เพนกวิน-รุ้ง
โพสต์ตำรวจนอกเครื่องแบบล้อมรถเครื่องเสียงและบริษัทจัดเวที
ขวางไม่ให้มาชุมนุม 19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร ด้านพรรณิการ์ คณะก้าวหน้า
ตั้งข้อสังเกตชายหัวเกรียนอยู่ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์หลังล็อกรั้ว
https://prachatai.com/journal/2020/09/89580
เพนกวิน-รุ้ง โพสต์ตำรวจนอกเครื่องแบบล้อมรถเครื่องเสียงและบริษัทจัดเวที ขวางไม่ให้มาชุมนุม 19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร ด้านพรรณิการ์ คณะก้าวหน้า ตั้งข้อสังเกตชายหัวเกรียนอยู่ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์หลังล็อกรั้ว
18 ก.ย. 2563 ประมาณ 20.30 น. 'เพนกวิน' พริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมโพสต์เฟซบุ๊กว่า มีตำรวจไปจอดรถดักรอเตรียมสกัดเครื่องเสียงไม่ให้ขนมาติดตั้งในการชุมนุมวันพรุ่งนี้ ต่อมาประมาณ 21.20 น. 'รุ้ง' ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมอีกราย โพสต์เฟซบุ๊กว่า มีตำรวจนอกเครื่องแบบไปยืนล้อมบริษัทที่จะมาจัดทำเวทีวันพรุ่งนี้ โดยไม่มีเหตุ ไม่มีข้อกล่าวหา ไม่ยอมให้ทางทีมงานขนของขึ้นรถ ทำให้ทีมงานออกจากบริษัทไม่ได้ ก่อนการชุมนุม 19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร ซึ่งนัดหมายชุมนุม 19-20 ก.ย. 2563 เวลา 14.00 น. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
ด่วน! ตอนนี้มีตำรวจไปจอดรถดักรอเตรียมสกัดเครื่องเสียงไม่ให้ขนมาติดตั้งในการชุมนุมวันพรุ่งนี้ นี่หรือคือหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ไทย
Posted by เพนกวิน - พริษฐ์ ชิวารักษ์ Parit Chiwarak on Friday, 18 September 2020
ตอนนี้มีตำรวจนอกเครื่องแบบไปยืนล้อมบริษัทที่จะมาจัดทำเวทีวันพรุ่งนี้ให้เราค่ะ ไปโดยไม่มีเหตุ ไม่มีข้อกล่าวหา...
Posted by Panusaya Sithijirawattanakul on Friday, 18 September 2020
ด้านทีมสื่อคณะก้าวหน้า รายงานว่า หลังพรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า จัดรายการ ก้าวหน้าทอร์ก นำชมบรรยากาศบริเวณดังกล่าวก่อนที่จะมีการชุมนุมของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมในวันรุ่งขึ้น พรรณิการ์ตั้งข้อสังเกตถึงการที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ปิดประตูห้ามบุคคลภายนอกเข้าก่อนเวลาปกติ ขณะเดียวกัน ปรากฏว่ามีชายหัวเกรียน 5-6 คน ขับรถจักรยานยนตร์เข้าไปภายในรั้วมหาวิทยาลัยได้ จนเป็นคำถามว่าใช่ตำรวจนอกเครื่องแบบหรือไม่ เหตุใดมหาวิทยาลัยที่ห้ามบุคคลภายนอกเข้าไปในบริเวณพื้นที่ แต่ปล่อยให้เจ้าหน้าที่เข้าไปได้ ดังนั้น มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้สื่อมวลชนเข้าไปตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่ซ่องสุมกำล้งภายในหรือไม่
ทั้งนี้ เงื่อนไขของมหาวิทยาลัยที่บอกว่าไม่อนุญาตให้กลุ่มผู้ชุมนุมจัดกิจกรรม ไม่อาจที่จะใหญ่กว่าหมวด 3 สิทธิเสรีภาพประชาชน ตามที่รัฐธรรมนูญให้การรับรองในการแสดงออก ดังนั้น ต้องติดตามกันต่อไปว่า ตอนนี้มีการปิดประตูไม่ให้ประชาชนเข้า แต่ถ้าพรุ่งนี้คนเรือนหมื่นเรือนแสนที่มาชุมนุม และจะขอเข้าไปหลบแดด หลบฝน หรือเข้าห้องน้ำ มหาวิทยาลัยจะปิดประตูใส่หน้าหรือไม่ ธรรมศาสตร์จะเป็นพื้นที่เสรีภาพทุกตารางนิ้วหรือไม่ อยากให้ติดตามดูกัน
ทีมสื่อคณะก้าวหน้ารายงานอีกว่า หลังเดินสำรวจบริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และท้องสนามหลวงแล้ว พรรณิการ์เดินทางต่อด้วยรถตุ๊กตุ๊ก เพื่อไปยังอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา (สี่แยกคอกวัว) เพื่อไปดูบรรยากาศและพูดคุยกับประชาชนกลุ่มหนึ่งที่กำลังร่วมกันเขียนป้ายผ้าข้อความต่างๆ อาทิ ไม่รับรองรัฐประหาร, ยกเลิกเกณฑ์ทหาร, พื้นที่ประชาธิปไตยปลอดเผด็จการ เป็นต้น และได้พูดคุยกับจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ "ไผ่ ดาวดิน" และไชยอมร แก้ววิบูลย์ หรือ "แอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์"
ทั้งคู่เล่าว่า สาเหตุการเขียนป้ายผ้าครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเนื่องจากเมื่อวันก่อนที่บ้านดาวดิน จ.ขอนแก่น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มายึดป้ายผ้าที่เคยใช้จัดกิจกรรม โดยไม่แจ้งข้อกล่าวหา ไม่บอกสาเหตุ แต่ขอยึดไปจำนวน 17 ป้าย ซึ่งเลือกที่จะนำไปเฉพาะป้ายที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ไม่นำป้ายป้ายเรื่องอื่นๆ เช่น เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ เรื่องการต่อสู้ของชาวบ้านไปด้วย ทำให้ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อยึดป้ายผ้าได้ เราก็สามารถเขียนใหม่เพื่อที่จะใช้ในการชุมนุมได้
จตุภัทร์ กล่าวด้วยว่า ตนมีความคาดหวังว่าถึงตอนนี้ ตำรวจควรที่จะมาร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับประชาชน เมื่อเห็นประชาชนออกมากันมากขนาดนี้ ควรที่จะมาร่วมกัน สำหรับรัฐบาลชุดนี้ เราอยากเห็นรัฐบาลรับฟังประชาชน เพื่อที่สถานการณ์ทุกอย่างจะได้ดีขึ้น เพราะถ้าไม่ฟัง ก็เชื่อว่าประชาชนจะไม่ยอม และไม่หยุดที่จะต่อสู้ แล้วคงจะมีการยกระดับไปเรื่อยๆ ซึ่งไม่รู้ว่าจะถึงเมื่อไหร่ ดังนั้น ต้องฟังเสียงประชาชน ต้องยอมเพื่อร่วมพัฒนนาประเทศไปด้วยกัน เพราะทุกคนก็เป็นเจ้าของประเทศเหมือนกัน
ขณะที่ไชยอมร กล่าวว่า สำหรับความสำเร็จในการชุมนุม ตนมองว่าเกิดขึ้นมาแล้วในหลายครั้งของการชุมนุมที่ผ่านมา ก่อนที่จะวัดมีการวัดจำนวนคนในวันพรุ่งนี้ว่าจะมีเท่าไหร่ แต่อย่างไรก็ตาม สุดท้ายขึ้นอยู่ที่รัฐบาลว่าจะเพิกเฉยต่อไปหรือไม่ หรือจะต้องให้ประชาชนขยับเพดานการต่อสู้ออกไปอีกเรื่อยๆ
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar