onsdag 22 april 2015

อัพเดท ข่าว HOT! ระเบิดสมุย ที่มาที่ไป′บิ๊กจิ๋ว′ ถูกใส่สีตีไข่จนเละ เรื่องของเรื่องมาจากการให้ข้อมูลเบาะแสไม่ครบถ้วน แล้วฟันธงด้วย"ความมั่นใจ" ว่าเกี่ยวกับนักการเมือง โยงเอาข่าวการเที่ดินทางไปร่วมงานบุญผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.) ณ อนุสรณ์สถานช่องช้าง ของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ มาเป็นประเด็น..เรื่องนี้บอกให้รู้ว่าอำมาตย์อ่อนกำลังอยู่ในภาวะคับขัน เพราะ จึงเร่งเกมส์สร้างสถานการณ์การให้รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อฝ่าคลื่นลมคลอดรัฐธรรมนูญเผด็จการเถื่อนออกมาใช้ให้ได้ อันตรายๆ ขอให้พี่น้องประชาชนไทยก้าวผ่านความกลัว " ม.112 ม.44." ด้วยการมีสติระมัดระวังตัวไม่ประมาท ติดอาวุธทางปัญญาติดตามข่าว "เศรษฐกิจ สังคม การเมือง"ฝึกฝนวิทยายุทธยกระดับตัวเองก้าวให้ทันแผนชั่วของพวกสมุนรับใช้อำมาตย์เผด็จการทรราชราชาธิปไตย การเดินทางยังอีกยาวไกลเตรียมตัวให้พร้อมทุกด้าน เก็บกระบี่ไว้ที่ใจรอวันเวลาและโอกาสที่จะมาถึง

เบาะแส หนึ่งเดียว เหตุระเบิด ′เกาะสมุย′ เบาะแส ′บิ๊กจิ๋ว′



















สงสัยกันหรือไม่ว่า "เบาะแส" อันมีการพาดพิงไปถึง "นักการเมือง" ว่ามีการสนับสนุนให้เกิดเหตุระเบิดบนเกาะสมุยในกลางดึกของคืนวันที่ 10 เมษายนนั้น

มี "รากฐาน" และ "ความเป็นมา" อย่างไร

เพียง 1 วันหลังกัมปนาทแห่งระเบิดอย่างน้อยเราก็ได้รับฟังความเห็นจาก 1 กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี และ 1 ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง

ระบุด้วยความมั่นใจยิ่งว่าเป็นเรื่องของ
"นักการเมือง"
ทั้งยังเป็นนักการเมืองซึ่งมีสายสัมพันธ์อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเป็นฝ่ายตรงกันข้ามกับ คสช.อีกด้วย  ทั้งๆ ที่ในตอนนั้นยังไม่มีการจับกุม "ผู้ต้องสงสัย" แม้แต่คนเดียว

ทั้งๆ ที่แม้จะมีการควบคุมตัว นายนรินทร์ อ่ำหนองบัว หรือ เอ็ม เสื้อแดง แต่ผลการสอบสวนก็ยังไม่แจ่มชัด  เว้นแต่เบาะแสเดียวเท่านั้น   นั่นก็คือ ข่าวการเดินทางไปร่วมงานบุญผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.) ณ อนุสรณ์สถานช่องช้าง ของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ
เป็นเบาะแสเดียวอันนำไปสู่ "ความมั่นใจ"
เหตุที่ประเมินได้ว่า การเดินทางของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ คือเบาะแสเดียวอันนำไปสู่การผูกโยงและลากดึง 

เพราะ 1 เป็นการเดินทางไปในพื้นที่ของ "สุราษฎร์ธานี"เพราะ 1 ในกาละเดียวกันนั้น นายนัจมุดดีน อูมา อดีต ส.ส.นราธิวาส เดินทางมารอพบ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ 
กระนั้น มี "รายละเอียด" บางประการที่อาจทำให้ "ข้อมูล" ไม่ครบถ้วน  เป็นรายละเอียดที่ในการเดินทางไปยังช่องช้างได้มีเจ้าหน้าที่ทหารจากกองบังคับการจังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานีร่วมอยู่ในเหตุการณ์ด้วย   มีการบันทึกคำปราศรัยของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ลงในเทป  สะท้อนให้เห็นว่า การเดินทางของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ มิได้กระทำอย่างลับ หากแต่เปิดเผย แผ่แบ

ขณะเดียวกัน อีกรายละเอียด 1 ซึ่งถูกมองข้ามไปอย่างเจตนา   นั่นก็คือ การมารอพบ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ของ นายนัจมุดดีน อูมา เป็นการมารอที่โรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี เป็นการมาโดยมิได้นัดหมายกันมาก่อน จึงไม่ได้พบตามความต้องการ

กระนั้น ทั้งหมดนี้คือ "เบาะแส" อันเกี่ยวกับ "นักการเมือง"


ความน่าสนใจอย่างเป็นพิเศษก็คือ บุคคลที่นำเบาะแสนี้มาเปิดเผยต่อสาธารณะเป็น "พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. เป็นการระบุว่า มี "การเคลื่อนไหว" ของกลุ่ม "การเมือง"กระนั้น การระบุของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ก็เกิดขึ้นภายหลังจากการฟันธงด้วยความมั่นใจเป็นอย่างสูงจากบุคคล 2 คน
คน 1 เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี
คน 1 เป็นที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง
ไม่ว่าท่านแรก ไม่ว่าท่านหลัง ได้บอกให้รับรู้เป็นนัยๆ ว่านักการเมืองคนนั้นเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี และเป็นนายทหารยศระดับ พล.อ.ถือได้ว่า นำ "ข่าวลึก" อย่างยิ่งมา
"เปิด"อย่าได้แปลกใจหาก นายจตุพร พรหมพันธุ์ จะมาให้รายละเอียดอันเป็นเรื่องจริง เช่นเดียวกับแถลงของ พล.ท.พิรัช สวามิวัสดุ์ ซึ่งทำงานใกล้ชิดกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธแม้กระทั่งที่ "ช่องช้าง" พล.ท.พิรัช สวามิวัสดุ์ ก็อยู่ในเหตุการณ์ความน่าสนใจของข้อมูลทั้งหมดนี้คือ เป็นข้อมูลในระดับ "ปรากฏการณ์" ทั้งสิ้น มิได้เป็นข้อมูลอย่างที่ภาษาตำรวจเรียกว่า พยานหลักฐานเชิงประจักษ์

เพราะยังมิได้มีการจับกุม "ผู้ต้องหา" แม้แต่รายเดียว

หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหารจึงยังอีกยาวและยังต้องทำงานอย่างหนัก
งานหาพยานหลักฐานทั้งที่เป็นพยานวัตถุ พยานเอกสาร ย่อมยากลำบาก เพราะหาก "การข่าว" ผิดพลาด โอกาสที่จะผิดพลาดเหมือนบ้านโต๊ะซูด ทุ่งยางแดง ก็มีความเป็นไปได้
งาน "การข่าว" จึงต้องอยู่กับ "ความจริง




Inga kommentarer:

Skicka en kommentar