"หลายอย่างที่พูดออกมา
ก็เป็นวาทกรรม แต่ทุกอย่างนั้น
หากนำไปคิดก็คือเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในชาติบ้านเมือง " ผบ.ทบ.กล่าว
และชวนสื่อดู The Social
Dilemma ทาง Netflix
ซึ่งเป็นภาพยนตร์แนวสารคดีชีวิตจริงบวกเรื่องที่แต่งขึ้น
ผ่านบทสัมภาษณ์ของผู้บริหารและพนักงานที่ร่วมก่อตั้งสื่อสังคมออนไลน์ระดับโลก
ที่ออกมาพูดถึงผลร้ายของการใช้โซเชียลมีเดียมากเกินไป
อภิรัชต์ คงสมพงษ์ บอกสื่อ "ต่อไปคงไม่ได้ให้ข่าว" หลังรับตำแหน่งรองเลขาธิการพระราชวัง
พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) บอกกับผู้สื่อข่าวสายทหารในงานเลี้ยงอาหารเที่ยง ก่อนเกษียณอายุราชการของเขา ขอให้สื่อมวลชนยึดความเป็นกลางในการนำเสนอข่าวที่เป็นสาระและอยู่บนพื้นฐานแห่งความจริง
เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.อภิรัชต์กล่าวว่าตั้งแต่เข้ามารับราชการทหารจนเป็น ผู้บัญชาการทหารบก 2 ปี ได้รู้จักกับสื่อมวลชนมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อ (พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด) ซึ่งในห้วง 30 กว่าปีที่ผ่านมา ได้สัมผัสกับสื่อหลายคน ยังจำภาพความเปลี่ยนแปลงทั้งทางทหาร ความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือการ "disruption" ในวงการสื่อ
"อยากให้สื่อมวลชน ยึดความเป็นกลางในการนำเสนอข่าวที่เป็นสาระและอยู่บนพื้นฐานแห่งความจริง ส่วนการพาดหัวข่าวทั้งหลาย ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคของแต่ละคน ที่จะดึงดูดให้เว็บไซต์ เพจ หนังสือพิมพ์ ของตัวเองเพื่อเรียกคนดู เปรียบเหมือนการตลาดอย่างหนึ่ง"
ผบ. ทบ. คนที่ 41 กล่าวว่า การให้ข่าวของ ผบ.ทบ.ในอดีตได้พิจารณาถึงความสอดคล้องกับสถานการณ์ แต่ส่วนตัวเขาเมื่อให้ข่าวก็มีทั้งคนชมและคนด่าอยู่เสมอ แต่ก็ "ชินแล้ว เพราะผมโดนมาเยอะ" ตั้งแต่เป็นผู้การ ผู้พัน โดนพาดหัวในสื่อหลายฉบับมาตลอด
"หลายอย่างที่พูดออกมา ก็เป็นวาทกรรม แต่ทุกอย่างนั้น หากนำไปคิดก็คือเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในชาติบ้านเมือง " ผบ.ทบ.กล่าว
รองเลขาธิการพระราชวัง
หลังเกษียณอายุราชการจากกองทัพบก พล.อ.อภิรัชต์ จะไปรับตำแหน่งรองเลขาธิการพระราชวังระดับ สามัญ 11 คู่กับ และ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ตามคำสั่งสำนักพระราชวังที่ 182/2563 ลงวันที่ 12 ก.ย. เรื่องทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุมัติรับโอนข้าราชการทหารและข้าราชการพลเรือนสามัญ มาบรรจุเป็นข้าราชการในพระองค์ฝ่ายพลเรือนและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นพิเศษเฉพาะราย ลงนามโดย พล.อ.อ. สถิตย์พงษ์ สุขวิมล เลขาธิการพระราชวัง
พล.อ.อภิรัชต์กล่าวว่า หลังจากเกษียณราชการไป เขาคงไม่มีโอกาสมาให้ข่าวสื่อ แต่ขอให้สื่อรักษาจรรยาบรรณจริยธรรม เป็นสิ่งที่เรายังต้องดำรงอยู่ไว้ ไม่ว่าจะเป็นสื่อชนิดใดก็ตาม
"การรักใคร ชอบใคร ต้องคำนึงถึงมนุษยธรรมและสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในประเทศชาติบ้านเมือง ที่มีอัตลักษณ์ของประเทศชาติ ที่ทุกคนต้องทำหน้าที่ของตัวเอง จะเชียร์หรือด่า ผมไม่เคยรู้สึกอะไร ไม่ได้โกรธหรือน้อยใจ"
ไม่เล่น เฟซบุ๊ก แต่ชวนสื่อดู The Social Dilemma
พล.อ.อภิรัชต์กล่าวว่า เขาไม่เล่นเฟซบุ๊กหรืออินสตาแกรม แต่ติดตามโซเชียลมีเดียตลอด เพื่อดูถึงความเคลื่อนไหว เปลี่ยนแปลง แต่โซเชียลมีเดียไม่สามารถถ่ายทอดความสัมพันธ์ของทหารได้
"ทหารสิ่งสำคัญมากที่สุดคือ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชา ที่ไม่สามารถที่จะถ่ายทอดความรู้สึกของเราในฐานะผู้บังคับบัญชาผ่านทางแอพพลิเคชันใดก็ตามในโลก ที่จะทำให้ลูกน้องรู้สึกว่า เราดูแลเอาใจใส่เขา ได้เท่ากับที่เราลงไปทำจริง ๆ"
นอกจากนี้ พล.อ.อภิรัชต์ ยังแนะนำผู้สื่อข่าวสายทหารให้ไปดูภาพยนตร์เรื่อง The Social Dilemma ทาง Netflix
The Social Dilemma เป็นภาพยนตร์แนวสารคดีชีวิตจริงบวกเรื่องที่แต่งขึ้น ผ่านบทสัมภาษณ์ของผู้บริหารและพนักงานที่ร่วมก่อตั้งสื่อสังคมออนไลน์ระดับโลก ที่ออกมาพูดถึงผลร้ายของการใช้โซเชียลมีเดียมากเกินไป
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar