måndag 30 november 2015

ข่าวน่าสนใจทั่วไป

by เพจกู

ลืมว่าจะอัพเรื่องนี้มาวันสองวันแล้ว ก็คือพุทธอิสระ (โล้นอินดี้กาลีพุทธ) และวสิษฐ เดชกุญชร อดีตตำรวจราชสำนัก-เวร (นั่งเฝ้าหน้าพระแท่น) ตอนนี้เป็นตำรวจแก่นิสัยเวร(ตะไล)
ทั้งสองคนนี้เป็นแกนนำ พาคณะผู้สูงอายุขาดสติจำนวนมากไปประท้วงหน้าสถานทูตสหรัฐอเมริกา กรณีทูตสหรัฐวิจารณ์ไทยเรื่องกฎหมายมาตรา 112 (การชุมนุมทางการเมืองของฝ่ายเหล่านี้ สังเกตว่า คสช.จะไม่จัดการ)
พอประท้วงกันเสร็จ ตกเย็น ท่านเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร...
(พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารแทนพระองค์ เพื่อถวายพระราชสาส์น และอักษรสาส์นตราตั้งเป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญ ผู้มีอำนาจเต็มประจำประเทศไทย)
เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ก็ได้เข้าเฝ้าเพื่อทูลเกล้าฯ ถวายอักษรสาส์นตราตั้ง เป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยคนใหม่



คริสตีย์ ไม่สนุกเท่า เดวีส์ เล่นอย่างนี้ รับรองว่าจะมีคนดิ้นร้องแรกแหกกระเฌอสนุกแน่ๆ รอชมกันต่อไป เดี๋ยวมีจัดหนักแน่นอน อิอิ

จาก Wassana Nanuam (คลิป https://www.facebook.com/WassanaJournalist/videos/1004798219578636/)
ทำไมกูฟังแล้วรู้สึกตลกไอ้มะขามป้อม
บิ๊กป้อม ติง ทูตสหรัฐฯ ควรคิดก่อนพูด ยัน รัฐบาล คสช.ให้เสรีภาพ มากกว่ารัฐบาลจากประหารอื่นๆ สื่อมีเสรีภาพ ให้ความสำคัญสิทธิมนุษยชน ยัน ทำเต็มที่ สร้างประชาธิปไตยถาวร รอหน่อย เชื่อ มีเลือกตั้งแน่ 60
กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆs foto.
แต่งดำงานพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร
หลังงานพระศพ จะมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นอีกมาก รอดู


คลิก-ดูเพิ่มเติม


มวยชิงแชมป์!!! ทหาร vs นักการเมือง. "ขิงก็รา..ข่าก็แรง" ก็สู้กันไป ฝากถึงกองเชียร์รวมทั้งประชาชนคนดูทั้งหลายดูอย่างมีสติอย่าใช้อารมณ์บุกถล่มเวที"อันตรายๆๆๆ" ยังมีอีกหลายยก

matichononline -
วิษณุ โนคอมเม้นต์ ทหารรวบ"ตู่-เต้น" (คลิป)

"ฝุ่น...จากฟากฟ้า" บทกวีการเมืองแห่งตอแหลแลนด์

"ฝุ่น...จากฟากฟ้า"

โดย หนานเมือง

[​IMG]

"ฝุ่น...จากฟากฟ้า"

ในสังคมอุดมฝุ่นที่หมกมุ่นความมัวหม่น
ไร้คุณค่าความเป็นคนด้วยความคิดถูกครอบงำ
บันดาลฝุ่น.....บนฟากฟ้าปลิวลงมา.....เบื้องต่ำ
เข้าครอบคลุม.....ด้วยคมคำให้งมโง่.....งมงาย
คนเปื้อนฝุ่น.....จมความฝันยังยึดมั่น.....ความหมาย
ประวัติศาสตร์.....สร้างนิยายเพื่อยกย่อง.....นิยม
ได้คลุกฝุ่น.....จึงฝันเพ้อหลงละเมอ.....ติดหล่ม
คอยกราบกราน.....ซานซมสนองพื้น.....พสุธา
ประสาฝุ่น...จึงลอยฟ่องหยิ่งจองหอง.....ตัณหา
ติดภาพฝัน.....อันโสภาเพียงฉายฉวย.....ชื่นใจ

ครั้นเป็นฝุ่น.....ไม่อาจฝืนไม่อาจยืน.....อยู่ได้
ต้องหมอบคลาน.....กราบกรานไป.....อยู่ภายใต้.....ฝ่าตีน

หนานเมือง,:บทกวีการเมืองแห่งตอแหลแลนด์



ข่าว บีบีซีไทย - BBC Thai - ผู้นำโลกเริ่มการประชุม ‪‎cop21

บีบีซีไทย - BBC Thai -


รูปภาพของ บีบีซีไทย - BBC Thai


ผู้นำโลกเริ่มการประชุม COP21 แล้ว
ผู้นำชาติต่าง ๆ ทั่วโลกเกือบ 150 คน เข้าร่วมการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 21 (คอป 21) ที่กรุงปารีสในวันนี้ (30 พ.ย.) เพื่อเจรจาต่อรองประเด็นการจำกัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่นักวิทยาศาสตร์บอกว่าเป็นต้นเหตุทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น
สำหรับที่ยุโรป ในช่วงสองปีที่ผ่านมานี้ ได้มีการแก้ไขกฎหมายและสร้างความตระหนักให้ผู้คนเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตโดยหันมารักษาสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ยังรักษาชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีเอาไว้ ‪#‎cop21



การประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 21 (COP21) เปิดฉากขึ้นแล้วในกรุงปารีส ของฝรั่งเศส เพื่อหาข้อตกลงฉบับใหม่ในการยับยั้งปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การประชุมครั้งนี้มีขึ้นที่ศูนย์การประชุมเลอ บูร์เกต์ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยคณะผู้แทนเจรจาจาก 195 ประเทศจะพยายามบรรลุข้อตกลงให้ได้ภายใน 2 สัปดาห์ โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลก และคาดว่า ภายในสุดสัปดาห...์นี้จะได้ร่างข้อตกลงฉบับใหม่ เพื่อให้บรรดารัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมประเทศต่างๆได้เจรจาต่อรองกันในช่วงครึ่งหลังของการประชุม
ขณะที่บรรดาผู้นำจาก 147 ประเทศ ก็เตรียมขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมในวันนี้ (30 พ.ย.) ซึ่งรวมถึงประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ โดยคณะผู้นำโลกจะอยู่ร่วมการประชุมวันนี้เพียงวันเดียว แล้วจะประกาศแผนการต่างๆ อาทิ แผนการที่เรียกว่า Mission Innovation ของ 20 ประเทศซึ่งรวมถึง สหรัฐฯ, ฝรั่งเศส และอินเดีย ซึ่งมีเป้าหมายเพิ่มการลงทุนด้านการวิจัยพลังงานสะอาดขึ้นเป็นสองเท่าในเวลา 5 ปี
ขณะที่มหาเศรษฐี บิล เกตส์ และมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ค ประกาศจะลงทุนในโครงการพลังงานสะอาดราคาถูกทุกปีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป นอกจากนี้ ฝรั่งเศสและอินเดียจะประกาศพันธมิตรระดับโลกที่มีเป้าหมายในการดึงประเทศในเขตร้อน ซึ่งอุดมไปด้วยทรัพยากรแสงอาทิตย์เข้าร่วม เพื่อขยายการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้ได้อย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกัน เยอรมนี, นอร์เวย์, สวีเดน และสวิตเซอร์แลนด์ จับมือกับธนาคารโลก ประกาศจัดตั้งกองทุนมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อช่วยประเทศกำลังพัฒนาในการตัดลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ส่วนสาระสำคัญของการประชุมครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การจำกัดไม่ให้อุณหภูมิโลกร้อนขึ้นเกิน 2 องศาเซลเซียส แต่จากการประเมินแผนการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ของกว่า 180 ประเทศกลับพบว่า หากประเทศเหล่านี้ดำเนินการตามแผนที่เสนอมา จะยังไม่สามารถจำกัดอุณหภูมิของโลกได้ตามเป้าหมาย แต่อุณหภูมิโลกจะกลับร้อนขึ้นเกือบ 3 องศาเซลเซียส
ด้านกลุ่มประเทศพัฒนาน้อยที่สุด (แอลดีซี) 48 ประเทศ แสดงความกังวลว่า จะถูก “ทิ้งไว้เบื้องหลัง” ในการรีบเร่งบรรลุข้อตกลงครั้งนี้ และชี้ว่าอุณหภูมิโลกที่เพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส จะก่อให้เกิดภัยพิบัติอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศเหล่านี้
ภาพประกอบ: เจ้าชายแห่งเวลส์ทรงจุมพิตที่มือของรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม พลังงาน และการพัฒนาอย่างยั่งยืนของฝรั่งเศส เพื่อเป็นการทักทาย ในพิธีเปิดการประชุม COP21

คลิกดูเพิ่ม-ดูเพิ่มเติม

söndag 29 november 2015

ขุนเขาบอก : ร่ายลำนำเทวดา...ข้าผู้ท้า..”อเวจี”.....

ขุนเขาบอก:
ร่ายลำนำเทวดา...ข้าผู้ท้า..”อเวจี”.....

เมื่อไม้ใหญ่.ใกล้ลับลา...ร้างนกกา.อยู่อาศัย
เหล่ากาฝาก.จากจรไกล...ทิ้งไม้ใหญ่.ให้ใจหาย
ภมรตอม.ไม่ดอมดม...ไม้ใหญ่ล้ม.ล่มละลาย
ทิ้งดอกใบ.ไม่สบาย...กึ่งคนตาย.กึ่งคนเป็น

พระยาเจ้า.พระยาสาย...สุขสบาย.ฤาไฉน
นองนคร.ก่อนเราตาย...พระยาสาย.สร้างทุกข์เข็น
นคราครา.น้ำหลาก...ข้าถูกพราก.อย่างเลือดเย็น
ดุสิตา.ข้าลำเค็ญ...ถูกเคี้ยวเข็น.ให้อยู่ยง

ทรงศักดา.คือข้าหรือ...ให้ข้าถือ.คทาใหญ่
ตั้งกฎเกณฑ์.เวรตะไร...ให้ข้าได้.สมประสงค์
จนข้าหลง.ว่าทรงศักดิ์...มีคนรัก.ทรนง
ถือคทา.ยามอ่าองค์...เป็นผู้ทรง.”มหิทธา”

อ้างคทา.ที่ข้าถือ...ว่านั่นคือ.คำสั่งสอน
แท้ที่จริง.หวังอิงอร...อ้างคำสอน.ข้ากล่าวหา
ตั้งขอหา.ประชาชน...อ้างเหตุผล.ปล้นนครา
เพียงหมิ่น.เหม่เทวดา...คือตัวข้า.หรือว่าคน

นองเลือดเปื้อน.เกลื่อนชีวิต...อภิสิทธิ์.ฤาไฉน
อ้างเทวา.ทุกคราไป...เข่นฆ่าไพร่.ไร้เหตุผล
ดุสิตา.ข้าล่มแล้ว...หมดสิ้นแล้ว.ฤทธิรณ
ถูกคำอ้าง.เข้าข้างคน...มนุษย์ชน.ถูกกระทำ

สายพระยา.คงลาลับ...ข้าคงดับ.กับสังขาร
อย่าอ้างข้า.มาประจาน...สร้างรำคาญ.ให้คนขำ
ดั่งไม้ใหญ่.ใกล้ล้มแล้ว...ใจเต้นแผ่ว.มองเห็นกรรม
แผ่วพระยม.ประโคมคำ...ร่ายลำนำ...”อเวจี”.....


ขุนเขาบอก : วิถีทาง ประชาธิปไตย ไกลเหลือเกิน.....

ขุนเขาบอก :

วิถีทาง ประชาธิปไตย ไกลเหลือเกิน.....

กะลาแลนด์ แผ่นดินนี้ มีเรื่องเล่า
เทพเจ้า เอากะลา มาครอบหัว
เดินไม่ได้ ไปไม่เป็น เห็นแต่ตัว
ตามืดมัว หัวเกรียนโกร๋น โดนกะลา(ครอบ)

ป่วยเหลือเกิน เดินตามหมา กะลาครอบ
ผิดเป็นชอบ กรอบกำหนด เป็นกฎหมา
ตราถ้อยคำ ทำมะนูน คุณขอมา
ครอบกะลา พาลงเหว เลี้ยวลงคลอง

คอรอมอ ไม่ต้องเสือก กูเลือกเอง
ชงกันเอง เบ่งกันไป ไม่เสียของ
ไม่ต้องถาม ทำตามกู เพื่อปรองดอง
กินขิงดอง แทนขิงแก่ แน่กะลา(แลนด์)

อัยการ กูไม่สึก ใครจะทำไม
สึกเมื่อไร ได้ฉิบอ๋าย ตายอย่างหมา
การท่องเที่ยว ไม่ต้องฝัน มันไม่มา(ฝรั่ง)
เรื่องการค้า อย่าได้หวัง นั่งตบยุง

มีไอ้บ้า สั่งฆ่าคน โดนฟ้องสาน
โทษประหาร สานไม่ฟ้อง กลัวของสูง
ปฏิวัติ กันทำไม (แค่)จับไม้พยุง
ป้ากับลุง ขุดหน่อไม้ ได้ตะราง

กะลาเอ๋ย กะลาแลนด์ แดนพิศวง
ยังเดินหลง เป็นวงกต หัวจดหาง
ประชาชน โดนโขกสับ ลับลวงพราง
วิถีทาง ประชาธิปไตย ไกลเหลือเกิน.....
    



Somsak Jeamteerasakul




Somsak Jeamteerasakul
อัพเดท หรือสรุปกรณีกวาด "ขอนแก่นโมเดล"
จากที่ได้ตามอ่านข่าวมาอีกวัน และโดยเฉพาะได้ฟังคลิปสัมภาษณ์คุณวิญญัติ ทนายผู้ต้องหา และฟังคลิปคุณ "แอนตี้" (รายการ "เช้าวั...นเสาร์ก้าวทัน...") เมื่อวานนี้ (หาลิงก์กันเองนะครับ)
ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นอย่างทีผมได้สันนิษฐานไว้ใน 2 กระทู้ก่อนหน้านี้ คือ
ตำรวจจับมั่ว จับแพะชนแกะ ว่าคนเหล่านั้นวางแผนจะบอมบ์งานไบ๊คฟอร์แด๊ด
แต่มันมี "ที่มา" ของความมั่วนี้ (ซึ่งนี่คือประเด็นที่ผมอยากฝากไปยังบรรดาคนที่เข้าร่วมกิจกรรมพวกนี้)
คือ คนที่ถูกจับเป็นคนที่ "อิน" กับพวกคลิปต่างๆ (นี่ผมเอาจากที่ทนายวิญญัติ พูดเองนะครับ คือเขาเล่าว่าคุณประทินผู้ต้องหาคนหนึ่งชอบดู ชอบฟังคลิปมาก แล้วก็ "จด" หรือบันทึกอะไรต่างๆที่ได้ยินได้ฟังนั้นไว้ และดูเหมือนคงอาจจะมีการแชร์หรือส่งถึงคนรู้จักอะไรบ้าง ตามกลุ่มไลน์ กลุ่มแช้ตน่ะ)
ทีนี้ ผมสันนิษฐานว่า ในบรรดาคลิปทั้งหลาย มันมีของคุณ "แอนตี้" ที่ชอบพูด "ทฤษฎี" ทีว่า เปรม-พระเทพ กำลังเตรียมจะ "เผด็จศึก" พระบรมฯ-ประยุทธ์ ด้วยการอาจจะวางระเบิดงานไบ๊คฟอร์แด๊ด (ทำนองการวางระเบิดพระพรหมราชประสงค์ ซึงคุณ "แอนตี้" ถือว่าเป็นพวกเดียวกัน) เป็นไปได้ว่า คุณประทินหรือคนอื่นๆ อาจจะ "อิน" หรือสนใจกับ "ทฤษฎี" นี้มากหน่อย มีการ "จด" บันทึกอะไรไว้มากหน่อย (คุณวิญญัติ ทนายไม่ได้ลงรายละเอียดนะว่า ผู้ต้องหา "จด" หรือบันทึกอะไรไว้บ้าง อันนี้ผมสันนิษฐานเอง)
ตำรวจซึ่งมอนิเตอร์กิจกรรมออนไลน์ของคนเหล่านี้อยู่แน่ๆ เห็นข้อความประเภทนี้ ก็เลยตื่นตระหนก สติแตก มั่วเอาว่า คนเหล่านี้กำลังพูดถึงแผนการที่่พวกเขาเองจะบอมบ์งานไบ๊คฟอร์แด๊ด
...........
"แอนตี้" ในคลิปล่าสุด อธิบายเรื่่องนี้ ดังนี้
- "แอนตี้" ยืนยันทฤษฎีของเขาที่ว่า เปรม-พระเทพ กำลังเตรียมเล่นงาน ประยุทธ์-พระบรม ด้วยการอาจจะถึงขั้นวางระเบิดงานไบ๊คฟอร์แด๊ด
- "แอนตี้" เลยมองว่า ที่มีการกวาดจับนี้ เพราะค่ายประยุทธ์ "โต้" กลับ (แผนวางระเบิดนั้น) แต่เนื่องจากไม่สามารถจับพวกเปรม-พระเทพ ได้ ก็เลย "หาแพะรับบาป" หันมาจับคนเสื้อแดงแทน
- "แอนตี้" บอกว่า ที่เขามีชื่อรวมอยู่ด้วย ก็เพราะเขาเป็นคนพูดถึงทฤษฎีเรื่องวางระเบิดงานไบ๊คฟอร์แด๊ด (อันนี้ ก็ตรงกับที่ผมสันนิษฐานว่า "ไอเดีย" หรือ "ข้อกล่าวหา" ครั้งนี้ ซึ่งมีลักษณะเฉพาะมาก - วางระเบิดไบ๊คฟอร์แด๊ด - มีต้นตอมาจากสิ่งที่ "แอนตี้" พูด
ในความเห็นผมนะ ถ้าข้อแรกสุด มันไม่เม้กเซ้นซ์ (เปรม-พระเทพ เตรียมวางระเบิดงานไบ๊คฟอร์แด๊ด) ข้อต่อมาที่ว่า ประยุทธ์กวาดครั้งนี้เพื่อตอบโต้แผนนั้น โดยหา "แพะรับบาป" อะไรก็ไม่เม้กเซ้นซ์ตามมาด้วย
สิ่งเดียวที่ "แอนตี้" พูดถูก (และตรงกับที่ผมคาด) คืองานนี้ที่มีชื่อเขาเกี่ยวข้องด้วย ก็เพราะเขาเป็นคนพูดเรื่องทฤษฎีนี้มากสุด (จริงๆ เท่าที่ผมตามฟังแทบทุกรายการ เขาเกือบเป็นคนเดียวที่ "ไปไกล" ขนาดนี้ ในบรรดาคนที่เชื่อในทฤษฎี "เปรม-พระเทพ" กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อโค่น "ประยุทธ์-พระบรม")
................
สรุปถ้าผมจะฝากอะไรให้คิดหรือเป็น "บทเรียน" นะ
- อย่า "อิน" กับพวกคลิปใต้ดินอะไรนั่นมากไป ตามฟังได้ ผมเองก็ตามฟังเยอะมาก โดยเฉพาะถ้าตามฟังแล้ว ไม่ได้มีกิจกรรมออนไลน์อื่นๆประกอบ (อยู่ในกลุ่มไลน์ กลุ่มแช็ต ทีเอาเรื่องที่มีในคลิปมาพูดกัน)
- กลุ่มไลน์ กลุ่มแช้ต หรือกลุ่ม "ใต้ดิน" อะไรทั้งหลายนั่นแหละ ที่ต้องระวังให้มาก ใครเป็นใครก็ไม่ได้รู้กัน โดยเฉพาะเวลาเอาข่าวลือ "ทฤษฎี" อะไรที่มันเว่อร์ๆแบบกรณีระเบิดไบ๊คฟอร์แด๊ด มาพูดๆกัน เรื่องแบบนี้ทางการเขาถือซีเรียสมากๆ
ส่วนที่ว่า ในแง่ "วิทยากร" รายการ "ใต้ดิน" เหล่านั้นเอง ควรมีความรับผิดชอบแค่ไหน ในการพูดโน่นพูดนี่ (ซึ่งแต่ไหนแต่ไร ผมก็เห็นว่าส่วนใหญ่เป็นการพูดเว่อร์ชนิดไม่ค่อยมีฐานทางข้อมูลหรือเหตุผลนัก) อันนี้ ปล่อยให้แต่ละคนไปคิดเอง พูดไปก็เท่านั้น มองไม่เห็นวี่แววว่า บรรดารายการเหล่านั้น จะ "ปฏิรูป" เปลี่ยนแปลงอะไรในอนาคตที่เห็น - คนฟัง ต้องระวังกันเอง มีสติกันเอง
 

ติดตามข่าว ก้าวทันสถานการณ์บ้านเมือง

matichononline
บทที่ "ปฏิเสธไม่ได้" โดย สุชาติ ศรีสุวรรณhttp://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1448788847

ฟังง่าย เข้าใจง่าย "อ.ชูพงษ์ " ตอบคำถามเปลี่ยนระบอบคืออะไร?

หลวงตาชูพงศ์ เปลี่ยนระบอบs foto.


อ.ชูพงศ์ 28-11-15
ของฝากวันอาทิตย์ ฟังง่าย เข้าใจง่าย
หลวงตา กับ อาจารย์ หวาน
คลิกฟัง-หลวงตาชูพงศ์ เปลี่ยนระบอบ

อ.ชูพงษ์ ตอบคำถามเปลี่ยนระบอบคืออะไร?
ระบอบที่ประชาชนต้องการอะไร?? คนไทยไม่จำเป็นต้องมีระบอบราชาธิปไตย…

จากคดีหมอหยอง ..ลามถึงคดี"ราชภักดิ์" จนถึงคดี"ขอนแก่นโมเดล". ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นในสังคมไทยคดีเช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งจากอดีตจนถึงปัจจุบันและจะเกิดขึ้นอีกต่อไปไม่มีวันจบสิ้นตราบใดที่ประเทศไทยมีการปกครองภายใต้การชี้นำของเครือข่าย"ระบอบภูมิพล."..

เรื่องเก่านำมาเล่าใหม่
" เหรียญมีสองด้านเสมอ "...อย่ามองด้านเดียว โปรดพลิกดูทั้งสองด้าน...ก่อนตัดสินอะไร...
-พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก.ระหว่างถูกคุมตัวสอบปากคำที่สน.เตาปูน: 
แยกขัง "พงศ์พัฒน์-บิ๊กตร." ค้นบ้านพบทรัพย์ซุกหมื่นล้าน เงินสด-พระพุทธรูป-พระเครื่อง-โฉนดที่ดินอื้อ !
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) รายงานข่าวแจ้งว่าการเข้าจับกุม พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ อดีตผบช.ก. ปฏิบัติราชการศปก.ตร. และพล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ รองผบช.ก.ปฏิบัติราชการศปก.ตร. พร้อมพวกครั้งนี้ได้มีการควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมด 8 คน โดยแยกควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจนครบาล 8 แห่ง และมีการควบคุมตัวเหมือนผู้ต้องหาทั่วไปในห้องควบคุมผู้ต้องหา
สำหรับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ถูกควบคุมตัวไว้ที่สน.เตาปูน ขณะที่พล.ต.ต.โกวิทย์ ถูกควบคุมตัวไว้ที่สน.พหลโยธิน ซึ่งในวันที่ 24 พ.ย. เวลา 08.00 น.จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 คน สอบปากคำที่ พล.1 ร.2 โดยแยกกันสอบปากคำ ก่อนที่จะแยกย้ายกันนำตัวไปควบคุมตามสถานีตำรวจต่างๆ สำหรับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ หลังสอบปากคำเสร็จ ได้ถูกตำรวจอรินทราชนำตัวมาที่สน.เตาปูน เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 23 พ.ย. โดยสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขายาวสีกากี แต่ไม่มีท่าทีเคร่งเครียดแต่อย่างใด
แหล่งข่าวระดับสูง กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทำการตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหาทั้ง 8 คน พบพยานหลักฐานมากมาย โดยเฉพาะในบ้านพักของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ พบเงินสดนับพันล้านบาท ทรัพย์สินอื่น อาทิ พระพุทธรูปบูชาหายาก กว่า 100 องค์ พระเครื่องชื่อดังจำนวนหลายพันองค์ โฉนดที่ดินจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบที่มาที่ไปของโฉนดที่ดินเหล่านี้ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดได้รวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท
................................................

ข้อมูลประกอบจากหลากหลายความคิดเห็น

-ที่แท้ไปฉีกหน้ากากเจ้าเข้าเลยเป็นเรื่อง. ใครรู้บ้างว่ามูลนิธิเทิดไท้องค์ราชันต์เป็นแหล่งต้มตุ๊นตบเงินเข้ากระเป๋าพวกเจ้านายๆ
ความลับแตก.. โพล๊ะๆๆ สาเหตุของการปลดพลตำรวจโทพงศพัฒน์ ฉายาพันธ์และพวกทั้งหมด เนื่องจากผู้บัญชาการพงศพัฒน์อยู่เบื้องหลังสั่งการนำกองปราบ-ทหาร รวบเลขาสำนักงานเทิดไท้องค์ราชันใต้ร่มพระบารมี ในข้อหาหมิ่นเบื้องสูง แอบอ้างบุคคลสำคัญไปหาผลประโยชน์ ส่วนทางด้าน ม.ร.ว.สมลาภ กิติยากร ประธานสำนักงานเทิดไท้องค์ราชันและมีตำแหน่งใหญ่เป็นราชเลขาในสมเด็จพระวรชา ยาธินัดดามาตุ(หม่อมโสม) ม.ร.ว.สมลาภ กิตติยากรโป้ยความผิดทั้งว่าตนเองไม่มีส่วนกับการที่บุคคลต่างๆที่อยู่ใน สำนักงานเทิดไท้องค์ราชัน ที่ม.ร.ว.สมลาภนั่งเป็นประธานสำนักงานอยู่ก็จริง และปฎิเสธไม่รู้ไม่เห็น ไม่เคยเกี่ยวข้องกับการเอาสถาบันของตนไปหลอกลวงต้มตุ๋นพ่อค้า ข้าราชการ ประชาชน หลังจากได้จับแพะในสำนักงานเอาสถาบันมาหาผลประโยชน์ได้ตัวหนึ่ง ม.ร.ว.สมลาภก็พ้นผิดไป แต่ไปเป่ายุยงให้เกิดเหตุภายในวังก็ลุกเป็นไฟแทน เนื่องจากพงศพัฒน์ก็มีศักดิ์เป็นน้าของพระวรราชาในสมเด็จพระบรม (หม่อมศรีรัศม์)และเป็นเจ้าตาของพระองค์ที และนามสกุล"กิตติยากร" ของม.ร.ว.สมลาภก็ ราชินิกุลไม่เคยมีนายตำรวจหน้าไหนกล้าแตะ แม้จะหาผลประโยชน์ที่ไหนต่อไหนมาทั่วไทย จึงเป็นที่มาของการฟาดฟันนายตำรวจใหญ่พงษพัฒน์ นับเป็นวิบากกรรม "ที่บังอาจไปแตะคนของใครเข้านั่นเอง"ทั้งหมด รู้แล้วเหยียบไว้นะ

คลิกดู  http://www.patrolnews.net/…/%e0%b8%81%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%…

-การติดเข็มกลัด ไม่ได้ แสดงว่าเป็นคนของใครนะครับ ลองไปถามชูวิทย์ดิ ว่า เขาอ้างถึงอะไร จะเข้าใจ ทำไมท่านโดน คดี 112 แถม ด้วย ส่วย น้ำมันภาคใต้อีก ชึ่ง จริงๆๆแล้วมี สส ที่ยิ่งใหญ่ ของภาคใต้ มีเอี่ยวด้วย แต่คงสอบไปไม่ถึงหรอก หรือถ้าถึงก็คง จับอีกเยอะ ก็เพราะ ท่านนี้ คุมตำรวจน้ำ การค้าน้ำมันเถื่อน ภาคใต้ เลยมีอย่างโจ่งแจ้ง แล้วเครือข่ายไหน คุมภาคใต้ ตม ตำรวจ น้ำ ท่านคุมหมด แล้วถ้า เป็นฝ่าย ปชต ทำไมสุเทพ เอาไปคุม ตม กับ ตำรวจน้ำละ จะบอกให้ว่า สายแดง โดนย้ายไปหมด ตั้งแต่ ปว แล้ว ตอนนี้ มีแต่พวกเขาที่นั้นตำแหน่ง สำคัญๆๆ เพราะ ฉะนั้นถ้าเขาจะมีปัญหา กันเอง ขอละ อย่าอวยเลย เพราะ ผมรู้ว่า ตำรวจกลุ่มนี้ สนิทกับ สส ปชป มันจะอ้วกที่เพจ แดง หลายเพจ รู้สึกสงสาร ตำรวจ สาย สุเทพ ถ้าเป็น พงค์พัฒน์ พงค์เจริญ จะไม่ว่าเลย
ผมงง มากที่มีการแชร์ รูปตำรวจ นายนี่ติดเข็มกลัด ก็เพราะ แบบนี้ไง เขาถึงโดน คดี 112 คือ แอบอ้าง รับส่วย อ้างเบื้อง สูง สั่ง ผมไม่อยาก ให้ขยายความ ให้ แต่ยืนยันได้ ว่า นายตำรวจคนนี้ คือ คนใกล้ชิดกับ พรรค ปชป และ สุเทพ ดันมาเองกับมือ คือ ใครที่โดน 112 เสื้อแดง มักจะคิดว่า ต้องเป็นพวกเดียวกัน โดนกลั้นแกล้ง แน่ๆๆ เชื่อผม หาข้อมูลก่อนเถอะครับ

-ผบช.ก พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ เป็นน้าชายแท้ๆ (น้องของแม่) ของพระองค์เจ้าศรีรัศม์ และเป็น ตาของพระองค์ที....
-นายตำรวจท่านนี้ได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2553 ในสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์นี่น่า ใช่ป่าว
-กองบัญชาการสืบสวนกลางคุมหลายหน่วยงาน มีทั้งกองปราบฯตำรวจน้ำ ทางหลวง หน่วยทำเงินทั้งนั้น และที่ผ่านมาผู้บัญชาการหน่วยนี้ใกล้ชิดพรรค ปชป ทั้งนั้นไปตรวจสอบได้ คิดเอา

ข่าว prachachat

prachachat

รู้ทันราชวงค์จักรี รัชกาลที่ ๕ กษัตริย์ผู้พัฒนาประเทศเพียงเพื่อค้ำบัลลังก์

ความเป็นมาของวงค์จักรี ตอนที่ ๖


พอถึงปี ๒๔๑๑ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์แชมป์ลูกดกอันดับที่ ๒ ของประเทศ ในรอบ ๒๐๐ ปี ก็สืบราชสมบัติเป็นรัชกาลที่ ๕ รัชกาลที่ ๕ เองเป็นกษัตริย์ขณะที่เยาว์วัยอยู่ อำนาจทั้งปวงจึงตกอยู่ในมือขุนนางเก่า ภายหลังจึงพยายามรวมศูนย์อำนาจมาไว้ที่ตนเอง ด้วยการดึงเอาอำนาจในการเก็บภาษีอากร มาไว้ที่หอรัษฎากรพิพัฒน์ซึ่งพระองค์เป็นผู้ควบคุมอยู่ นอกจากนี้ยังพยายามสร้างทางรถไฟ เพื่อให้สามารถส่งกองทัพไปควบคุมขุนนางตามข้างเมืองและรวบอำนาจในการเก็บภาษีอากรตามข้างเมืองมาไว้ในมือของตนเอง ก่อนนั้นขุนนางตามข้างเมืองส่งภาษีให้กษัตริย์ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ซึ่งกษัตริย์ก็มิรู้จะทำอย่างไร เพราะการคมนาคมไม่สะดวก แต่หลังจากที่จุลจอมเกล้าสร้างทางรถไฟและลิดรอนอำนาจของขุนนางเก่าแล้ว ก็มีภาษีอากรหลั่งไหลเข้าท้องพระคลังมากมายกว่าเดิม
นโยบายดังกล่าวถูกต่อต้านจากขุนนางเก่ามาก โดยเฉพาะพวกที่อยู่ในกรุงเทพฯ รวมทั้งกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ วังหน้าในสมัยนั้นด้วย เพราะก่อนหน้านั้นอำนาจในการเรียกเก็บภาษีอากร กระจายอยู่ตามกรมกองต่างๆ โดยขุนนางและพวกเจ้าที่คุมกรมกองเหล่านั้น จะส่งภาษีอากรให้กษัตริย์ในภายหลัง จึงมีโอกาสแบ่งปันภาษีอากรบางส่วนเป็นอาณาประโยชน์ส่วนตน ทำให้กษัตริย์สูญเสียผลประโยชน์ไปปีละไม่น้อย การที่รัชกาลที่ ๕ ให้หน่วยงานที่ตนกุมได้ เป็นผู้เก็บภาษี ทำให้พระองค์เป็นผู้เดียวที่ได้ประโยชน์จากภาษี ในขณะที่ผู้อื่นต่างสูญเสียผลประโยชน์
การเลิกทาสในปี ๒๔๑๗ และยกเลิกการเกณฑ์แรงงานไพร่ในปี ๒๔๒๑ ซึ่งพวกศักดินาทรงยกย่องว่าเป็นผลงานชิ้นสำคัญยิ่งในการปลดปล่อยปวงชนชาวไทย ด้วยพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น จนรวมหัวกันถวายพระนามว่า “พระปิยมหาราช” นั้น ความจริงพระองค์มิได้มีเจตนาเช่นนั้นเลย เป้าหมายสำคัญเป็นไปเพื่อลดการซ่องสุมไพร่พลของบรรดาขุนนางใหญ่ในกรุงและหัวเมือง โดยเฉพาะขุนนางตระกูลบุนนาค (สมเด็จเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์) เพราะเกรงว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยที่พวกขุนนางจะหนุนเจ้าศักดินาอื่นขึ้นเป็นกษัตริย์แทนพระองค์
ในช่วงนั้นทั้งเจ้าศักดินาและขุนนาง พากันไม่พอใจรัชกาลที่ ๕ อย่างมาก ที่ริดรอนอำนาจการปกครองและการเก็บภาษี ในที่สุดความขัดแย้งระหว่างพวกศักดินาก็ถึงจุดสูงสุด เมื่อรัชกาลที่ ๕ ลิดรอนอำนาจในการเก็บภาษีของวังหน้า และตัดทอนผลประโยชน์ที่วังหน้าเคยได้รับ พระองค์ก็ไม่ยอมส่งให้อีกต่อไป จนกระทั่งวังหน้าได้ยินข่าวลือว่าวังหลวงจะทำร้ายตน จึงหนีไปอยู่ใต้ร่มธงอังกฤษ โดยมีกงสุลนอกซ์เป็นผู้คุ้มครอง(๑)
การนิเอ กงสุลฝรั่งเศสขณะนั้น บันทึกว่า รัชกาลที่ ๕ ต้องการรวบอำนาจมาอยู่ในมือตัวเอง จึงวางแผนที่จะจับวังหน้า โดยแสร้งก่อไฟไหม้วังหลวง ซึ่งตามระเบียบแล้ววังหน้าต้องคุมทหารมาช่วยดับไฟจะได้หาว่าวังหน้าเป็นกบถ และยึดตัวไว้ให้สละตำแหน่ง ถ้าไม่ยอมจะสำเร็จโทษ แผนการที่ ๒ คือ พระองค์เตรียมให้เจ้าฟ้ามหามาลาไปบอกวังหน้าว่า วังหลวงจะไปเยี่ยม ให้วังหน้าขนทหารไปจากวัง แล้วพระองค์ก็จะนำทหารไปจับวังหน้า แต่ในที่สุดใช้วิธีแรก คือทำให้เกิดไฟไหม้ในวังหลวง แต่บังเอิญวังหน้าไม่ยอมไปช่วยดับไฟ เพราะเป็นรูมาติซั่ม รัชกาลที่ ๕ จึงถือโอกาสกล่าวหาว่าวังหน้า มีแผนการจะยึดวังหลวงและเอาปืนใหญ่หันไปทางวังหน้า โดยล้อมวังหน้าไว้ทุกด้าน ทางแม่น้ำก็มีเรือปืนเฝ้าไว้ ถึงกระนั้นวังหน้าก็ลงเรือหนีออกไปได้พร้อมกับครอบครัวในตอนกลางคืน(๒)
เมื่อรัชกาลที่ ๕ เห็นวังหน้าหนีไปอยู่กับอังกฤษ ก็ขอให้ข้าหลวงอังกฤษที่สิงคโปร์ไกล่เกลี่ยนโยบายที่เสี่ยงภัยของพวกศักดินา ในการชักเอาไทยต่างด้าวท้าวต่างแดนเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการแย่งผลประโยชน์ประดุจเด็กอมมือ ทำให้อธิปไตยของไทยแขวนอยู่บนเส้นด้าย ฝรั่งเศสและอังกฤษส่งเรือรบของตนเข้ามาที่กรุงเทพ อ้างว่าเพื่อรักษาผลประโยชน์ของพวกตน นอกจากนี้ถึงกับมีการพูดกันระหว่างกงสุลอังกฤษและฝรั่งเศสว่า ควรแก้ปัญหาด้วยการแบ่งไทยเป็นสามส่วน ให้รัชกาลวังหน้าและสมเด็จเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ ปกครองกันคนละส่วน(๓) อันจะเป็นผลให้อังกฤษและฝรั่งเศสสามารถแทรกแซงประเทศเราได้สะดวกยิ่งขึ้นในเวลาต่อไป แต่เป็นคราวเคราะห์ดีที่ผู้สำเร็จราชการอังกฤษที่สิงคโปร์ไม่เห็นด้วย เพราะคิดว่าถ้าทำเช่นนั้น ฝรั่งเศสจะได้ภาคตะวันออกของไทย ส่วนอังกฤษได้เพียงฝั่งตะวันตก ซึ่งทำเลค้าขายสู้อีกฝั่งหนึ่งไม่ได้ ซ้ำจะทำให้การค้าของอังกฤษซึ่งครอบงำไทยได้อยู่แล้วต้องเสียหายไปอีก(๔) จึงตกลงใจเข้าข้างรัชกาลที่ ๕ บีบบังคับให้วังหน้า ต้องออกจากกงสุลอังกฤษ กลับวังด้วยความคับแค้นใจ
นโยบายที่ละโมบของรัชกาลที่ ๕ ทำให้ส่วนพระองค์ได้รับรายได้จากภาษีอากรมากกว่าเดิมมากมาย ภาษีอากรที่ได้เพิ่มขึ้นนี้ถูกพระองค์นำไปใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ซึ่งหม่อมเจ้าจงจิตรถนอม ดิศกุลและหม่อมเจ้าหญิงพูนพิสมัย ดิศกุล เล่าว่า วังหลวงสมัยนั้นมีแต่ความฟุ่มเฟือย พวกเจ้ามีชีวิตที่เหลวไหล อยู่ท่ามกลางงานสังสรรค์ และการแต่งแฟนซี หม่อมเจ้าจงจิตรถนอม ดิศกุล เล่าว่า “...ในสมัยนั้นโปรดการแต่งแฟนซีมาก มักจะมีเสมอ เมื่อเลี้ยงที่สวนศิวาลัย...”(๕) หม่อมเจ้าพูนพิสมัย ดิศกุล ก็เล่าว่า “...มักจะมีงานสนุกๆเสมอ...”(๖) “...เจ้านายฝ่ายในทรงมีเวลาว่างมาก ก็เสด็จไปเยี่ยมเยียนกันตามตำหนัก บางทีก็เสวยด้วยกันบ้าง กระนั้นพอเย็นลง ทุกคนก็แต่งตัวสวยๆออกเดินกันเต็มถนนในวัง...”(๗)
โดยเฉพาะรัชกาลที่ ๕ นั้น “....คิดทำอะไรให้แปลกๆและสนุกอยู่เสมอ เช่น งานปีใหม่ งานขึ้นพระที่นั่ง ขึ้นพระตำหนัก แม้ต้นพะยอมที่ทรงปลูกออกดอก ก็จะมีการออกร้าน ของกิน เฉลิมฉลองกันอยู่ใต้ต้นพะยอมนั้น”(๘) ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก ที่จัดงานเลี้ยงพร่ำเพรื่อ ขนาดต้นพะยอมออกดอกก็เฉลิมฉลองกัน
หม่อมเจ้าหญิงพูนพิสมัย ดิศกุล เล่าต่อไปว่า “ข้าพเจ้าจำได้ชัดเจนดี การแต่งแฟนซีปีใหม่ มีเจ้านายทรงแต่งเป็นพระยาวอก องค์หนึ่งถึงวันพระยาระกาจะมา มีการเสด็จออกรับรองกันสนุก ทั้งสองฝ่ายตกแต่งเป็นไทยโบราณรับรองกัน สนุกทั้งสองฝ่าย มีบริวารตกแต่งเป็นไทยโบราณด้วยกันทั้ง ๒ ฝ่าย เดินกระบวนแห่ มาพบกันที่พระที่นั่งอัมพรสถาน” (๙)
น่าสังเกตว่าในรัชกาลนี้เองที่มีการสร้างปราสาทราชวัง เปลืองเงินทองของประเทศ เพื่อใช้ประดับเกียรติยศของกษัตริย์มากที่สุด พระที่นั่งจักรีแบบวิกตอเรียขนาดใหญ่ ยอดปราสาทไทยก็ดี พระที่นั่งอนันตสมาคมซึ่งเป็นหินอ่อนอิตาลีทั้งหลังก็ดี ล้วนสร้างขึ้นในรัชกาลนี้ทั้งสิ้น
ส่วนบุคคลอื่นที่ใกล้ชิดกับรัชกาลที่ ๕ นั้น ก็นำเอาภาษีอากรของประชาชนมาบำรุงบำเรอความสุขของตนเช่นกัน ดูพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ มเหสีของรัชกาลที่ ๕ เอาเถิด ซึ่งมิได้ทำคุณประโยชน์อันใดแก่แผ่นดินเลย กลับมีเงินทองใช้สอยสุรุ่ยสุร่าย บนความทุกข์ยากของประชาชนส่วนใหญ่ คุณอุทุมพร วีระไวทยะ (นางอมร คุรุณารักษ์ อ. สุนทรเวช) ข้าราชสำนักของพระศรีพัชรินทราฯ เล่าว่า ราชินีองค์นี้สนใจสะสมเครื่องเพชรและ “ลงโปรดแล้ว ก็ทรงศึกษาหาความรู้ พร้อมทั้งเต็มพระทัย จับจ่ายซื้อหาเท่าที่ทรงเห็นสมควร โดยไม่ลังเล” (๑๐) ฉะนั้นจึงเป็นที่เล่าลือทั่วไปว่า “ไม่เคยมีสมเด็จพระอัครมเหสี-เทวีพระองค์ไหน ในรัชกาลใดๆ แห่งราชวงศ์จักรี ทั้งในอดีตและปัจจุบัน จะได้ทรงเป็นเจ้าของเครื่องราชอาภรณ์ ที่เป็นเพชรนิลจินดาค่าควรเมืองที่งดงามหลากสี หลายตระกูล ขนาดต่างๆ นานาชนิดเหมือนกับของสมเด็จ จนอาจจะกล่าวได้ว่า กระบวนเครื่องอาภรณ์ เพชรพลอย ที่เป็นอัญมณีชั้นยอด เท่าที่จะมีอยู่ในประเทศแถบตะวันออกนี้แล้ว เป็นอันไม่มีของใครจะงดงามเท่า หรือ สะสมไว้มากเท่าเทียม แม้แต่ครึ่งหนึ่งของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถแห่งกรุงสยาม” (๑๑) เครื่องเพชรค่าควรเมืองชุดใหญ่เป็นพิเศษเหล่านี้ ประกอบด้วยชุดเพชรรูปกลมเม็ดใหญ่ ๒ ชุด ชุดเพชรรูปหยดน้ำ ชุดทับทิมล้อมเพชร มรกตล้อมเพชร นิลสีน้ำเงินแก่ล้อมเพชร กล่าวกันว่านิลเม็ดใหญ่เม็ดเดียวก็มีค่านับล้าน(๑๒) นอกจากนี้ยังมีไข่มุกตั้งแต่สั้นจนยาวถึงสะเอวไม่ต่ำกว่าพันเม็ดต่างสีและต่างขนาดกัน เม็ดที่มีค่ามากที่สุดนั้นสีเหลืองน้ำผึ้ง ซึ่งรัชกาลที่ ๕ ซื้อมาจากยุโรป ด้วยมูลค่าที่จุลจอมเกล้าเองก็ออกปากว่า “ราคาแพงเต็มที” (๑๓)
หลังปี ๒๔๗๕ ได้มีผู้พยายามนำเอาเครื่องเพชรเหล่านี้มาเก็บไว้เป็นของแผ่นดิน หรือทำให้กลายเป็นสมบัติของประชาชนทั้งชาติ แต่ถูกพวกศักดินาคัดค้านอย่างหนัก จนถึงรัชกาลที่ ๙ พวกศักดินาที่เป็นทายาทของสมเด็จพระศรีพัชรินทราฯ จึงได้รับการจัดสรรปันส่วนทรัพย์สมบัติเหล่านี้ไปจนหมดสิ้น(๑๔)
การที่บรรดาเจ้าจอมหม่อมห้ามของรัชกาลที่ ๕ ได้รับผลประโยชน์จากพระองค์แตกต่างกันไปตามความพอใจของพระองค์นั้นทำให้ หลานเจ้าจอมของพระองค์ทะเลาะเบาะแว้ง แบ่งแยกกันเป็นก๊กเป็นเหล่าเพราะต่างก็อิจฉาริษยา และแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันอย่างหนัก เช่น เจ้าจอมหม่อมห้ามที่ขึ้นอยู่กับพระศรีพัชรินทรฯ มีเจ้าจอมมรว.แป้น มาลากุล, เจ้าจอมมรว.แป้ม มาลากุล, เจ้าจอมมรว.แป้ง มาลากุล, เจ้าจอมเลื่อน, เจ้าจอมชุ่ม, เจ้าจอมแส, เจ้าจอมอ้นและเจ้าจอมศรีพรหมา ส่วนเจ้าจอมที่สังกัดกับเจ้าจอมมารดาแพพระสนมเอกมี เจ้าจอมก๊ก อ. ๕ คน พี่น้องตระกูลบุนนาค คือ เจ้าจอมอ่อน, เจ้าจอมเอี่ยม, เจ้าจอมเอิบ, เจ้าจอมอาบและเจ้าจอมเอื้อม สำหรับเจ้าจอมที่ขึ้นกับพระนางเจ้าสว่างวัฒนาบรมราชเทวีนั้นมี เจ้าจอมมรว.เนื่อง สนิทวงศ์, เจ้าจอมมรว.ข้อ สนิทวงศ์, เจ้าจอมพร้อมและเจ้าจอมเรียม เป็นต้น(๑๕)
การที่เจ้าจอมหม่อมห้ามทั้งหลายแตกเป็นก๊กเป็นเหล่าเช่นนี้ ทำให้แต่ละก๊กต่างก็วิวาทบาดหมางกัน ไม่ผิดพวก “ไพร่” ที่พวก “ผู้ดี” ทั้งหลายเหยียดหยามว่าต่ำทราม หมื่นพิทยาลาภเล่าไว้ในงานชื่อคุณท้าววรจันทร์ ในหนังสือชุมนุมพระนิพนธ์ของท่านว่า บางครั้งความกินแหนงแคลงใจระหว่างนางในราชสำนักก๊กต่างๆ ทำให้คู่ขัดแย้งแต่ละข้างถึงกับยกพวกเข้าตบตีกันเป็นโกลาหล โดยมิได้เกรงพระราชอาญา
ขณะที่รัชกาลที่ ๕ และเหล่าราชนิกุลเสพย์สุขอยู่ในวัง และทะเลาะเบาะแว้งไร้สาระนั้น ประชาชนส่วนใหญ่กลับมีสภาพยากจน อดมื้อกินมื้อ ต่างไปจากพวกผู้ดีอย่างฟ้ากับดิน
พระสุริยานุวัติ เล่าในหนังสือทรัพย์ศาสตร์ ให้เห็นถึงชีวิตของชาวไร่ชาวนา คนกว่า ๘๐-๙๐ เปอร์เซ็นต์ของประเทศในเวลานั้นว่า “ราษฎร์ที่ยากจนขัดสนด้วยทุน ต้องออกแรงทำงานแต่ลำพังด้วยความยากลำบากเพียงใด ย่อมจะเห็นปากฎอยู่ทั่วไปแล้ว ในเวลาที่ทำนาอยู่ เสบียงอาหารและผ้านุ่งห่มไม่พอ ก็ต้องซื้อเขาโดยเสียราคาแพง หรือถ้ากู้เขาไปซื้อก็ต้องเสียดอกเบี้ยอย่างแพงเหมือนกัน เมื่อเกี่ยวข้าวได้ผลแล้ว ไม่มีกำลังและพาหนะพอจะขนไปจากลานนวดข้าว หรือไม่มียุ้งฉางสำหรับเก็บข้าวไว้ขาย เมื่อเวลาข้าวในตลาดจะขึ้นราคา ก็จำเป็นต้องขายข้าวเสียแต่เมื่ออยู่ในลานนั้นเอา จะให้ราคาต่ำสักเท่าใด ก็จำใจขาย มิฉะนั้นจะไม่มีเงินใช้หนี้เขาทันตามกำหนดสัญญา ต้องเสียเปรียบเพราะมีทุนน้อยเช่นนี้.....แรงที่ได้ออกไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยและทรมานกาย อุตส่าห์ตากแดดฝนทนลำบากเป็นหนักหนานั้น ก็ไม่ทำให้เกิดเป็นผลทรัพย์ของตัวเองได้ เท่ากับออกแรงทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นฝ่ายเดียวเป็นแท้ ดูเป็นน่าสมเพชนัก....”
ในขณะที่ประชาชนทุกข์ยากถึงเพียงนี้ รัชกาลที่ ๕ กลับมิได้เหลียวแลเลย จนพระยาสุริยานุวัตรอดีตเสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ อดไม่ได้ที่จะวิจารณ์ว่า “พระเจ้าแผ่นดินไม่ต้องทำอะไร เพราะไม่มีความกังวลในศึกสงคราม ก็มีแต่จะแสวงหาความสุข แบ่งปันเอาเงิน ผลประโยชน์แผ่นดินไปใช้เป็นส่วนพระองค์...” (๑๖) ซ้ำยังวิจารณ์อีกว่า “....รายได้ของแผ่นดินต้องเสียไปสำหรับพระมหากษัตริย์มากมายดังกล่าวแล้ว รัฐบาลจะเอาเงินที่ไหนมาใช้บำรุงความเจริญของบ้านเมืองได้ตามความปรารถนาของราษฎร ขาดการศึกษา การอนามัย และขาดความสงเคราะห์ทุกอย่างแก่การกสิกรรม อุตสาหกรรม พานิชยกรรม เป็นต้น ถ้าท่านไม่เอาเงินแผ่นดินไปใช้เสียมากมายเช่นนั้น ฐานะของพลเมืองคงจะดีกว่าทุกวันนี้เป็นอันมาก....” (๑๗)
การที่พระยาสุริยานุวัตรว่ามานี้เป็นความจริงทุกประการ สมัยรัชกาลที่ ๕ นั้น ราชสำนักซึ่งประกอบด้วยกษัตริย์และเจ้าจอมหม่อมห้ามหยิบมือเดียว ได้รับงบประมาณถึง ๑/๗ ของรายจ่ายของรัฐ ในขณะที่ประชาชนหลายล้านต้องเสียภาษีอากร เป็นรายได้ทั้งหมดของแผ่นดิน แต่กลับได้รับการจัดสรรรายจ่ายของรัฐตามโครงการพัฒนาเศรษฐกิจ เช่น รถไฟ ถนน เขื่อน และการศึกษาเพียง ๑/๖ ของรายจ่ายแผ่นดิน ซึ่งมีจำนวนพอๆกับรายจ่ายสำหรับกษัตริย์เพียงคนเดียว(๑๘)
ภายใต้ภาวะเช่นนี้ ชาวไร่ ชาวนา คนส่วนใหญ่ของประเทศถูกศักดินาขูดรีดอย่างหนัก ชาวนาภาคกลางต้องเสียภาษีต่างๆ ดอกเบี้ยและค่าเช่า รวมกันถึง ๓/๕ ของผลผลิตทั้งหมด(๑๙) ซึ่งกษัตริย์เป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์ที่สุด เพราะเป็นผู้ที่ได้ประโยชน์จากภาษีอากรมากที่สุด นอกจากนี้ยังเป็นเจ้าที่ดินใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งขูดรีดเอาค่าเช่าจากชาวนาของเขาถึง ๕๐,๐๐๐ ไร่เป็นอย่างน้อย ส่วนชาวนาในภาคอื่นนั้น แม้ไม่เช่าที่ดินกันมาก แต่ก็ทำกินในที่ดินไม่อุดมสมบูรณ์ ได้ผลผลิตพอยังชีพเท่านั้น เพราะไม่มีชลประทาน โดยเฉพาะในปีที่มีภัยธรรมชาติ เช่น ฝนแล้ง ชาวนาจะมีข้าวไม่พอกิน จนต้องขายลูกเมียและตนเองลงเป็นทาส(๒๐) การเก็บเกี่ยวที่ไม่ได้ผลในบางปีทำให้คนถึงกับอดตาย เหตุการณ์ที่น่าเศร้านี้ส่วนมากเกิดขึ้นในภาคเหนือและอีสานซึ่งดินไม่อุดมสมบูรณ์(๒๑) ชาวนาอีสานต้องเร่ร่อนไปยังที่ต่างๆเพื่อหาอาหาร และบ่อยครั้งที่ต้องบริโภคกลอยแทนข้าว(๒๒) โดยไม่ได้รับการนำพาจากกษัตริย์เลย
ในปี ๒๔๓๓ และ ๒๔๕๒ ชาวนาที่ขัดสนถึงกับรวมตัวกันยื่นฎีกา ขอกู้เงินหลวงเพื่อนำไปซื้ออาหารรับประทาน แต่รัชกาลที่ ๕ กลับปฏิเสธ(๒๓) ทั้งที่รัชกาลที่ ๕ มักจะยอมปล่อยเงินกู้ให้แก่พ่อค้าจีน(๒๔) เพราะได้ดอกเบี้ยคุ้มเงินที่เสียไป
นี่แหละคือน้ำใจของผู้ที่เจ้าขุนมูลนายยกย่องว่าเป็น “ปิยมหาราช” แต่เดิมนั้นชาวนาไทยยังพออดทนอยู่ได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสภาวะกลับเลวร้ายลงทุกที เพราะราคาข้าวเริ่มตกต่ำลง นอกจากนี้การที่รัชกาลที่ ๕ ใช้เงินจำนวนมาก บำรุงบำเรอความสุขของตนเองและเจ้าจอมหม่อมห้าม อันไม่ก่อประโยชน์ให้แก่ประเทศเลย ได้ทำให้เศรษฐกิจโดยส่วนรวมเสื่อมทรามลงเรื่อยๆ ดังจะเห็นข้อเท็จจริงได้จากการวิจารณ์ของพระยาวิสุทธิ์สุริยศักดิ์ หลังจากที่รัชกาลที่ ๕ สวรรคตไปแล้วว่า “การค้าขายและการเพาะปลูกในเมืองไทยนั้น ตกต่ำ ทรุดโทรมมาแต่ปลายรัชกาลก่อนแล้ว(คือรัชกาลที่ ๕-ผู้เขียน) ราษฎรได้รับความคับแค้น อับจนต่างๆ
        
๑. ณัฐวุฒิ สุทธิสงคราม เรื่องเดิม หน้า ๔๘๖
๒. มล.มานิจ ชุมสาย ประวัติศาสตร์ญวน-ไทย ในเรื่องเขมร-ลาว (รวบรวมจากเอกสารกระทรวงต่างประเทศรัฐบาลฝรั่งเศส) พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพนางเจิม ชุมสาย ณ อยุธยา วันที่ ๑๘ เม.ย. ๒๕๒๒ หน้า ๖๓-๖๔
๓. ณัฐวุฒิ สุทธิสงคราม เรื่องเดิม หน้า ๖๓๔-๖๓๕
๔. เรื่องเดิม หน้า ๖๓๔-๖๓๕
๕. มจ.จงจิตรถนอม ดิศกุล “คำปรารภ” พระราชนิพนธ์และพระนิพนธ์ (เรื่องเดิม) หน้า ๗๖
๖. มจ.พูนพิสมัย ดิศกุล “ชิงนาง” พระราชนิพนธ์และพระนิพนธ์ (เรื่องเดิม) หน้า ๘๙
๗. มจ.พูนพิสมัย ดิศกุล “ความสนุกในพระบรมมหาราชวัง” พระราชนิพนธ์และพระนิพนธ์ (เรื่องเดิม) หน้า ๙๔
๘. เรื่องเดิม หน้า ๙๕
๙. เรื่องเดิม หน้า ๙๕
๑๐. อุทุมพร พระราชประวัติสมเด็จพระศรีพัชรินทราฯ เล่ม ๖ (คุรุสภา,๒๕๑๔) หน้า ๑๓๓
๑๑. เรื่องเดิม หน้า ๑๓๔
๑๒. เรื่องเดิม หน้า ๑๔๑-๑๔๙
๑๓. เรื่องเดิม หน้า ๑๔๐-๑๔๙
๑๔. เรื่องเดิม หน้า ๑๔๕
๑๕. อุทุมพร เรื่องเดิม หน้า ๔๘-๕๑
๑๖. พระยาสุริยานุวัตร เศรษฐวิทยา เล่ม ๓ (พิมพ์ที่ระลึกงานศพ นางกุณฑลี วรศะวิน ๒๕ พ.ค. ๒๕๑๙) หน้า ๒
๑๗. เรื่องเดิม หน้า ๒
๑๘. คำนวณจาก Statiscal year book of Kingdom of Siam.1916
๑๙. คำนวณโดย ฉัตรทิพย์ นาถสุภา และสุธี ประศาสน์เศรฐ “ระบบเศรษฐกิจไทย” ๑๘๕๑-๑๙๑๐ (สร้างสรรค์, ๒๕๒๔) หน้า ๑๕๑
๒๐. เอกสารในหอจดหมายเหตุแห่งชาติ (ต่อไปเรียกกจช.) เลขที่ กษ๓.๑/๑๒ พระยาวงศานุประพัทธิ์ ทูล ร.๕ วันที่ ๑๘ ส.ค. รศ.๑๒๘
๒๑. กจช.เอกสารสมัย ร.๕ เลขที่ ม๒.๒๕/๓ Mr.Henry M.Jones (of the British Legation) To Prince ๑๘๙๒ กจช.เอกสารรัชกาลที่ ๕ เลขที่ ม๒.๒๕/๓๙ กรมดำรง ทูล กรม สมมติ อมรพันธ์ ๒๕ ก.ย. รศ.๑๒๒
๒๒. กจช.เอกสารสมัย ร.๕ เลขที่ ม๒.๒๕/๓๖ และ ม๒.๒๕/๓๕ การโต้ตอบของกรมดำรง กรม สมมติ อมรพันธ์และกรมหมื่นปราจิณกิติบดี รศ.๑๒๒ และรศ.๑๒๖
๒๓. กจช.เอกสาร ร.๕ ก.ย. ๓.๑/๓ ฎีการาษฎร รศ.๑๐๙ และเอกสาร ร.๕ ก.ย. ๓.๑/๑๒ เจ้าพระยาวงศานุประพัทธิ์ ทูล ร.๕รศ.๑๒๘
๒๔. ดู สิริลักษณ์ ศักดิ์เกรียงไกร ต้นกำเนิดชนชั้นนายทุนในประเทศไทย (พ.ศ.๒๓๙๘-๒๔๕๓) (สร้างสรรค์, ๒๕๒๓) หน้า ๕๔
๒๕. กจช.เอกสาร รัชกาลที่ ๖ หมายเลข บ.๑๗/๑๑ พระยาวิสุทธิ์ สุริยศักดิ์ ทูล ร.๖ วันที่ ๔ มี.ค. รศ.๑๓๐

HOT "ขุมนรกแตก" ใบสั่งฆ่าตัดตอนจาก คดี"ราชภักดิ์" ถึง คดี"ขอนแก่นโมเดล" ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนนักดั่งไฟนรกที่ร้อนแรงลุกลามด้วย"ลมปาก"ขุดคุ้ยสาดใส่กันจนกลายเป็นชนวนลุกลามสายเกินกว่าจะดับลงได้.. ทำเพื่อใคร?.เรื่องนี้ใครได้ประโยชน์? ไม่ใช่่ประชาชนไทยและประเทศชาติอย่างแน่นอน โปรดมีสติใช้ปัญญาติดตามเสพข่าวสถานการณ์บ้านเมือง อ่านคิดพิจารณาไตร่ตรองดูให้ดีแล้วจะได้คำตอบว่า.พวกเครือข่ายราชสำนักกำลังระส่ำระสายใกล้ล่มสลาย ไร้หัวหน้า...จบ.

matichononline
กรณีราชภักดิ์: ดับไฟด้วย "ลม"


ลึกแต่ไม่ลับ: กรณีราชภักดิ์ จับตา "โรงหล่อ" ลุ้นระทึก


รุก ปม "ราชภักดิ์" รุก "ขอนแก่นโมเดล" เกม "ต่อรอง" การเมืองhttp://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1448773412

รุก ปม ′ราชภักดิ์′ รุก ′ขอนแก่นโมเดล′ เกม ′ต่อรอง′ การเมือง
07.30 index ขอนแก่นโมเดลภาค2 Plot หลวม ไม่สมจริง







ข่าว บีบีซีไทย - BBC Thai

บีบีซีไทย - BBC Thai
บีบีซีไทย - BBC Thais foto.
ตุรกีจะส่งคืนศพนักบินให้รัสเซีย
นายอาห์เหม็ด ดาวุทโอลู นายกรัฐมนตรีตุรกีระบุว่า ทางการได้รับศพ นาวาอากาศโท โอเลก เพชคอฟ นักบินรัสเซียที่เสียชีวิต หลังเครื่องบินถูกยิงตกใกล้แนวพรมแดนตุรกีด้านที่ติดกับซีเรียแล้ว โดยร่างของเขาได้รับการเก็บรักษาอย่างถูกต้องตามธรรมเนียมของศาสนาคริสต์นิกายกรีกออร์โธดอกซ์ และจะส่งคืนให้กับทางรัสเซียต่อไป
ด้านนายคอนสแตนติน มูรักห์ติน นักบินรัสเซียอีกรายที่รอดชีวิตจากเหตุเครื่องบินรบถูกตุรกียิงตก ระบุว่า ต้องการกลับไปปฏิบัติภารกิจในซีเรียต่อ และว่าจะ
...ต้องมีคนชดใช้ต่อการเสียชีวิตของเพื่อนนักบิน
เมื่อวานนี้ (28 พ.ย.) รัสเซียได้ประกาศชุดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อตุรกี เพื่อตอบโต้กรณีที่ตุรกียิงเครื่องบินรบรัสเซียแล้ว โดยประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้ลงนามในคำสั่งห้ามนำเข้าสินค้าจากตุรกี ระงับเที่ยวบินเช่าเหมาลำที่เดินทางไปมาระหว่างสองประเทศ ระงับการดำเนินกิจการของบริษัทตุรกีในรัสเซีย และไม่ให้พลเมืองตุรกีทำงานในบริษัทของรัสเซียด้วย
ทั้งนี้ รัสเซียและตุรกีมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดกันมาก โดยรัสเซียเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่อันดับสองของตุรกี และมีชาวตุรกีกว่า 90,000 รายทำงานอยู่ในรัสเซีย


บีบีซีไทย - BBC Thais foto.

ทนายความของผู้ต้องหากระทำผิด ม.112 ทั้งที่อยู่ในเรือนจำ แจ้งความเอาผิดพนักงานสอบสวนยกชุด
นางสาวเบญจรัตน์ มีเทียน ทนายความของนายธนกฤต ทองเงินเพิ่ม หนึ่งในผู้ต้องหาคดีขอนแก่นโมเดล ซึ่งต้องคดีทั้งที่ยังถูกคุมขังในเรือนจำ แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กองกับการ 3 กองปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับพล.ต.วิจารณ์ จดแตง คณะทำงานฝ่ายกฎหมาย คสช. พร้อมทั้ง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะพนักงานสอบสวนในคดีนี้ทั้งหมด โดยกล่าวหาว่าได้กระทำผิดตามประมวลกฏหมายอาญาหลายข้อห...า ทั้งละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และแจ้งความเท็จ
นางสาวเบญรัตน์กล่าวด้วยว่า คสช.และผู้เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบการกระทำทั้งหมดตามกฎหมาย เพราะเชื่อว่าเรือนจำขอนแก่นมีความเข้มงวดสูงเกี่ยวกับมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยให้ผู้ต้องหาออกมากระทำผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตามที่พนักงานสอบสวนได้มีการแถลงข่าว โดยในวันนี้ ตนได้นำหลักฐานจากเรือนจำจังหวัดขอนแก่น มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ด้วย
ทั้งนี้ นายธนกฤตยังอยู่ในเรือนจำขอนแก่นจากคดีความผิดเกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2557 และขณะนี้รับโทษในความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร ซึ่งอีก 6 เดือนจึงจะครบกำหนดโทษ

คลิก-Visa mer