตุแผ่นดินไหวในอียิปต์เมื่อปี 2556 อย่างไรก็ดีขณะนี้ บีบีซียังไม่สามารถสืบหาต้นตอและสาเหตุของการปล่อยวีดิโอและภาพถ่ายปลอมเหล่านี้
ขณะเดียวกันในอินเดีย ซึ่งได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวและมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 58 คน ก็กำลังมีข่าวลือแพร่สะพัดทางแอปพลิเคชั่นวอทส์แอพพ์และเฟซบุ๊ค อ้างข้อมูลขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) และรัฐบาลอินเดียว่ากำลังจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขึ้นอีกหลายระลอก ทำให้ชาวบ้านพากันแตกตื่น โดยในเมืองปัฏนา เมืองเอกของรัฐพิหาร ซึ่งมีผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวมากที่สุดนั้นชาวบ้านที่ได้รับข่าวลือพากันตื่นตระหนกออกมารวมกันอยู่ตามท้องถนนเพราะไม่กล้ากลับเข้าบ้านเรือน นอกจากนี้ยังมีการปล่อยภาพตัดต่อที่เผยให้เห็นอาคารบ้านเรือนในหลายเมืองได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว รวมทั้งยังการแพร่ข่าวลือว่า ดวงจันทร์พลิกกลับหัวหลังจากเกิดแผ่นดินไหวพร้อมภาพเปรียบเทียบของดวงจันทร์ก่อนและหลังเกิดแผ่นดินไหว
กระแสข่าวลือดังกล่าวได้ถูกหยิบยกขึ้นหารือในที่ประชุมรัฐสภาอินเดีย โดยรัฐมนตรีด้านการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศเรียกร้องให้ประชาชนรับข่าวสารอย่างมีสติ ไม่หลงเชื่อและไม่ส่งต่อข่าวลือจากสื่อโซเชียลมีเดีย
คลิกดูเพิมดูเพิ่มเติม




Nepal earthquake Avalanche on Everest, aerial view of Kathmandu ToonsZilla


 

เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เนปาลกำลังเป็นข่าวใหญ่ในขณะนี้ ผู้คนจากทั่วโลกต่างก็เห็นอกเห็นใจผู้ประสบภัย และมุ่งหน้าไปยังเนปาลเพื่อให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ อย่างไรก็ตาม เรื่องแผ่นดินไหวนี้ก็ทำให้การพูดแบบเก่าๆหวนกลับมา นั่นคือเกิดคำถามว่า คนเนปาลทำบาปกรรมอะไรไปหรือเปล่า ถึงได้ประสบกับเคราะห์กรรมแบบนี้?

ในวิชาเทววิทยา มีปัญหาใหญ่ปัญหาหนึ่งได้แก่ “ปัญหาเรื่องความชั่วร้าย” คือว่าพระเจ้าเป็นผู้ที่ทรงพระมหากรุณาสูงสุด และในขณะเดียวกันก็ทรงเป็นผู้ทรงอำนาจสูงสุดด้วย การเป็นผู้ทรงความกรุณาสูงสุดหมายความว่า พระเจ้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักแก่สัตว์โลกที่พระเจ้าสร้างขึ้นมาอย่างเสมอกัน ไม่มีประมาณ และการเป็นผู้ทรงอำนาจสูงสุดก็คือว่า พระเจ้าสามารถทำได้ทุกสิ่ง ไม่มีอะไรจะมาขัดขวางอำนาจของพระองค์

แต่ปัญหาก็คือว่า ในโลกนี้มี “ความชั่วร้าย” อยู่ ทั้งความชั่วร้ายที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่นสงคราม แล้วก็ความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นเอง เช่นแผ่นดินไหว โรคระบาด หรือสึนามิ ไม่ว่าจะเป็นความชั่วร้ายแบบไหน ก็ทำให้ผู้คนต้องทนทุกข์ทรมาน ล้มตายลงเป็นจำนวนมาก ทรัพย์สินเสียหาย ฯลฯ ทั้งนั้น แต่พระเจ้าเป็นผู้ทรงความกรุณากับทรงมีอำนาจสูงสุด แล้วเหตุใดพระเจ้าจึงปล่อยให้เกิดความชั่วร้ายเหล่านี้ขึ้น? หากพระองค์มีความกรุณาสูงสุดจริง รักสัตว์โลกจริง และมีอำนาจทำได้ทุกอย่างจริง แล้วทำไมจึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น?

