ถึงคิว เปิดแฟ้ม ป.ป.ช. ดู 13 เรื่อง “กำนันสุเทพ – อภิสิทธ์” ถูกกล่าวหา สั่งสลายชุมนุมปี 53 ส่อทุจริตสร้างโรงพัก ผลประโยชน์ทับซ้อนน้ำมันปาล์ม จัดเก็บเงินสงเคราะห์สวนยาง ปิดดาวเทียม ปล่อยข่าวซื้อไทยคม สั่งซื้อเรือเหาะ – ยานเกราะ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตย ที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) หรือกำนันสุเทพ เป็นอย่างไรบ้าง?
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์สำนักงาน ป.ป.ช. มีการระบุข้อมูลว่า นับตั้งแต่นายสุเทพเข้ารับตำแหน่ง “รองนายกรัฐมนตรี” และนายอภิสิทธิ์ เข้ารับตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2551 จนออกจากตำแหน่ง 5 สิงหาคม 2554 รวมถึงช่วงพ้นตำแหน่งจนถึงปัจจุบัน มีผู้กล่าวหาอย่างน้อยที่สุดจำนวน 13 เรื่อง
แบ่งเป็นของนายสุเทพ 6 เรื่อง นายอภิสิทธิ์ 3 เรื่อง และถูกกล่าวหาร่วมกันอีก 4 เรื่อง ดังนี้
@นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
@นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
เรื่องขอให้ถอดถอนจากตำแหน่ง จำนวน 5 เรื่อง
1.กรณีการทุจริตในคณะกรรมการสงเคราะห์การทำสวนยาง โดยในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ ปล่อยให้มีการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ในการปรับเพิ่มอัตราการจัดเก็บเงินสงเคราะห์ตาม พ.ร.บ.กองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง
สถานะล่าสุด รวบรวมพยานหลักฐาน
2.กรณีกองทัพบกสั่งซื้อเรือเหาะที่มีราคาสูงกว่าความเป็นจริง
สถานะล่าสุด มีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหารับทราบการที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นองค์คณะไต่สวน
3.กรณีการทุจริตจัดซื้อยานเกราะล้อยางจากยูเครน
สถานะล่าสุด ไต่สวนข้อเท็จจริง และรวบรวมพยานหลักฐาน
4.กรณีส่อว่าทุจริตต่อหน้าที่เกี่ยวกับวิกฤติน้ำมันปาล์ม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายน้ำมันปาล์มแห่งชาติ โดยมีผู้ใกล้ชิดซึ่งเป็นเจ้าของสวนปาล์มและโรงหีบน้ำมันปาล์ม ซึ่งครองตลาดปาล์มถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ของประเทศ ได้ประโยชน์จากวิกฤติราคาน้ำมันปาล์มขาดแคลนอย่างมาก
สถานะล่าสุด มีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหารับทราบการที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นองค์คณะไต่สวน
เรื่องเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและหรือส่อทุจริต จำนวน 1 เรื่อง
1.ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการพิจารณาเรื่องที่คณะกรรมการ .ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในคดีการสลายการชุมนุมฯ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 และชี้มูลความผิด พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ในคดีปล่อยให้ผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงยกพวกเข้าทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุม พันธมิตร ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ โดยมีมติในการประชุมเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2552 ว่าบุคคลทั้ง 3 คนไม่มีความผิด และให้กลับเข้ารับราชการได้ อันเป็นการขัดแย้งกับมติของคณะกรรมการ .ป.ป.ช. และไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ.2542 ทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือผู้กระทำความผิดไม่ให้ได้รับโทษ
สถานะล่าสุด ไต่สวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมตามมติคณะกรรมการ ป.ป.ช.
@นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
เรื่องขอให้ถอดถอนจากตำแหน่ง จำนวน 2 เรื่อง
1. กรณีระหว่างวันที่ 12 เม.ย. – 15 มิ.ย. 2553 ได้ร่วมกันเผยแพร่ข่าวว่า รัฐบาลมีแนวคิดที่จะซื้อดาวเทียมไทยคมคืน ทั้งที่ทราบดีว่าไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากเป็นการดำเนินการนอกอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายบัญญัติ และไม่ได้บรรจุไว้ในนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา อีกทั้งไม่อยู่ในแผนการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลแต่อย่างใด จนทำให้ราคาหุ้นของ บ.ไทยคม จำกัด (มหาชน) มีราคาพุ่งสูงขึ้นและมีการซื้อขายหุ้นในปริมาณ และราคาสูงผิดปกติ
สถานะล่าสุด แจ้งข้อกล่าวหา
2.กรณีกระทำการอันมีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ ส่อว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ส่อว่าใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมาย และฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ในการเห็นชอบผลการประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า สายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ – บางซื่อ สัญญาที่ 1 – 3 และปรับกรอบวงเงินของสัญญาที่ 6 โดยมีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2552
สถานะล่าสุด พิจารณาพยานหลักฐานที่รวบรวมได้
เรื่องเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและหรือส่อทุจริต จำนวน 1 เรื่อง
1.ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2552 ให้มีการออกใบอนุญาตก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่พัฒนาเขตนิคม อุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ทั้งที่ในพื้นที่เป็นโครงการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งทางด้านสภาพสิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ โดยไม่ยึดถือการปฏิบัติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาตรา 67 จนนำไปสู่การฟ้องร้องต่อศาลปกครองกลาง
สถานะล่าสุด แจ้งคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน
ส่วนดคีที่นายอภิสิทธิ์ กับนายสุเทพ ถูกกล่าวหาร่วมกันมีจำนวน 4 เรื่อง
1.มีพฤติการณ์ส่อว่าทุจริตต่อหน้าที่ ส่อว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมาย และฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ดังนี้
- ร่วมกันใช้หรือสั่งการอันเป็นเหตุให้เกิดการกระทำความผิด โดยเกิดการฆาตกรรม บุคคลจนถึงแก่ความตาย จำนวนหลายราย ระหว่างวันที่ 10 เม.ย. – 19 พ.ค. 2553 และไม่ทบทวนวิธีการ หรือหยุดยั้งการกระทำจากเหตุวันที่ 10 เม.ย. 2553 กลับสั่งการให้ดำเนินการเช่นเดิม โดยเฉพาะเหตุการณวันที่ 19 พ.ค. 2553
- แทรกแซงการใช้อำนาจขององค์กรในกระบวนการยุติธรรม “กรณีการชันสูตรพลิกศพ” โดยนำคดีการตายของประชาชนและเจ้าหน้าที่รวมจำนวน 91 ศพ ให้เสนอเป็นคดีพิเศษโดยไม่ดำเนินการทำสำนวนชัดสูตรพลิกศพตามกฎหมาย และจงใจบิดเบือนและเบี่ยงเบนการบังคับการตามกฎหมายในเรื่องชันสูตรพลิกศพ
- ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและระงับเหตุวางเพลิงเผาศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์ แล้วมีการทำร้ายและไล่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงออกจากศูนย์การค้าฯ ทำให้ไม่มีผู้ดับเพลิง
2.มีพฤติการณ์ช่วยเหลือและเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ให้เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม
สถานะล่าสุด การประชุมคณะอนุกรรมการไต่สวนครั้งแรก
3.กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาฯ พ.ศ.2542 ในการดำเนินโครงการ ก่อสร้างสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 หลัง วงเงิน 5,848 ล้านบาท ที่มีบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้รับจ้าง ตามสัญญาเลขที่ ยธ 13/2554 ลว. 25 มี.ค. 2554 โดยยกเลิกแนวทาง การจัดจ้างแบบแยกการเสนอราคาเป็นรายภาค และอนุมัติให้ดำเนินการจัดจ้างรวมการก่อสร้างเป็นแบบสัญญาเดียว อันเป็นการกีดกันและเอื้อประโยชน์ให้กับผู้เสนอราคารายใดรายหนึ่ง
4.ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยภายหลังการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่กรุงเทพมหา นครและปริมณฑล เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2553 ผู้ถูกกล่าวหาได้มีคำสั่งปิดสัญญาณดาวเทียมเป็นเหตุให้ 36 เว็บไซต์ภายในประเทศ และเว็บไซต์ดาวเทียมต่างประเทศ 15 ประเทศ ใช้งานไม่ได้ อีกทั้งระงับการเสนอข่าว หรือรายการทางวิทยุโทรทัศน์ และสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมพีเพิลแชนแนล (PTV) ซึ่งเป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลที่รัฐธรรมนูญรับรอง และการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
สถานะล่าสุด ไต่สวนข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน
ทั้งหมดนี้คือข้อกล่าวหาที่อยู่ระหว่างดำเนินคดีของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่อ “สุเทพ” และ “อภิสิทธิ์” ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลล่าสุดพบว่า บางเรื่องถูกยกคำ บางเรื่องก็อยู่ในชั้นไต่สวนข้อเท็จจริง
โดยในส่วนคดีการสั่งการให้มีการสลายการชุมนุม ของ นปช. เบื้องต้นแม้อัยการสูงสุดจะมีคำสั่งฟ้องนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และในฐานะผู้อำนวยการ ศอฉ.ข้อหาพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล จากกรณีที่ ศอฉ. มีคำสั่งใช้กำลังเจ้าหน้าที่ในการขอคืนพื้นที่ จากการชุมนุมของ นปช. ระหว่างเดือนเมษายน ถึง พฤษภาคม 2553
ล่าสุดในช่วงเดือนตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา ป.ป.ช. ยังยืนยันที่จะไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไป ทั้งในประเด็นเรื่องการถอดถอนจากตำแหน่ง และการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ของบุคคลทั้งสอง
แม้เรื่องจะเข้าสู่การพิจารณาคดีของศาลแล้วก็ตาม!
สถานะล่าสุด รวบรวมพยานหลักฐาน
2.กรณีกองทัพบกสั่งซื้อเรือเหาะที่มีราคาสูงกว่าความเป็นจริง
สถานะล่าสุด มีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหารับทราบการที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นองค์คณะไต่สวน
3.กรณีการทุจริตจัดซื้อยานเกราะล้อยางจากยูเครน
สถานะล่าสุด ไต่สวนข้อเท็จจริง และรวบรวมพยานหลักฐาน
4.กรณีส่อว่าทุจริตต่อหน้าที่เกี่ยวกับวิกฤติน้ำมันปาล์ม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายน้ำมันปาล์มแห่งชาติ โดยมีผู้ใกล้ชิดซึ่งเป็นเจ้าของสวนปาล์มและโรงหีบน้ำมันปาล์ม ซึ่งครองตลาดปาล์มถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ของประเทศ ได้ประโยชน์จากวิกฤติราคาน้ำมันปาล์มขาดแคลนอย่างมาก
สถานะล่าสุด มีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหารับทราบการที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นองค์คณะไต่สวน
เรื่องเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและหรือส่อทุจริต จำนวน 1 เรื่อง
1.ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการพิจารณาเรื่องที่คณะกรรมการ .ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในคดีการสลายการชุมนุมฯ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 และชี้มูลความผิด พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ในคดีปล่อยให้ผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงยกพวกเข้าทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุม พันธมิตร ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ โดยมีมติในการประชุมเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2552 ว่าบุคคลทั้ง 3 คนไม่มีความผิด และให้กลับเข้ารับราชการได้ อันเป็นการขัดแย้งกับมติของคณะกรรมการ .ป.ป.ช. และไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ.2542 ทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือผู้กระทำความผิดไม่ให้ได้รับโทษ
สถานะล่าสุด ไต่สวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมตามมติคณะกรรมการ ป.ป.ช.
@นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
เรื่องขอให้ถอดถอนจากตำแหน่ง จำนวน 2 เรื่อง
1. กรณีระหว่างวันที่ 12 เม.ย. – 15 มิ.ย. 2553 ได้ร่วมกันเผยแพร่ข่าวว่า รัฐบาลมีแนวคิดที่จะซื้อดาวเทียมไทยคมคืน ทั้งที่ทราบดีว่าไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากเป็นการดำเนินการนอกอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายบัญญัติ และไม่ได้บรรจุไว้ในนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา อีกทั้งไม่อยู่ในแผนการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลแต่อย่างใด จนทำให้ราคาหุ้นของ บ.ไทยคม จำกัด (มหาชน) มีราคาพุ่งสูงขึ้นและมีการซื้อขายหุ้นในปริมาณ และราคาสูงผิดปกติ
สถานะล่าสุด แจ้งข้อกล่าวหา
2.กรณีกระทำการอันมีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ ส่อว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ส่อว่าใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมาย และฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ในการเห็นชอบผลการประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า สายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ – บางซื่อ สัญญาที่ 1 – 3 และปรับกรอบวงเงินของสัญญาที่ 6 โดยมีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2552
สถานะล่าสุด พิจารณาพยานหลักฐานที่รวบรวมได้
เรื่องเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและหรือส่อทุจริต จำนวน 1 เรื่อง
1.ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2552 ให้มีการออกใบอนุญาตก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่พัฒนาเขตนิคม อุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ทั้งที่ในพื้นที่เป็นโครงการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งทางด้านสภาพสิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ โดยไม่ยึดถือการปฏิบัติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาตรา 67 จนนำไปสู่การฟ้องร้องต่อศาลปกครองกลาง
สถานะล่าสุด แจ้งคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน
ส่วนดคีที่นายอภิสิทธิ์ กับนายสุเทพ ถูกกล่าวหาร่วมกันมีจำนวน 4 เรื่อง
1.มีพฤติการณ์ส่อว่าทุจริตต่อหน้าที่ ส่อว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมาย และฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ดังนี้
- ร่วมกันใช้หรือสั่งการอันเป็นเหตุให้เกิดการกระทำความผิด โดยเกิดการฆาตกรรม บุคคลจนถึงแก่ความตาย จำนวนหลายราย ระหว่างวันที่ 10 เม.ย. – 19 พ.ค. 2553 และไม่ทบทวนวิธีการ หรือหยุดยั้งการกระทำจากเหตุวันที่ 10 เม.ย. 2553 กลับสั่งการให้ดำเนินการเช่นเดิม โดยเฉพาะเหตุการณวันที่ 19 พ.ค. 2553
- แทรกแซงการใช้อำนาจขององค์กรในกระบวนการยุติธรรม “กรณีการชันสูตรพลิกศพ” โดยนำคดีการตายของประชาชนและเจ้าหน้าที่รวมจำนวน 91 ศพ ให้เสนอเป็นคดีพิเศษโดยไม่ดำเนินการทำสำนวนชัดสูตรพลิกศพตามกฎหมาย และจงใจบิดเบือนและเบี่ยงเบนการบังคับการตามกฎหมายในเรื่องชันสูตรพลิกศพ
- ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและระงับเหตุวางเพลิงเผาศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์ แล้วมีการทำร้ายและไล่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงออกจากศูนย์การค้าฯ ทำให้ไม่มีผู้ดับเพลิง
2.มีพฤติการณ์ช่วยเหลือและเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ให้เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม
สถานะล่าสุด การประชุมคณะอนุกรรมการไต่สวนครั้งแรก
3.กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาฯ พ.ศ.2542 ในการดำเนินโครงการ ก่อสร้างสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 หลัง วงเงิน 5,848 ล้านบาท ที่มีบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้รับจ้าง ตามสัญญาเลขที่ ยธ 13/2554 ลว. 25 มี.ค. 2554 โดยยกเลิกแนวทาง การจัดจ้างแบบแยกการเสนอราคาเป็นรายภาค และอนุมัติให้ดำเนินการจัดจ้างรวมการก่อสร้างเป็นแบบสัญญาเดียว อันเป็นการกีดกันและเอื้อประโยชน์ให้กับผู้เสนอราคารายใดรายหนึ่ง
4.ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยภายหลังการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่กรุงเทพมหา นครและปริมณฑล เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2553 ผู้ถูกกล่าวหาได้มีคำสั่งปิดสัญญาณดาวเทียมเป็นเหตุให้ 36 เว็บไซต์ภายในประเทศ และเว็บไซต์ดาวเทียมต่างประเทศ 15 ประเทศ ใช้งานไม่ได้ อีกทั้งระงับการเสนอข่าว หรือรายการทางวิทยุโทรทัศน์ และสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมพีเพิลแชนแนล (PTV) ซึ่งเป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลที่รัฐธรรมนูญรับรอง และการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
สถานะล่าสุด ไต่สวนข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน
ทั้งหมดนี้คือข้อกล่าวหาที่อยู่ระหว่างดำเนินคดีของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่อ “สุเทพ” และ “อภิสิทธิ์” ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลล่าสุดพบว่า บางเรื่องถูกยกคำ บางเรื่องก็อยู่ในชั้นไต่สวนข้อเท็จจริง
โดยในส่วนคดีการสั่งการให้มีการสลายการชุมนุม ของ นปช. เบื้องต้นแม้อัยการสูงสุดจะมีคำสั่งฟ้องนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และในฐานะผู้อำนวยการ ศอฉ.ข้อหาพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล จากกรณีที่ ศอฉ. มีคำสั่งใช้กำลังเจ้าหน้าที่ในการขอคืนพื้นที่ จากการชุมนุมของ นปช. ระหว่างเดือนเมษายน ถึง พฤษภาคม 2553
ล่าสุดในช่วงเดือนตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา ป.ป.ช. ยังยืนยันที่จะไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไป ทั้งในประเด็นเรื่องการถอดถอนจากตำแหน่ง และการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ของบุคคลทั้งสอง
แม้เรื่องจะเข้าสู่การพิจารณาคดีของศาลแล้วก็ตาม!
ยอดผู้ชุมนุม 24 มกราคม 2557
ณ เวลา 11.00 น.
อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 80 คน
คปท. 100 คน
ปปปป. 450 คน
แจ้งวัฒนะ 150 คน
ลาดพร้าว 100 คน
อนุสาวรีย์ชัย 600 คน
ปทุมวัน 500 คน
ราชประสงค์ 200 คน
อโศก 100 คน
สวนลุม 100 คน
พระราม 8 50 คน
ก.พลังงาน 50 คน
ขบวนสุเทพ 600 คน
ยอดรวมทั้งสิ้น 3,010 คน
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar