lördag 18 april 2015
"ปฏิวัติเงียบและสันติ" อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับพี่น้องประชาชนไทยเพื่อนร่วมชาติที่สามารถทำได้ โดยการปรับเปลี่ยนวิถีชืวิตช่่วยตนเองก้าวหลุดพ้นออกจากวงจรอุบาทว์ จากวิถีชีวิตการเป็นทาสบริโภคผลิตผลสินค้าสำเร็จรูปของพวก"ทุนสามานย์"ผูกขาดสวามิภักดิ์อำนาจเหนือรัฐ ปลดปล่อยตัวเองเป็นไท..
by Red Eagle
วิถีแห่งประชาธิปไตยที่แท้จริง
ประเทศไทยนับตั้งแต่มีการเปลี่ยนระบอบการปกครองจากสมบูรณายาสิทธิราช มาเป็นระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แต่ตัวแทนของประชาชนที่จะเข้าไปใช้อำนาจในการปกครอง ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ไม่ได้มีอำนาจอะไรเลย เป็นเพียงตรายางไปรับรองการใช้อำนาจอยู่ด้านหลัง หรืออำนาจเหนือรัฐมาโดยตลอด
การเมืองเป็นเพียงเครื่องมือของการขยายอำนาจครอบคลุมประชาชนโดยอาศัยกลุ่ม ทุนสวามิภักดิ์เป็นเครื่องมือ จนทรัพยากรของประเทศอยู่ในมือของกลุ่มทุนผูกขาดดั้งเดิมส่วนใหญ่
การขยายธุรกิจเพื่อควบคุมการบริโภคและการใช้ชีวิตของประชาชน ได้แย่งชิงทรัพยากรของประเทศ ที่ประชาชนได้ใช้ชีวิตอาศัยธรรมชาติในการดำเนินชีวิต เปลี่ยนมาเป็นการอาศัยพึ่งพาเครื่องอุปโภคบริโภคจากกลุ่มทุนผูดขาดพวกนี้ ไม่ว่าจะมาจากสหพัฒนพิบูลย์จำกัด จากยูนิลิเวอร์ จากซีพี ที่มีเครือธุรกิจกระจายไปทั่ว ไม่ว่า 7-11 บิ๊กซี โรบินสัน โลตัส เซ็นทรัล ฯลฯ
การทำลายแหล่งทำมาหากินของประชาชน ทำลายธรรมชาติที่เอื้อต่อการดำรงชีวิต ได้ปลับเปลี่ยนพฤติกรรมมนุษย์จากการพึ่งพาตนเองพึ่งพาธรรมชาติ มาเป็นการพึ่งพาธุรกิจผูกขาดทุนสวามิภักดิ์เหนือรัฐ จากที่เคยหุ่งข้าวกิน ก็เดินเข้า 7-11 เพื่อยื่นเงินจากหยาดเหงื่อแรงงานเพื่อแลกกับข้าวกล่องหนึ่งกล่องแล้วเว็บ ร้อนๆ ออกมาทาน จากลำธารที่เคยมี ปู ปลา กุ้ง หอย สิ่งเหล่านนั้นก็หายไปจากกระบวนการผลิตที่ต้องทำลายสายพันธุ์ธรรมชาติ แล้วเอาสายพันธุ์ปรับแต่พันธุกรรมมาทดแทน
กระบวนการผลิตจึงต้องใช้ปุ๋ย ยา สารเคมีมากขึ้นตามลำดับ สิ่งหนึ่งที่เกษตรกรไม่เคยรับรู้เลย คือ พันธุกรรมของโรคพืชและโรคสัตว์ คือสายพันธุ์กรรมไวรัสที่ออกมาจากห้องทดลอง Lab แล้วมาใส่ไว้ในอาหารสัตว์ ยารักษาสัตว์ ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ยาปราบศัตรูพืช ฯลฯ เพื่อให้ศัตรูพืชและสัตว์กลายพันธุ์ แล้วเกษตรกรต้องใช้สารเคมีจากเจ้าของสายพันธุ์ไวรัสเหล่านั้น หากไม่ใช้ก็จะดื้อยาและได้ผลผลิตไม่เป็นไปตามกระบวนการผลิตและเป้าหมาย คนกินก็เป็นเพียงเครื่องมือของการทำธุรกิจจากกระบวนการควบคุมอาหารในท้องตลาดเท่านั้นเอง
แล้วประชาชนจะมีทางเลือกหรือมีความเป็นอิสระได้อย่างไร???
ถ้าหากถูกควบคุมด้วยปัจจัยสี่ ถึงปัจจัยอื่นๆ อย่างนี้ จะเรียกร้องหาประชาธิปไตยจากทุนผูกขาดสวามิภักดิ์เหนือรัฐพวกนี้ได้หรือไม่ จะเอาคนเรือนหมื่น เรือนแสนมาเดินกลางถนนเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย แล้วจะได้เสรีภาพ ได้ประชาธิปไตยจริงหรือไม่ ในขณะที่วิถีชีวิตของประชาชนเป็นทาสการบริโภคสินค้าจากทุนผูกขาดสวามิภักดิ์ เหนือรัฐพวกนี้อยู่
ไม่มีทางเลยที่ประชาชนจะได้เสรีภาพและประชาธิปไตยที่แท้จริง หากประชาชนไม่สามารถพึ่งตนเองทั้งทางความคิด อุดมการณ์ การผลิต การแปรรูป การบริโภค และวัฒนธรรม อย่าได้หวังว่าทุนผูกขาดสวามิภักดิ์เหนือรัฐพวกนี้จะปล่อยให้ประชาชนนั้น เป็นอิสระ มีเสรีภาพ มีประชาธิปไตย เพราะนั้นคือการเปิดโอกาสให้ทุนโลกาภิวัตร์กลุ่มใหม่ขึ้นมาแข่งขันกับเขา ไม่มีทางที่จะเป็นประชาธิปไตยได้
แล้วทางออกหละมันอยู่ที่ไหน ???...
อย่าที่เปิดช่องไว้แล้วที่ผ่านมา คือการที่ประชาชนพึ่งตนเอง พึ่งกันเองได้ ณ เวลานี้ เราจะเห็นว่า บ.ก. ลายจุดกำลังทำเรื่องข้าว นั่นคือการพึ่งตนเองในการผลิตข้าว และพึ่งกันเองในการกระจายข้าวเพื่อการบริโภค จนทหารโง่ๆ อย่างไอ้ไก่อูออกมาต่อต้านแล้วบอกว่าจะทำให้เสียระบบการตลาด มันบอกชัดแล้วว่ามันรักษาระบบธุรกิจให้กับกลุ่มทุนผูกขาดสวามิภักดิ์เหนือ รัฐพวกนั้น ต่อไปสังคมต้องเข้าใจถึงการ
สร้างนวัตกรรมทางการพึ่งตนเอง เพื่อให้หลุดพ้นจากการครอบงำมากกว่านี้ ประชาธิปไตยจึงจะบังเกิด ในท้องฟ้าที่มืดมิด ยังมีแสงแห่งดวงดาวคอยนำทางพวกเราไปสู่แสงสว่าง "หันมาปฏิวัติเงียบและสันติกันเถอะ"
อยากเริ่มต้นจากกลุ่มเกษตกร ประมาณจำนวณหนึ่งเพื่อการปฏิวัติครับ อยากทุนสนับสนุนการปฏิวัติที่ประชาชนเป็นผู้กำหนดที่แท้จริง หวังว่าแนวคิดนี้จะถูกนำไปสู่การขับเคลื่อนเพื่อปลดปล่อย สู่เสรีภาพและประชาธิปไตยที่แท้จริงครับ
Prenumerera på:
Kommentarer till inlägget (Atom)
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar