fredag 21 augusti 2020

อนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ฯ เห็นชอบซื้อเรือดำน้ำจีนอีก 2 ลำ (?)

บีบีซีไทย - BBC Thai

3 tim

ด้าน ก.คลังเพิ่งแจงเหตุผลขอนุมัติกรอบวงเงินกู้ 2.14 แสนล้านบาท รองรับรายจ่ายรัฐบาลปี 2564 สูงกว่ารายได้

เรือดำน้ำจีน: คณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ฯ เห็นชอบซื้อเพิ่ม 2 ลำ วงเงิน 22,500 ล้านบาท

เรือดำน้ำเกรตวอลล์ 236 (Great Wall 236) ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน
คำบรรยายภาพ,

เรือดำน้ำเกรตวอลล์ 236 (Great Wall 236) ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (ไม่ใช่เรือดำน้ำที่ไทยซื้อ)

ที่ประชุมคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจและทุนหมุนเวียนของคณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณร่ายจ่ายประจำปี 2564 สภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (21 ส.ค.) ได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบงบประมาณของกองทัพเรือในรายการจัดซื้อเรือดำน้ำจำนวน 2 ลำ จากจีน วงเงิน 22,500 ล้านบาท หลังอนุกรรมาธิการออกเสียงเท่ากัน แต่ประธานคณะอนุกรรมาธิการจากพรรคพลังประชารัฐออกเสียงเห็นชอบ

การอนุมัติให้จัดซื้อเรือดำน้ำดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่รัฐบาลกำลังพยายามแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากผลกระทบของการระบาดของโรคโควิด-19 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพิ่งกล่าวเมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมาว่าไทยกำลังได้รับความเดือดร้อนแสนสาหัสจากการที่โลกเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจที่เลวร้ายกว่าครั้งไหน เพราะเศรษฐกิจไทยเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลกและคาดว่าจะต้องทนทุกข์กับวิกฤตนี้ไปจนถึงปลายปีหน้า

นอกจากนี้เมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) กระทรวงการคลังได้ออกมาชี้แจงความจำเป็นในการขออนุมัติกรอบการกู้เงินเพื่อรองรับกรณีรายจ่ายสูงกว่ารายได้ วงเงิน 214,093 ล้านบาท โดยการกู้เงินนี้มีเหตุผลมาจากการหดตัวของเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น และการดำเนินมาตรการด้านการคลังเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของโรคโควิด-19 และการเลื่อนระยะเวลาชำระภาษีซึ่งส่งผลต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล ในปี 2563 จึงจำเป็นต้องเตรียมการรองรับการใช้จ่ายของรัฐบาลในช่วงต้นปีงบประมาณปี 2564 และเพื่อให้การดำเนินมาตรการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง

เพื่อไทยยอมรับต้านเรือดำน้ำไม่อยู่

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และรองประธานคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ฯ กล่าวว่ากองทัพเรือให้เหตุผลที่ต้องจัดซื้อเรือดำน้ำเพิ่มอีกสองลำซึ่งจะใช้งบประมาณปี 2564 ว่าเพราะได้ลงนามความตกลงกับจีนไว้แล้วว่าจะต้องจัดซื้อจำนวน 3 ลำ โดยลำแรกได้จัดซื้อไปโดยใช้งบประมาณปี 2560 อย่างไรก็ดี ในความตกลงดังกล่าวไม่ได้กำหนดข้อผูกพันให้ต้องจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2 และ 3 แต่กองทัพเรือให้เหตุผลในเรื่องความมั่นคงทางทะเล แม้อนุกรรมาธิการฯ ได้คัดค้านโดยให้เหตุผลว่ารัฐบาลได้กู้เงินจนเต็มเพดานเงินกู้แล้ว และประเทศกำลังได้รับความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจ

คนใส่สูตนั่งแถลงข่าว
คำบรรยายภาพ,

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และรองประธานคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ฯ กล่าวว่ากองทัพเรือให้เหตุผลที่ต้องจัดซื้อเรือดำน้ำเพิ่มอีกสองลำซึ่งจะใช้งบประมาณปี 2564 ว่าเพราะได้ลงนามความตกลงกับจีนไว้แล้วว่าจะต้องจัดซื้อจำนวน 3 ลำ

นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่าในการลงมติ ตนและอนุกรรมาธิการซึ่งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อจากพรรคเสรีรวมไทย ส.ส.พรรคเพื่อไทย ส.ส.พรรคก้าวไกล รวม 4 คน ได้ลงมติคัดค้าน ขณะที่อนุกรรมาธิการอีก 4 คน ซึ่งเป็น ส.ส.จากพรรคภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ และพลังประชารัฐอีกสองคน ได้ลงมติอนุมัติ ซึ่งทำให้คะแนนเสียงเท่ากัน แต่เมื่อนายสุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ได้ออกเสียงเห็นชอบอีกหนึ่งเสียงจึงทำให้ผ่านการอนุมัติ

การจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีนเป็นประเด็นที่ก่อให้เกิดข้อถกเถียงและถูกวิพากษ์วิจารณ์ นับตั้งแต่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในการพิจารณาวาระลับตั้งแต่ปี 2560 ให้กองทัพเรือจัดหาเรือดำน้ำจำนวน 3 ลำจากจีน เป็นวงเงินรวมกว่า 36,000 ล้านบาท ในครั้งนั้นกองทัพเรือชี้แจงว่าสถานการณ์โลกมีความไม่แน่นอน ไทยจำเป็นต้องมีเรือดำน้ำเพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงและเพื่อให้ชาติอื่น "เกรงใจ"

ใครเห็นชอบ-คัดค้าน

นอกจากนายยุทธพงศ์ ผู้ที่ลงมติคัดค้านอีก 3 คนคือ นายเรวัต วิศรุตเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย และน.ส.วรรณวรี ตะล่อมสิน ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ส่วนผู้ที่ลงมติอนุมัติ ได้แก่ นายสุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ประธานอนุกรรมาธิการฯ นายชยุต ภุมมะกาญจนะ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคภูมิใจไทย นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ นายจีรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ และนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์

 

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar