söndag 16 augusti 2020

ประชาชนปลดแอก: ผู้ชุมนุมเต็มพื้นที่รอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย นายกฯ สั่งห้ามใช้ความรุนแรง..

แม้นักการเมืองและนักวิชาการบางส่วนวิเคราะห์ว่า 10 ข้อเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ของนักศึกษาเมื่อ 10 ส.ค. จะทำให้แนวร่วมการเคลื่อนไหวลดลง แต่การชุมนุมของกลุ่มประชาชนปลดแอกวันนี้ (16 ส.ค.) มีผู้เข้าร่วมเต็ม ถ.ราชดำเนินกลาง ตั้งแต่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปจนถึงแยกคอกวัว

ประชาชนปลดแอก: ผู้ชุมนุมเต็มพื้นที่รอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย นายกฯ สั่งห้ามใช้ความรุนแรง

ผู้ชุมนุม

กลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนที่ใช้ชื่อว่า "คณะประชาชนปลดแอก" นัดชุมนุมใหญ่วันนี้ (16 ส.ค.) มีผู้เข้าร่วมเต็มพื้นที่โดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและถนนราชดำเนินกลางจนถึงบริเวณแยกคอกวัว นับเป็นการชุมนุมทางการเมืองที่มีผู้เข้าร่วมมากที่สุดในรอบหลายปี ประกาศ 3 ข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ 1 ความฝัน คือการมี "ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ"

กิจกรรมนี้จัดขึ้นในวาระครบรอบเดือน หลังมีการชุมนุมใหญ่ครั้งแรกเมื่อ 18 ก.ค. ซึ่งในวันนั้นผู้จัดการชุมนุมในนาม "เยาวชนปลดแอก" ได้ประกาศ 3 ข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ ประกอบด้วย หยุดคุกคามประชาชน, ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และยุบสภา

ต่อมามีการพัฒนาเครือข่ายขึ้นเป็น "คณะประชาชนปลดแอก" เพื่อขยายแนวร่วมไปสู่นักกิจกรรมการเมืองตามสถานศึกษาต่าง ๆ รวมถึงประชาชนทั่วไป พร้อมเพิ่ม 2 หลักการ ได้แก่ ต้องไม่มีการทำรัฐประหาร และไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ และ "1 ความฝัน" คือการมี "ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ"

แม้มีข้อวิเคราะห์จากนักการเมืองและนักวิชาการบางส่วนว่า 10 ข้อเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ของนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ เมื่อ 10 ส.ค. เป็นปรากฏการณ์ "ทะลุเพดาน" และจะทำให้แนวร่วมการเคลื่อนไหวลดลง แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีประชาชนเข้าร่วมชุมนุมหลายพันคน โดยเมื่อเวลา 16.30 น. ตำรวจประเมินว่ามีผู้ชุมนุมประมาณ 3,000 คน ขณะผู้จัดการชุมนุมประเมินเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ว่าผู้ชุมนุม "ทะลุ 1 หมื่นคน"

ผู้ร่วมชุมนุมทยอยเดินทางมาที่ถนนราชดำเนินตั้งแต่ก่อน 15.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ผู้จัดการชุมนุมนัดหมาย บางส่วนชูป้ายข้อความที่นำมาเอง มีการตั้งเวทีขนาดเล็กบนถนนราชดำเนินกลางตรงข้ามศูนย์เบนซ์ธนบุรี แกนนำเริ่มต้นกิจกรรมด้วยการชวนผู้ชุมนุมร้องเพลง "แจวขับไล่รัฐบาล" เรียกร้องการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และหยุดการคุกคามประชาชน และเรียกร้องให้ ส.ว. 250 คน ที่ทีสิทธิโหวตเลือกนายกฯ ออกจากการเมือง

ขณะที่กลุ่มที่เรียกตัวเองว่าแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นำโดยนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ได้เดินขบวนเรียกร้องย้ำข้อเรียกร้อง 10 ประการเกี่ยวกับการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ขณะที่บนเวทียังมีการปราศรัยในหลายประเด็นรวมถึงความเท่าเทียมทางเพศ

ตั้งแต่ช่วงเย็น มีหลายกลุ่มสลับกันขึ้นพูดหลากหลายปัญหาที่เกี่ยวกับการเรียกร้องประชาธิปไตยบนเวทีปราศรัย เช่น กลุ่มนักเรียนเลว กลุ่มประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กลุ่มรณรงค์รื้อสร้างร่างรัฐธรรมนูญใหม่ คณะผู้หญิงปลดแอกประชาชนกลุ่มหลากหลายทางเพศ

ชุมนุมประท้วง
คำบรรยายภาพ,

คณะประชาชนปลดแอก ผู้จัดการชุมนุมในวันนี้ (16 ส.ค.) นัดหมายประชาชนมารวมตัวกันในเวลา 15.00 น.

การชุมนุมใหญ่เมื่อ 18 ก.ค. ทำให้แกนนำจัดกิจกรรมอย่างน้อย 3 คน ได้แก่ นายอานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน, นายภาณุพงศ์ จาดนอก ประธานกลุ่ม "เยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย" และนายพริษฐ์ นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ และแกนนำสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาลงวันที่ 6 ส.ค. ในข้อหาสร้างความปั่นป่วนให้เกิดความกระด้างกระเดื่องฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และอื่น ๆ รวม 7-8 ข้อหา

ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวทั้ง 3 คน โดยกำหนดเงื่อนไขว่าห้ามกระทำการใด ๆ ลักษณะเดียวกันกับการกระทำที่ถูกกล่าวหา มิฉะนั้นจะถือว่าผิดสัญญาประกัน แต่ทั้ง 3 คนก็ได้ปรากฏตัวในสถานที่ชุมนุมในวันนี้แล้ว

คนถือป้ายประท้วง
คำบรรยายภาพ,

ผู้ชุมนุมทยอมมาถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยตั้งแต่เวลา 15.00 น.

ด้านกองบัญชาการนครบาล (บช.น.) ระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 กองร้อย เข้ารักษาความสงบโดยรอบ พร้อมจัดชุดสืบสวนคอยหาข่าวและเก็บข้อมูลในระหว่างการชุมนุม โดยมีการประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงให้ระมัดระวังการละเมิดกฎหมายหลายฉบับ

ขณะเดียวกันประชาชนฝ่ายผู้เห็นต่างได้จัดตั้งองค์กรที่ใช้ชื่อว่า "ศูนย์กลางประสานนักศึกษาอาชีวะ ประชาชนปกป้องสถาบัน" หรือ ศอปส. ได้แทรกซึมอยู่ในสถานที่ชุมนุม "เพื่อทำการเก็บหลักฐานทั้งภาพและเสียงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ" หากพบการจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ หลังพวกเขารวมกลุ่มกันแสดงพลังปกป้องสถาบันฯ ในจุดเดียวกันนี้เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา

ภายหลังจากการชุมนุมใหญ่เมื่อ 18 ก.ค. ได้เกิดการชุมนุมย่อยเพื่อประท้วงต่อต้านรัฐบาล หรือที่รู้จักในชื่อ "แฟลชม็อบ" ภาค 2 ตามมาอย่างน้อย 49 จังหวัดทั่วประเทศตามการรวบรวมข้อมูลของบีบีซีไทย ขณะเดียวกันมีประชาชนอีกกลุ่มได้จัดตั้งองค์กรตอบโต้ที่ใช้ชื่อว่า "ศูนย์กลางประสานนักศึกษาอาชีวะ ประชาชนปกป้องสถาบันฯ" (ศอปส.) ปรากฏความเคลื่อนไหวในการแสดงพลังปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างน้อย 11 จังหวัดทั่วไทย

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar