torsdag 20 augusti 2020

ภาพบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มขอนแก่นพอกันที "จัดม็อบไล่ แม่งเลย" บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

จักรภพ เพ็ญแข - Jakrapob Penkair

เมื่อบ้านเมืองมืดมิดจิตก็ดับ20
ตะวันลับปฐพีไม่มีแสง
แต่ยิ่งสวนมวลชนคนยิ่งแรง
แม้กำแพงพังได้ดั่งใจจง.

"กาหลิบ"
20 สิงหาคม พ.ศ. 2563

ใช้นกหวีดกรีดสมองประลองยุทธ์
ให้สิ้นสุดกันเสียทีพวกผีสาง
ทำอวดอ้างวางก้ามมาตามทาง
ฝากน้องล้างกรรมชั่วเลิกมั่วเอย.

"กาหลิบ"
19 ส.ค. 63

ประชาไท Prachatai.com

2 tim

ภาพบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มขอนแก่นพอกันที "จัดม็อบไล่ แม่งเลย" บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยจังหวัดขอนแก่น โดยมีผู้ชุมนุมทั้ง นักเรียนมัธยม นักศึกษา และประชาชนเข้าร่วมการชุมนุมไม่ต่ำกว่าพันคน ทั้งนี้ภายในงานได้มีการตั้งโต๊ะร่วมเข้าเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญของ iLaw ด้วย

(20 ส.ค. 2563)

Bilden kan innehålla: 1 person, folkmassa, natt och utomhus
Bilden kan innehålla: en eller flera personer, folkmassa och utomhus

ประชาไทพูดคุยกับครูปราศรัย เจตสันติ์ โรงเรียนบางปะกอกวิทยาคม อดีตนิสิตคณะครุศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถึงปรากฎการณ์ดังกล่าวว่าเกิดขึ้นภายใต้เหตุปัจจัยใด รวมไปถึงบทบาทหน้าที่ของคนเป็น "ครู" ต่อสถานการณ์ที่อยู่เบื้องหน้านี้

https://prachatai.com/journal/2020/08/89112

คุยกับครูรุ่นใหม่: เกิดอะไรขึ้นกับ 'เยาวชนขาสั้น-คอซอง' เมื่อพวกเขาผูกโบว์ขาว-ชูสามนิ้ว

การชุมนุมของกลุ่มประชาชนปลดแอกเมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2563 เรียกได้ว่าเป็นปรากฎการณ์น่าตกใจพอสมควรที่ผู้คนเรือนหมื่นออกมาแสดงจุดยืนของตัวเองบนถนนราชดำเนิน แน่นอนนี่เป็นการชุมนุมที่มีคนเข้าร่วมมากที่สุดหลังจากการรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อปี 2557 แต่ยังไม่ทันได้พักหายใจ ในเช้าวัดถัดมา สัญลักษณ์แห่งการต่อต้านรัฐบาลเผด็จการที่ถูกใช้มาตั้งแต่การต่อต้านรัฐประหารปี 2557 ก็ถูกหยิบไปใช้ในรั้วโรงเรียนมัธยมหลายแห่งทั่วประเทศ เยาวชนขาสั้น คอซอง หลายพื้นที่พร้อมใจกันชูสามนิ้วตอนเรียกรวมแถวร้องเพลงชาติไทย ขณะที่โบว์สีขาวถูกนำไปติดเป็นสัญลักษณ์ของการแสดงจุดยืนสนับสนุนข้อเรียกเรียกของกลุ่มประชาชนปลดแอกในหมู่นักเรียนมัธยมด้วยเช่นกัน

ในวันแรกที่นักเรียนมัธยมเริ่มเคลื่อนไหว ก็เกิดแรงต้านภายในโรงเรียนขึ้นทันที บรรดาครูจำนวนหนึ่งได้เข้าไปห้ามปรามการแสดงออกของพวกเขา แต่แทนที่จะทำให้การแสดงออกยุติลง กลับกลายเป็นการขยายแนวร่วมออกไปให้กว้างขึ้นในวันต่อมา

หลายคนมองว่า นี่คือการเคลื่อนไหวอันบริสุทธิ์และเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีอีกหลายคนยังเชื่อว่า พวกเขาคิดเองไม่เป็น และมีนักการเมืองชักใยอยู่เบื้องหลัก ไม่ว่าจะมองในทางไหนก็ตามคำถามหลักที่เกิดขึ้นสำหรับทุกฝ่ายในเวลานี้คงหนีไม่พ้นคำถามเดียวกันคือ เกิดอะไรขึ้นกับนักเรียนมัธยมกันแน่


Inga kommentarer:

Skicka en kommentar