ปัญหานี้นับว่าเป็นปัญหาที่ท้าทายศรัทธาของผู้ที่เชื่อในพระเจ้ามากที่สุด แล้วก็แก้ได้ยากที่สุดในบรรดาปัญหาทางเทววิทยาทั้งหลาย อย่างไรก็ตามนักปรัชญากับนักเทววิทยาก็แก้ว่า พระเจ้าสร้างมนุษย์มาในฉายาของพระองค์ หมายความว่ามนุษย์มี “เสรีภาพ” ที่จะทำอะไรก็ได้ แม้พระเจ้าก็ห้ามไม่ได้ ดังนั้นถ้าใครคนหนึ่งอยากทำชั่ว พระเจ้าก็ห้ามไม่ได้ คนทำก็ต้องรับผิดชอบผลการกระทำของตัวเอง

แต่คำตอบนี้ก็ใช้ไม่ค่อยได้กับความชั่วร้ายที่เกิดจากภัยธรรมชาติ เช่นแผ่นดินไหว เพราะไม่มีมนุษย์คนไหนจะทำให้เกิดได้ ในแง่นี้คำตอบก็คือว่า มนุษย์อย่างเราๆไม่สามารถเข้าใจจิตใจหรือแผนการของพระเจ้าได้ บางสิ่งบางอย่างเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของมันเองตามธรรมชาติ พระเจ้าสร้างโลกมาเป็นแบบนี้ มีหินเหลวร้อนอยู่ใต้เปลือกโลกแบบนี้ มีเปลือกโลกเป็นแผ่นๆเคลื่อนไหวไปตามหินเหลวข้างล่าง แล้วเปลือกโลกก็มาชนกัน มันก็ต้องเกิดแผ่นดินไหวอยู่แล้ว เมื่อมีคนมาอาศัยอยู่ตรงที่เกิดแผ่นดินไหว ก็ต้องเกิดความสูญเสียเป็นเรื่องธรรมดา พระเจ้าไม่สามารถลงมาบอกมนุษย์ล่วงหน้าได้ว่าตรงนั้นตรงนี้จะเกิดแผ่นดินไหวหรือสึนามิภายในเวลาเท่านั้นเท่านี้ เป็นเรื่องที่มนุษย์ต้องเรียนรู้กันเอง

คนไทยส่วนใหญ่ที่ไม่ได้นับถือศาสนาที่มีพระเจ้า ก็คิดได้ทำนองเดียวกัน คือเมื่อเกิดภัยพิบัติ ปัญหาก็คือว่าหลายต่อหลายครั้งคนที่ประสบภัยพิบัติ เขาเป็นคนดีมากๆ ไม่เคยทำบาปกรรมอะไรใหญ่โต คนที่โดนแผ่นดินไหวเสียชีวิตไป ก็มีทั้งผู้ใหญ่ คนหนุ่มสาว แล้วก็เด็ก แล้วเด็กจะไปทำบาปกรรมอะไรได้? หลายคนคิดว่าเป็นเรื่องของกรรมเก่าตั้งแต่ชาติก่อน ก็คุณไปอยู่ตรงนั้น เวลานั้น ตอนที่เกิดแผ่นดินไหวพอดี ก็ต้องมีกรรมเก่าบางอย่างผลักดันคุณให้ไปอยู่ตรงนั้นใช่หรือเปล่า? ถ้าไม่ใช่กรรมชาตินี้ (เพราะคนดีๆคนบริสุทธิ์ต้องตายลงไปมากมาย) ก็ต้องเป็นชาติก่อนนั่นแหละ

สิ่งที่ชาวพุทธควรคิดก็คือว่า เรามีกรรมเก่ากันหมดทุกคนแหละครับ ไม่ใช่มีแต่ชาวเนปาลที่สูญเสียเท่านั้นที่มีกรรมเก่า มีกันหมดทุกคน เพียงแต่ว่ากรรมเก่าของแต่ละคนส่งผลออกมาคนละอย่าง เราๆที่นั่งอ่านบล๊อกนี้อยู่ ไม่แน่ว่าบางคนอาจอยู่ดีๆป่วยเป็นโรคร้าย (ไม่ได้แช่งนะครับ) บางคนอาจโชคดีถูกล็อตเตอรี่รางวัลใหญ่ เรื่องของเรื่องก็คือไม่มีใครสามารถรู้อนาคตของชีวิตของเราได้ คนเนปาลเขาก็ไม่รู้ว่าจะเกิดแผ่นดินไหว เราเองก็ไม่รู้ว่าชะตาชีวิตของเรา แม้กระทั่งวันพรุ่งนี้ จะเป็นอย่างไร ดังนั้นการไปว่าเขาบอกว่าเขาทำกรรมเก่าไม่ดีเอาไว้ จึงไม่เป็นเรื่องสมควรครับ ตัวเราเองก็เหอะ เราเองก็ไม่รู้หรอกว่า ตัวเราเอง ได้ทำกรรมเก่าอะไรไว้ สิ่งที่ทำไปนั้นอาจหนักมากๆก็ได้ แล้วที่ผ่านมามันยังไม่ส่งผล แต่ก็ไม่แน่ อาจจะส่งผลพรุ่งนี้มะรืนนี้ก็ได้

ดังนั้นท่าทีที่ถูกต้องของชาวพุทธก็คือว่า เราต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท หมายความว่าเรารู้ตัวอยู่ตลอดเวลาว่า พรุ่งนี้เราอาจถึงแก่ความตายเอาง่ายๆก็ได้ ดังนั้นต้องดูตัวเองในเวลานี้ว่า ตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ที่ตัวเองทำอยู่น่ะ เป็นประโยชน์แก่ตัวของตัวเองหรือแก่ผู้อื่น ทั้งในโลกนี้และโลกหน้าหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าใช้ชีวิตอย่างสบายๆ ไม่คิดว่าสิ่งร้ายๆจะเกิดแก่ตัวเอง อย่างนั้นคือประมาทแหละครับ เรื่องร้ายๆไม่มีใครหนีได้ ทุกคนต้องพบเข้าไม่วันนี้ก็วันต่อๆไปสักวัน พอคิดอย่างนี้จิตใจก็จะอยู่กับสติ การกระทำต่างๆของเราก็จะมีความหมายขึ้นมา เป็นประโยชน์แก่ตัวเราเอง

ดังนั้นอย่าไปว่าชาวเนปาลว่าเขาทำกรรมเก่ามาเลยครับ ที่เขาประสบอยู่นี่ก็หนักมากแล้ว ยังมาโดนว่าหาว่าไปทำกรรมชั่วเข้าให้อีก ในท้ายที่สุดคนที่ว่าเองนั่นแหละครับ กำลังประกอบอกุศลกรรมข้อใหญ่เข้าให้แล้ว และกำลังใช้ชีวิตอยู่ด้วยความประมาท ทางที่ดีก็คือ เราเห็นอกเห็นใจเขา เพราะเขาก็เป็นเพื่อนร่วมโลกกับเรา ถ้าเราจะช่วยเหลือทางใดทางหนึ่งได้ เราก็ควรทำ เราควรคิดกันแบบนี้มากกว่าครับ
คลิกดูเพิ่ม-จากบล็อกของอาจารย์ โสรัจจ์ หงศ์ลดารมภ์

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar