"เรื่องที่หนูพูดเป็นเรื่องที่มีการพูดในคณะกรรมาธิการแล้ว เป็นเรื่องที่มีการบันทึกไว้แล้ว ไม่ได้ผิดกฎหมายอะไร...เราก็พูดอยู่ในขอบเขต เราเชื่อมั่นว่าเราสามารถแสดงออกได้อย่างเสรี" จุฑาทิพย์กล่าวกับบีบีซีไทย
ทีมงาน ส.ส. ก้าวไกลยอมรับส่ง "การ์ดอาสา" เข้าที่ชุมนุมสมุทรปราการ แต่ไม่ได้สั่งรวบตัว "จุฑาทิพย์"
ที่มาของภาพ, ธวัชชวิน โกพัฒน์ตา
นายวุฒินันท์ บุญชู ส.ส. พรรคก้าวไกล ประกาศปลดนายธวัชชวิน โกพัฒน์ตา ออกจากการเป็นผู้ชำนาญการประจำตัว หลังเกิดเหตุการ์ดอาสาสมัครเข้ารวบตัว น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ ประธานสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) บนเวทีปราศรัยที่ จ.สมุทรปราการเมื่อวานนี้ (21 ส.ค.)
ขณะที่นายธวัชชวินประกาศยุติบทบาททางการเมืองกับพรรคก้าวไกลเช่นกัน
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงค่ำวานนี้เมื่อมีชายเสื้อดำ 3 คนขึ้นไปบนเวทีปราศรัยในที่ชุมนุมของสมัชชาแรงงานแห่งชาติสนับสนุนคณะประชาชนปลดแอกและพยายามรวบตัว น.ส.จุฑาทิพย์ในขณะที่กำลังกำลังปราศรัยในประเด็น งบประมาณส่วนราชการในพระองค์ ก่อนที่ชายชุดดำจะโดนผู้ชุมนุมโห่ไล่และเข้าขัดขวางจนยอมล่าถอยไป
วันนี้ (22 ส.ค.) นายธวัชชวินซึ่งเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ และปัจจุบันเป็นผู้ชำนาญการประจำตัวนายวุฒินันท์ บุญชู ส.ส. พรรคก้าวไกล สมุทรปราการเขต 4 ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเขาเป็นผู้อนุญาตให้กลุ่ม "การ์ดอาสา" ดังกล่าวเข้ามาสังเกตการณ์ชุมนุมและยับยั้งผู้ที่พาดพิงสถาบันฯ
ต่อมานายวุฒินันท์ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อชี้แจงจุดยืนของพรรคและประกาศปลดนายธวัชชวินโดยมีเนื้อหาดังนี้
"สืบเนื่องจากกรณีการกระทำที่ไม่เหมาะสมของนายธวัชชวิน โกพัฒน์ตา ในกิจกรรมของกลุ่มแรงงานปฏิวัติเมื่อวานนี้ ผม-วุฒินันท์ บุญชู ส.ส. พรรคก้าวไกล สมุทรปราการเขต 4-ขอปลดนายธวัชชวิน อดีตผู้สมัคร สส ในสมุทรปราการ จากการเป็นผู้ชำนาญการประจำตัวผม นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป"
"ผมและพรรคก้าวไกลยืนยันว่าการเคารพและปกป้องสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นของประชาชนเป็นหลักการที่สำคัญยิ่ง ผมน้อมขอโทษต่อคุณจุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ และพี่น้องผู้ใช้แรงงานทุกคนจากเหตุการณ์เมื่อวานครับ"
นายธวัชชวินชี้แจงเรื่องนี้ให้บีบีซีไทยฟังว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะการประสานงานไม่ดีพอ
ที่มาของภาพ, Paris Jitpentom/BBC Thai
