fredag 11 september 2020

นายแก้วสรร อติโพธิ สวมบท "ผู้พิทักษ์ธรรมศาสตร์" ??? ( ที่อดีตเคยขึ้นเวที กปปส. เป็นอดีตอาจารย์สอนคณะนิติศาสตร์ และรองอธิการบดี มธ.)

ชุมนุม 19 กันยา : แก้วสรร อติโพธิ หนุนอธิการบดี งดใช้ธรรมศาสตร์เป็น “ฐานทัพละเมิดรัฐธรรมนูญ-ซ่องสุมม็อบ”

  • หทัยกาญจน์ ตรีสุวรรณ
  • ผู้สื่อข่าวบีบีซีไทย
นายแก้วสรร อติโพธิ
คำบรรยายภาพ,

นายแก้วสรร อติโพธิ สวมบท "ผู้พิทักษ์ธรรมศาสตร์" จากกลุ่มคนที่เขามองว่าเป็น "เผด็จการ"

ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กลุ่มหนึ่งประกาศจุดยืนสนับสนุนผู้บริหารมหาวิทยาลัย ให้ปฏิเสธการใช้พื้นที่ มธ. ท่าพระจันทร์ จัดชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย. โดยให้เหตุผลว่า "ไม่ต้องการให้ใช้มหาวิทยาลัยเป็นที่ซ่องสุม แล้วเทม็อบใส่ทำเนียบฯ"

วงหารือของศิษย์เก่า มธ. ราว 30 คน เกิดขึ้นที่ห้องประชุมคณะศิลปศาสตร์ มธ. ในเวลาไม่ถึง 4 ชั่วโมง หลังจากแกนนำนักศึกษาในนามกลุ่ม "แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม" เปิดแถลงข่าวยืนยันว่าจะใช้ มธ. ท่าพระจันทร์ เป็นสถานที่จัดการชุมนุม พร้อมเปิดปราศรัยเกี่ยวกับการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์

นายแก้วสรร อติโพธิ ศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์ รุ่นปี 2512 กล่าวว่า การออกมาเคลื่อนไหวของศิษย์เก่า มธ. ครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับว่าประเด็นการพูดถึงหรือไม่พูดถึงการปฏิรูปสถาบันฯ และไม่เกี่ยวกับการรักหรือไม่รัก พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แต่เป็นเพราะไม่เห็นด้วยกับสิทธิการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

"ในฐานะที่เราเป็นชาวธรรมศาสตร์ เราไม่ต้องการเห็นธรรมศาสตร์เป็นฐานทัพของการละเมิดรัฐธรรมนูญ และทำให้บ้านเมืองฉิบหาย" นายแก้วสรรอธิบายที่มาที่ไปที่ทำให้ศิษย์เก่า มธ. ราว 30 คนมารวมตัวกันในวันนี้ (11 ก.ย.)

นายแก้วสรรเป็นอดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ที่ถูกตั้งขึ้นมาโดยคณะรัฐประหารปี 2549 เพื่อตรวจสอบคดีทุจริตในรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร

มาวันนี้เขาสวมบท "ผู้พิทักษ์ธรรมศาสตร์" จากกลุ่มคนที่เขามองว่าเป็น "เผด็จการ" ซึ่งไม่จำเป็นว่าต้องมาในรูปทหารเท่านั้น แต่สามารถมาในรูปนายกฯ เลือกตั้ง และในรูปม็อบก็ได้ด้วย หากไม่ยอมรับสิทธิของคนอื่น และไม่รู้จักสถาบัน เห็นว่าจะทำอะไรก็ได้ โดยลืมคำว่าส่วนรวมไป

"เพนกวิน (นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม) และน้อง ๆ กำลังใช้สิทธิเกินส่วน คุณเป็นเผด็จการ เราไม่ยอมรับ" ศิษย์เก่าธรรมศาสตร์วัย 69 ปีกล่าว

ศิษย์เก่า มธ. ยกมือนัสบสนุนเนื้อหาในจดหมายเปิดผนึกที่นายแก้วสรรกับพวก ยกร่างมา
คำบรรยายภาพ,

ศิษย์เก่า มธ. ยกมือนัสบสนุนเนื้อหาในจดหมายเปิดผนึกที่นายแก้วสรรกับพวก ยกร่างมา และยังเปิดให้ลงชื่อสนับสนุนผ่านแอปพลิเคชันไลน์

ก่อนปิดห้องพูดคุยกับบรรดาพี่ เพื่อน น้องร่วมสถาบัน นายแก้วสรร ผู้เคยเป็นอดีตอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ และรองอธิการบดี มธ. ได้แวะไปพบปะ รศ. เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดี มธ. เพื่อกำหนดวันนัดหมายเข้ายื่นหนังสือเปิดผนึกถึงผู้บริหารมหาวิทยาลัย ขอให้ระงับการใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยเพื่อการชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย.

"อธิการบดีนั่งอยู่คนเดียว ดูกลัดกลุ้มมาก แต่พอได้คุยกัน สุ้มเสียงเขาก็ดูมีกำลังใจขึ้น ดังนั้นเราต้องการบอกเขาว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียว จึงเชิญอธิการบดีให้มารับกำลังใจในวันที่ 16 ก.ย. นี้ ในฐานะคนที่ยืนอยู่เพื่อส่วนรวม" นายแก้วสรรเล่าให้ศิษย์เก่า มธ. ฟัง

วานนี้ (10 ก.ย.) มธ. ได้เผยแพร่เอกสารระบุว่าทางมหาวิทยาลัยไม่อนุญาตให้กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ ใช้พื้นที่ มธ. ท่าพระจันทร์ จัดกิจกรรม โดยให้เหตุผลว่า "หนังสือที่ขออนุญาตไม่ตรงกับเงื่อนไขให้จัดการชุมนุมได้"

นายแก้วสรรได้ขอฉันทามติจากที่ประชุม ต่อร่างหนังสือเปิดผนึกที่ใช้ชื่อว่า "ปิด...มธ. พอกันทีวีรชน"ที่จะยื่นต่อ รศ. เกศินี และ ศ.พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร นายกสภามหาวิทยาลัย ในสัปดาห์หน้า พร้อมชี้แจงแสดงเหตุผลไว้ ดังนี้

1. เป้าประสงค์ของการชุมนุม ผู้จัดระบุว่าจะชุมนุม 1 วัน 1 คืน จากนั้นจะเดินขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล พร้อมประมาณการผู้เข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 4 หมื่นคน นายแก้วสรรเรียกว่าเป็น "การระดมคนเข้ามาตั้งไว้ แล้ววันรุ่งขึ้นก็เทม็อบใส่ทำเนียบฯ" ซึ่งไม่ใช่การใช้สิทธิชุมนุมที่เป็นไปตามความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ

กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม
คำบรรยายภาพ,

กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมประกาศว่า "จะไม่ลดเพดาน" การพูดถึงข้อเสนอในการปฏฺิรูปสถาบันฯ ในระหว่างเปิดแถลงข่าว 9 ก.ย.

2. การอ้างถึงความสงบ กลุ่มศิษย์เก่า มธ. มองว่าคุณภาพของผู้ชุมนุมเป็น "มวลชนแห่งความจงเกลียดจงชังที่ผ่านการปลุกปั่นในโลกไซเบอร์ เมื่อออกจากทวิตเตอร์มารวมตัวกันจริง ๆ บนท้องถนนแล้วก็ยิ่งก้าวร้าว"

นายแก้วสรรบอกเล่าประสบการณ์ในเชิงเปรียบเทียบระหว่างเหตุการณ์ 14 ต.ค. 2516 กับการนัดหมายชุมนุมของนักศึกษารุ่นน้อง 19 ก.ย. 2563 โดยชี้ว่าการประท้วงเมื่อ 47 ปีก่อนเกิดขึ้นเพราะมีการจับผู้นำนักศึกษา 13 คน ส่วนตัวคิดว่านายเสกสรรค์ ประเสริฐกุล ผู้นำนักศึกษาในเวลานั้น "ไม่ได้นึกว่าพอได้ที เราจะเทออกไปข้างนอก แต่ที่ออกไปคือเพื่อประท้วง ไม่ได้พุ่งเป้าว่าต้องการไปแสดงพลังอะไรทั้งสิ้น"

ชายวัย 69 ปียังอ้างถึงบทสนทนากับ "รุ่นพี่" คนหนึ่งที่ไม่ได้เปิดเผยนาม ซึ่งให้ความเห็นไว้ว่าในยุคก่อนชุมนุมอยู่ตั้งนานถึงออกไปบนถนน แต่ยุคนี้นัดวันเดียวแล้วออกไปเลย เพราะมีการชุมนุมในไซเบอร์เป็นปี ๆ เพื่อสร้างข้อถกเถียง สร้างคนหนุ่มสาวให้เลือกพรรคการเมือง แต่ครั้งนี้สร้างความเกลียดชัง และทำให้เกิดความเป็นพวกเป็นหมู่

"ถ้าทำเก่ง ๆ ก็เป็นเรดการ์ด (ยุวชนแดงในยุคปฏิวัติวัฒนธรรมของจีน) หรือยุวชนนาซี (เยาวชนที่จัดตั้งโดยพรรคนาซีของเยอรมัน เพื่อปลูกฝังอุดมการณ์แบบอดอล์ฟ ฮิตเลอร์) ได้ ดังนั้นไม่ต้องจัดตั้งมาก เพราะเป่านกหวีดในโซเชียลอยู่แล้ว ทำให้เกิดความดุร้าย นี่คือสิ่งที่เรียกว่าสงบแต่ปาก" นายแก้วสรรกล่าว

การชุมนุมใน มธ. ศูนย์รังสิต เมื่อ 10 ส.ค. จัดโดยนักศึกษากลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม
คำบรรยายภาพ,

การชุมนุมใน มธ. ศูนย์รังสิต เมื่อ 10 ส.ค. จัดโดยนักศึกษากลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม

3. ความสุ่มเสี่ยง กลุ่มศิษย์เก่า มธ. มองไม่เห็นความสามารถในการนำ ควบคุม จัดการ และคุ้มครองผู้ชุมนุมของบรรดาแกนนำ

นายแก้วสรรยกอีกโศกนาฏกรรมทางการเมืองไทยมาขย่มขวัญ โดยชี้ว่าเหตุการณ์ "พฤษภาทมิฬ" ปี 2535 เกิดขึ้นเพราะแกนนำประกาศเคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปทำเนียบฯ ในเวลา 19.00 น. จนเกิดการปะทะและบาดเจ็บล้มตายของ "วีรชน" ศิษย์เก่า มธ. จึง "ไม่ต้องการให้ใช้มหาวิทยาลัยเป็นที่ซ่องสุม แล้วเทม็อบใส่ทำเนียบฯ"

4. ความไม่น่าไว้วางใจ กลุ่มศิษย์เก่า มธ. ไม่เชื่อว่านักศึกษากลุ่มนี้มีการนำและการจัดการโดยอิสระลำพังกลุ่มตนเอง แต่แทนที่ "คนข้างหลัง" จะกล้าประกาศตัวอย่างโปร่งใส กลับดันให้เด็กนักศึกษาไม่กี่คนมาออกหน้า อีกทั้งยังวิจารณ์ว่ามีพฤติกรรม "ลับ ๆ ล่อ ๆ" โดยอาศัยพื้นที่ มธ. เป็นฐานที่ตั้ง เพื่อไม่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การชุมนุมสาธารณะ ก่อนออกไปอาละวาดข้างนอกทั้งยึดสนามหลวงและทำเนียบฯ ซึ่งนายแก้วสรรชี้ว่าเป็นการ "หนีอำนาจตามกฎหมายมาอยู่ใต้อำนาจของ มธ. ซึ่งมีแต่อาจารย์เกศินีและอาจารย์นรนิตินั่งปกครองอยู่"

ร่างหนังสือของศิษย์เก่า มธ. กลุ่มนี้ระบุในช่วงท้ายว่า มธ. จะมีส่วนร่วมด้วยไม่ได้ เพราะ "คำขอจัดชุมนุมครั้งนี้ไม่สุจริต ไม่โปร่งใส ไม่มีความสามารถและความรับผิดชอบที่ต่ำกว่ามาตรฐานประชาธิปไตย จนไม่อาจรับรองให้ชุมนุมโดยอิสระในสถานศึกษาได้"

การชุมนุมใหญ่ของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ ในวันที่ 19 ก.ย. ถือเป็นการจัดกิจกรรมครั้งที่ 2 หลังจากทางกลุ่มเคยจัดการชุมนุมที่ใช้ชื่อว่า "ธรรมศาสตร์จะไม่ทน" ที่ มธ. ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ซึ่งมีการประกาศ 10 ข้อเรียกร้องเกี่ยวกับการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ โดยแกนนำจัดการชุมนุมต่างยืนยันว่า "จะไม่ลดเพดาน" และ "จะไม่หยุดพูด เพียงเพราะใครมาห้ามไม่ให้พูด"


Inga kommentarer:

Skicka en kommentar