"ทหาร Young Turks ".ผู้ให้กำเนิดนักฆ่าแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา.....เรื่องราวของกลุ่มทหารหนุ่มกับพลเอกเปรม...ความเป็นมาในอดีตที่เกี่ยวเนื่องมาถึงปัจุบัน....บทเรียนในอดีตที่ไม่ควรเกิดขึ้นอีกในประเทศไทย...........

โดย อบอริจิ้น
เมื่อ อาทิตย์, 12/05/2013 - 03:20

อดีต
...............................
มันเป็นเดือน กันยายน ปี 2551 หลังรัฐประหารเมื่อปี 2549
และหลังรัฐประหารอีกหลายๆครั้งในประเทศนี้
คนเลวหรือคนชั่ว เราจะมองออกอย่างไรนะ
เมื่อประธานองคมนตรี กล่าวตามรายงานข่าวว่า
“คนชั่วอย่างมนูญเป็นประธานวุฒิได้ยังไง ?"
นั่นทำให้ พล.ต.มนูญ อดีตนักเรียนการทหารจากฟอร์ตนอกซ์ สหรัฐอเมริกา
ทำจดหมายออกสื่อ....

......................
มันเป็นเรื่องราวของทหาร...มันบอกให้ผู้คนในประเทศนี้รู้ว่า
มีเรื่องราวแบบนี้ และคนดีหรือคนชั่วเราคงต้องมองให้ลึกถึงเบื้องหลังของเขา
และเมื่อเริ่มเรื่องราวมันคงผ่านมาถึง 30 ปีแล้ว
นับจากปีที่จดหมายเปิดผนึกถูกเขียนขึ้น..........
..................

การสถาปนา.. 

ปี 2524 เป็นการเริ่มปีที่สองของนายกรัฐมนตรีขณะนั้นที่ชื่อ
พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งโดยตรง
นายกรัฐมนตรีที่พวกในรัฐสภาโหวตเลือกมาจากคนที่คิดว่าเหมาะสมที่สุดในตอนนั้น...
และตำแหน่งอีกตำแหน่งของท่านนายกฯคือผบ.ทบ.
และตามที่มีการเขียนต่อมาในภายหลัง และในจดหมายเปิดผนึกอีก 30 ปีต่อมา
นายกรัฐมนตรีได้รับการสนับสนุนจากทหารหนุ่มกลุ่มหนึ่ง
........................
ทหาร Young Turks ที่ถูกเรียกเลียนแบบมาจากกลุ่มพวกทหารหนุ่ม
ของตุรกีในต้นศัตวรรษที่20 ที่พยายามปฎิรูปประเทศตุรกีในตอนนั้น
พวกทหารหนุ่มในไทยช่วงนั้นก็เช่นกัน...



ย้อนหลังไปราว 8 ปี จากตอนนั้น ในปี 2516
อาจจะถือว่าเป็นช่วงที่อำนาจกองทัพยิ่งใหญ่ถึงจุดสูงสุด
และปี 2516 เช่นกันที่ขบวนการมวลชนประชาธิปไตยต้องสูญเสียร่างผู้เสียสละอีกครั้ง
ปีนั้นเองถือว่าเป็นปีที่สิ้นสุดยุคเรืองอำนาจของทหารในกองทัพ
หลังปี 2475 ที่กองทัพไทยพัฒนาและสืบทอดอำนาจ ถึงปี 2516
...อำนาจใหม่ที่น่ากลัวกว่า แยบยลกว่า เริ่มสร้างตัว
(และจะยิ่งใหญ่ไปอีกหลายสิบปีต่อจากนั้น)

การค่อยๆแบ่งบานพัฒนาการของระบบประชาธิปไตย
ทำให้เอกภาพของกองทัพสั่นคลอน พวกทหาร Young Turks
คิดพัฒนาเศรษกิจ สังคม การเมือง ในแบบที่พวกเขาคิด
นอกเหนือจากนั้นเพื่อหวังจะกอบกู้เกียรติภูมิของทหาร
ให้กองทัพกลับมายิ่งใหญ่ เป็นกองทัพของชาติอีกครั้ง....
และถึงเวลาที่นายกฯคนปัจจุบันต้องเริ่มเปลี่ยนแปลงซะที...
........................................

Young Turks เคลื่อนกำลัง
.....................


มันเป็นกลางดึกของคืนวันพุธที่ 1 เมษายน 2524 ตอนรุ่งเช้าผู้คนตามท้องถนนคงนึกแปลกใจ
ทีทหารในชุดสีเขียวต่างทยอยเข้าควบคุมสถานที่สำคัญๆต่างๆ
ไม่มีมือถือถ่ายภาพเพื่อ twitter ไม่มีเฟซบุคที่จะแชร์ข่าวสารให้รวดเร็ว
ผู้คนต้องรอฟังสื่อฯอย่างวิทยุและโทรทัศน์ที่ถูกควบคุมอย่างเข้มงวด
และไม่มีใครแหกปากโพนทะนาว่าสื่อฯถูกควบคุมแทรกแซง
ซึ่งต้องรอไปอีก20 กว่าปี ที่สื่อฯไทยมีโอกาสแหกปากในสมัยที่มีนายกฯชื่อทักษิณ
แต่สื่อฯไทยก็คือสื่อฯไทยไม่ว่าในอดีตจะเป็นอย่างไร ปัจจุบันก็ไม่ต่างกัน
เพราะพวกเขายอมที่จะหุบปากเพื่อกอบโกยผลประโชน์จากรายการบันเทิง
และหนังจีนกำลังภายในที่ถูกนำเสนออย่างมากในยุคนั้น...
.......................................

Young Turks เคลื่อนกำลังทหารเข้ากรุงเทพ
ว่ากันว่าเป็นการใช้กองกำลังทหารเพื่อรัฐประหารมากที่สุดในประวัติศาสตร์ถึงปัจจุบัน
ประกาศคณะปฎิวัติถูกรายงานออกอากาศตามสถานีโทรทัศน์ตอนเช้า
พร้อมๆการปลดนายกฯ ผบทบ.และพวกทหารฝ่ายรัฐบาล



ชื่อของพลเอกสัณห์ จิดรปฏิมา รองผู้บัญชาการทหารบก ถูกประกาศเป็นผู้นำการรัฐประหาร
หรือที่ชอบเรียกว่า การปฎิวัติ ในตอนนั้น...
แต่เบื้องหลังของกำลังทหารที่ยึดกรุงเทพฯตั้งแต่กลางดึกนั้นคือทหารYoung Turks
เช่น พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร พ.อ. มนูญ รูปขจร พ.อ.สมบัติ รอดโพธิทอง พ.อ.เปรม โชติเสถียร
พ.ท. พัลลภ ปิ่นมณี และอีกหลายนายทหารคุมกำลังระดับนายพัน...
........................
72 ชั่วโมง...
...................
จากคำบอกเล่าของนายทหารที่มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ครั้งนั้นระบุว่า
ข่าวการรัฐประหารมีมาก่อนหน้านั้น มีการเรียกตัวผู้นำการรัฐประหาร
เพื่อการพูดคุยกันก่อนวันเคลื่อนกำลังพลแต่ได้รับการปฎิเสธ...ด้วยการชิงลงมือทันที...

เหตุการณ์รายละเอียดของเรื่องราว 72 ชั่วโมงนั้น
ที่เป็นการรัฐประหารที่ล้มเหลว และเป็นสงครามสื่อฯจิตวิทยาโดยแท้
พร้อมๆการเจรจาที่จะเลิกราแบบไม่มีใครถูกจับกุมคุมขัง
ผู้ที่เล่าเหตุการณ์ไดัดีคนหนึ่งคือ พล.ท.อาทิตย์ กำลังเอก
ที่มีอยู่ในนิตยสารฉบับหนึ่งหลังเกิดเรื่องวันนั้นราว 1 เดือน.

................................
หลังจากนั้น ข่าวของเหตุการณ์วันนั้นก็มีการว่ากันหลายๆอย่าง
คล้ายๆนิยายที่เล่าต่อๆกันมาเช่น นายกฯเปรมกระโดดหน้าต่างหนี
และไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนพาใครไปตั้งหลักที่นครราชสีมา...
ไม่มีรายละเอียดของทีมคอปเตอร์ที่บินจากกรุงเทพฯไปนครราชสีมาในวันพุธนั้น
ข่าวลือว่ามีการยิงทหารชุดคุ้มกันขบวนรถที่ตามที่สระบุรีเสียชีวิตตายเรียบ
แต่ปล่อยให้คนในรถไปถึงนครราชสีมาได้....

พ.ท.ชายชาญ ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืน 11 มิลลิเมตร
ยิงจนเสียชีวิตที่จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2523
ตอนที่ยังเป็นสมาชิกวุฒิสภาอยู่ ใครกันนะที่กล้าขนาดยิง สว.
.....เรื่องคดีต้องไปเสาะหานานครับ...
พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร ปัจจุบันยังไม่เสียชีวิต...ที่มีข่าวล่าสุด
ก็เป็นคนให้ข้อมูลกับท่านเฉลิมเรื่องเงินบริจาค พรรค ปชป.ครับ...

อำนาจใหม่
.........................

สุดท้ายของเรื่อง การรัฐประหารก็ถูกสยบได้ภายใน 72 ชั่วโมง...
หลังการเจรจา พวกทหารYoung Turks แกนนำบางส่วนถูกให้ออกนอกประเทศไปก่อน
บางส่วนถูกจับคุมขังพอเป็นพิธี เพื่อรอการออกพระราชกำหนดนิรโทษกรรมของรัฐบาล
ที่นายกฯเป็นผู้ยื่นในวันที่ 27 พฤษภาคม 2524 หรือราว 1 เดือนต่อมา
การสยบรัฐประหารครั้งนั้น ถือเป็นการเริ่มพลังอำนาจของขุนศึกคนหนึ่ง
ที่จะยืนเคียงคู่พลังอำนาจใหม่ลึกลับที่สถาปนาหลัง 14 ตุลาคม 2516
พวกทหารYoung Turks ไม่สามารถกำหนดทิศทางบ้านเมืองหรือ
กู้เกียรติภูมิกองทัพในอดีตที่ยิ่งใหญ่กลับคืนได้...

มันจะมีการพยายามรัฐประหารอีกหนึ่งครั้ง 4 ปีหลังจากนั้น แต่ก็ล้มเหลว
ถึงแม้พฤษภาคม 2535 จะมีผู้คนมาเรียกร้องนายกฯให้มาจากการเลือกตั้ง
แต่ที่จริงมันเป็นเรื่องความขัดแย้งของพวกทหารYoung Turks กับทหาร จปร.5
ประชาชนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่แค่เป็นเครื่องมือเท่านั้นเอง
ต่อจากนั้นจนถึงปัจจุบัน การรัฐประหารอีก 2 ครั้งในปี 2534 และปี 2549จะไม่เคยถูกสยบ
เพราะพลังอำนาจใหม่ลึกลับแค่มองดูและหนุนหลังอย่างลับๆ



เมฆสีขาวเคลื่อนตัวบนท้องฟ้าเป็นรูปต่างๆนานาเหมือนพลังอำนาจที่แฝงตัวอยู่คู่ฟ้า
แต่ทุกอย่างย่อมมีการเริ่มต้น พัฒนาตัวเอง และถึงจุดสูงสุด
พวกพลังอำนาจใหม่ลึกลับน่าจะเลยจุดสูงสุดมาแล้ว
ประชาธิปไตยในประเทศจะยอมแพ้ต่อการรัฐประหารทุกครั้งจริงหรือต่อจากนี้
หรือมันจะต้องรอผู้ที่จะสยบรัฐประหารอีกครั้ง
แต่คราวนี้ คงมีแต่ "ประชาชน"เท่านั้นที่จะสยบมัน!....
..................................
นสพ.LA.Time ฉบับวันที่ 4 เมษายน ปี 2524 ได้เสนอบทความวิเคราะห์
เรื่องราวการพยายามรัฐประหารของไทยเมื่อ เมษายน ปี 2524 อย่างน่าสนใจ
แต่มันคงไม่สามารถหาอ่านได้ในประเทศไทยตอนนั้นหรืออาจจะตอนนี้ก็ตามเถอะ...
คงมีแต่สุรเสียงของกษัตริย์ฆวน คาร์ลอส ที่พึ่งออกอากาศทางทีวีปฎิเสธการรัฐประหาร
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2524 ราว 2 เดือนก่อนหน้านั้นดังขึ้น!
และล่องลอยข้ามทะเล...สู่ผืนแผ่นดินที่ประชาธิปไตยที่ถูกอำนาจลึกลับทับซ้อนอยู่เสมอมา......
..................