นายธวัชชวินระบุว่าเขาได้รับการติดต่อจาก พ.ต.อ. อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผู้กำกับการ สภ.สำโรงเหนือเช้าวานนี้ว่าจะส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแลความเรียบร้อยในที่ชุมนุม และสอบถามว่าจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปอยู่ตรงจุดไหน
"ทางท่านผู้กำกับฯ เข้าใจว่าผมเป็นผู้จัดงาน ก็เลยติดต่อมาทางผม เขาติดต่อมาประสานงานการเข้ามาดูแลความเรียบร้อยในที่ชุมนุม ทางทีมงานก็เลยเข้าไปอำนวยความสะดวก และด้วยความที่ผมมีคิวต้องไปขึ้นพูดด้วย ก็เลยต้องไป ทางกลุ่มแรงงานขอให้ขึ้นพูดด้วย" นายธวัชชวินกล่าว
"ท่านผู้กำกับ สภ. สำโรงเหนือติดต่อเข้ามาขอคุยในเรื่องของประเด็นที่จะขึ้นพูด เลยถามท่านว่าจะจัดได้ไหม ท่านเลยบอกว่าได้ ผมเกรงว่าการขึ้นปราศัยจะกระทบกับพรรคก้าวไกล เลยถามท่านว่าสถานที่นั้นจัดได้ไหม ท่านบอกว่าจัดได้ ไม่มีปัญหา แต่ขอให้อย่าพูดเรื่องสถาบันกษัตริย์"
นายธวัชชวินบอกกับบีบีซีไทยว่าเขาได้พูดคุยคุยกับทางผู้จัดแล้วและได้รับแจ้งมาว่าจะไม่มีการพูดเรื่องเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ ก็เลยไม่ได้สงสัยอะไรและคิดว่าหัวข้อนี้จะไม่มีการถูกหยิบยกขึ้นมาพูด
"เข้าใจว่าอาจจะไปเปลี่ยนแนวทาง ทีหลัง แต่ไม่ทราบรายละเอียดเพราะไม่ได้เป็นผู้จัด ผมเป็นตัวกลางเฉย ๆ ไม่ได้เป็นคนนำตำรวจมา" นายธวัชชวินอธิบาย
"การ์ดอาสา"ด้อยประสบการณ์
นายธวัชขัยกล่าวต่อว่า ก่อนการชุมนุมจะเริ่มต้นขึ้น เขาได้รับการติดต่อจากคนรู้จักที่ทำบริษัทรักษาความปลอดภัยอยู่ และเสนอว่าจะส่ง "การ์ดอาสา" มาช่วยดูแลในพื้นที่ชุมนุม 6 คน โดยไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ
หลังจากนั้น นายธวัชชวินจึงหารือกับผู้กำกับการ สภ. สำโรงเหนือว่าถ้านำเจ้าหน้าที่ตำรวจมาในพื้นที่จะเป็นภาพที่ไม่ดีต่อผู้ชุมนุม เลยขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบอยู่ห่างจากผู้ชุมนุม ส่วนทางผู้กำกับกับและรองผู้กำกับที่แต่งกายนอกเครื่องแบบขอให้สังเกตการณ์อยู่ด้านหลังผู้ชุมนุม
ที่มาของภาพ, Wasawat Lukharang/BBC Thai
แกนนำและผู้ร่วมชุมนุมของกลุ่ม "เยาวชนปลดแอก" ที่มีรายงานว่าถูกดำเนินคดีจากการจัดการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 ก.ค. ขึ้นมาแสดงตัวบนเวทีการชุมนุมของคณะประชาชนปลดแอกเมื่อวันที่ 16 ส.ค. ก่อนที่บางส่วนจะเดินไป สน.สำราญราษฎร์ เพื่อขอความชัดเจนเกี่ยวกับการดำเนินคดีพวกตน
"มีน้องการ์ดอาสาเข้ามาช่วย ก็เลยขอให้ช่วยจับตามองผู้ที่จะแอบแฝงเข้ามาก่อนก่วนในการชุมนุม เช่นการนำป้ายที่เกี่ยวกับสถาบันฯ เข้ามาเพื่อทำลายเครดิตของการชุมนุม และในส่วนของคนที่พูดถึงสถาบันฯเยอะ ๆ" นายธวัชชวินอธิบาย
"ด้วยความที่การ์ดไม่มีประสบการณ์ทำงานร่วมกับการชุมนุมมาก่อนเลย ก็เลยมีภาพการเข้าชาร์จที่เห็นในสื่อ ทำให้ดูแย่และเหมือนเป็นการคุกคาม"
เขากล่าวว่าสาเหตุที่กลุ่มการ์ดขึ้นไปแย่งไมโครโฟนจาก น.ส.จุฑาทิพย์บนเวทีเพราะได้ยินผู้ปราศรัยพูดจาเกี่ยวกับสถาบันฯ โดยที่การ์ดเหล่านั้นไม่มีความรู้ว่าผู้ปราศรัยกำลังพูดถึงงบประมาณส่วนราชการในพระองค์
เขากล่าวว่าการ์ดไม่ได้ผลักหรือคุกคามผู้ปราศรัย "แต่ภาพที่เกิดขึ้นเหมือนเป็นการรุม ยืนยันว่าไม่ได้สั่ง แต่การ์ดขึ้นไปเองเลยโดยไม่ได้มีการถาม"
หลังจากที่เกิดเหตุชุลมุนไปเมื่อวาน นายวุฒินันท์ บุญชู ส.ส. พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวประกาศปลดนายธวัชชวินออกจากการเป็นผู้ชำนาญการประจำตัว
ขณะที่นายธวัชชวินก็ประกาศยุติบทบาทเช่นกัน
"ด้วยความที่มันไม่เกี่ยวกับพรรค ตัวผมเองแสดงความรับผิดชอบจากการกระทำพลการของตัวเอง" นายธวัชชวินกล่าว
จุฑาทิพย์ยืนยันพูดในขอบเขตกฎหมาย
จุฑาทิพย์เล่าเหตุการณ์ให้บีบีซีไทยฟังว่าเมื่อวานมีผู้ปราศรัยหลายคน และเธอขึ้นพูดเป็นคนที่ 4 หลังปราศรัยไปได้ประมาณ 5 นาที เธอเริ่มพูดเรื่องเกี่ยวกับ ชนชั้น ศักดินาและนายทุน
"พอปราศรัยไปเรื่องงบประมาณของสถาบันฯ ก็มีการ์ดไม่รู้ว่าเป็นใครมาแย่งไมค์ออกไป ซึ่งเนื้อหากำลังพูดถึงเรื่องการเปรียบเทียบงบประมาณของสถาบันกับเรื่องการนำงบมาสร้างรัฐสวัสดิการ" เธอกล่าวกับบีบีซีไทยวันนี้
"เรื่องที่หนูพูดเป็นเรื่องที่มีการพูดในคณะกรรมาธิการ (ของสภาผู้แทนฯ) แล้ว เป็นเรื่องที่มีการบันทึกไว้แล้ว ไม่ได้ผิดกฎหมายอะไร ทางผู้ติดต่อมาให้พูดเรื่องชนชั้น การกดขี่ เราก็พูดอยู่ในขอบเขต เราเชื่อมั่นว่าเราสามารถแสดงออกได้อย่างเสรี"
จุฑาทิพย์บอกว่าเธอระวังตัวทุกครั้งที่มีขึ้นปราศรัย แต่ครั้งนี้ถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัยและยืนยันว่าจะคงยังเดินหน้าต่อไป
ที่มาของภาพ, PAris Jitpentom/BBC Thai
จุฑาทิพย์พบว่าเธอมีนามสกุลเดียวกับ "เตียง ศิริขันธ์" นักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ถูกฆาตกรรมตอนที่อ่านหนังสือเรื่อง "ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน"
แถลงการณ์จากผู้จัด
เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (22 ส.ค.) กลุ่มแรงงานปฏิวัติได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับกรณีความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจากงานชุมนุมของสมัชชาแรงงานแห่งชาติเมื่อวาน
ในแถลงการณ์ได้อธิบายถึงกลุ่มบุคคลนิรนามที่ขึ้นมาบนเวทีปราศรัยของสมัชชาแรงงานแห่งชาติและได้พยายามใช้ความรุนแรงต่อ น.ส. จุฑาทิพย์ ขณะกำลังปราศัยเกี่ยวกับ "ความเหลือมล้ำของงบประมาณที่สถาบันกษัตริย์ใช้ กับสภาพเศรษฐกิจของประเทศไทย" ก่อนที่ผู้ร่วมฟังปราศัยจะขับไล่บุคคลผู้นั้น ออกจากที่ชุมนุม
ต่อมาได้สืบทราบว่า มีอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เขต 6 ได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ในการให้การ์ดเข้ามาดูแลพื้นที่ ไม่ให้มีการชูป้ายหรือปราศัยเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์ ซึ่งการกระทำเช่นนี้เป็นการกระทำโดยพลการ ไม่ได้รับความเห็นชอบจากผู้จัดงานแต่อย่างใด และผิดวัตถุประสงค์ของการจัดงาน
ที่มาของภาพ, แรงงานปฏิวัติ
ทางบีบีซีไทยได้ติดต่อกลุ่มแรงงานปฏิวัติเพื่อขอรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยตัวแทนของกลุ่มคนหนึ่งที่ไม่ประสงค์จะออกนามอธิบายว่านายธวัชชวินไม่ใช่ผู้จัดงานและไม่ได้ประสานกับกลุ่มให้รับทราบว่าจะมีการนำการ์ดอาสาเข้ามาในพื้นที่ด้วย
"พวกเราไม่แน่ใจว่าทางคุณธวัชชวินเข้ามาทำอะไรเพราะทางกลุ่มไม่ได้เชิญเขาไป" ตัวแทนกลุ่มกล่าว "รายชื่อคนขึ้นปราศัยมีการปรับบ่อยจริง แต่ผมยืนยันว่าเราไม่ได้เชิญเขามาเป็นผู้ปราศัย"
สภ. สำโรงเหนือชี้แจง
พ.ต.อ. อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก. สภ.สำโรงเหนือกล่าวกับบีบีซีไทยว่าได้ทำการแจ้งกับผู้จัดงานไปแล้วว่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลความเรียบร้อยพร้อมแจ้งข้อตกลงว่าการปราศรัยจะต้องไม่มีเนื้อหาที่ล่อแหลมที่เกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์แต่ผู้ชุมนุมไม่ได้ปฏิตามข้อตกลง
"ชายชุดดำที่ขึ้นไปบนเวทีไม่ใช่คนของตำรวจ เรื่องนี้คนที่เกี่ยวข้องได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบแล้ว เราไปที่นั่นมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยเท่านั้น" พ.ต.อ. อาทิตย์
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม บอกกับบีบีซีไทยว่ายังไม่ทราบเรื่องจากกรณีดังกล่าว และยืนยันว่าทางกระทรวงกลาโหมไม่ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปที่การชุมนุมของสมัชชาแรงงานแห่งชาติสนุบสนุนคณะประชาชนปลดแอกแต่อย่างใด
"ถ้าสิ่งที่ทำถือว่าถูกกฎหมายก็ว่ากันไป แต่อะไรที่ทำแล้วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่ของภาครัฐก็ต้องเข้าไปดำเนินการ ถ้าไม่ทำก็ถือว่าละเลยต่อหน้าที่" พล.ท.คงชีพ กล่าว
"แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ผมยังไม่ได้ข่าวเลย ยังไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นและไม่ได้สั่งให้ใครไปดำเนินการอะไร"
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar