ภายใต้ระบอบราชาธิปไตยแบใหม่ ( NeoAbsoluteMonarchy )
เทวาหรือซานตาน...ก็ไม่ต่างกัน..เหนือมนุษย์มนา...เหนือฟ้าได้เยี่ยงไร?
เมื่อกษัตริย์ผู้ปกครองประเทศที่ทำตัวไม่เหมาะสม ก็เป็นหน้าที่ของคนไทย ทุกคนภายในประเทศ ที่จะช่วยกันจัดการโค่นล้มระบอบกษัตริย์ลง เพราะแผ่นดินทั้งหมดเป็นของราษฎรไทยทุกคนไม่ใช่ของกษัตริย์ จะมาชุปมือเปิบ ผูกขาดอำนาจสั่งการและเป็นเจ้าของประเทศนี้คนเดียวไม่ได้ ในประเทศอื่นในเอเซีย เช่นลาว เวียตนาม อินเดีย เนปาล พม่า จีน และ ประเทศอื่นๆที่ไม่มีกษัตริย์ประเทศเขาก็อยู่ได้ อย่างสงบสุข สามารถพัฒนาประเทศได้เจริญรุ่งเรืองได้ ไม่จำเป็นต้องมีกษัตริย์ฆาตกรกระหายเลือดไว้
สำหรับสั่งให้ทหารฆ่าประชาชน เหมือนอย่างในประเทศไทย ไม่ต้องรอองค์อินทร์จากฟ้าหรือเทวดาองค์ใด มาสั่งปลดกษัตริย์ออกจากตำแหน่งได้ มีแต่ประชาชนไทยทั้งประเทศเท่านั้นพร้อมใจกันปฎิเสธไม่ยอมรับไม่ต้องการระบอบราชาธิปไตย กษัตริย์ก็อยู่ไม่ได้ .
เทวาหรือซานตาน...ก็ไม่ต่างกัน..เหนือมนุษย์มนา...เหนือฟ้าได้เยี่ยงไร?
โดย แสงตะวัน
๗ เม.ย.๕๘
ภายใต้ระบอบราชาธิปไตยแบบใหม่ ( NeoAbsoluteMonarchy ) เรารู้แจ้งเห็นจริงว่าจอมโจรฆาตกรที่แท้จริง สั่งขัดขวางทำลายระบอบประชาธิปไตยมาตลอดเวลา โดยอยู่เบื้องหลังสั่งให้ทหารยึดอำนาจครั้งแล้วครั้งเล่าทำความเสียหายให้แก่ประเทศชาติและทำร้ายเข่นฆ่าสั่งฆ่าประชาชนมาโดยตลอดนั้นคือ "กษัตริย์ในคราบนักบุญ" ที่เป็นเจ้าของระบอบเผด็จการราชาธิปไตยใช้ปกครองประเทศไทยมาเป็นเวลา ๖๙ ปี (๒๔๘๙-๒๕๕๘)
วันนี้กษัตริย์ไม่สามารถอำพรางทำตัวเป็นสมมุติเทพเทวดาหลอกประชาชนไทยได้อีกต่อไปแล้ว เพราะหัวโขนรูปชฎาที่ครอบหน้าไว้ได้ถูกถอดออกให้ประชาชนไทยทั้งภายในประเทศและต่างประเทศทั่วโลกได้เห็นรับรู้ความจริง โดยเฉพาะครั้งล่าสุดจากการกระทำอย่างโจ่งแจ้ง เมื่อ๒๒ พ.ค.๕๗ ที่ให้ทหารยึดอำนาจรัฐจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และวันนี้คนไทยรู้ความจริงว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังสั่งการให้ทหารฆ่าประชาชนที่มาชุมนุมมือเปล่าเมื่อปี๒๕๕๓ อย่างโหดเหี้ยมอำมหิต๙๙ ศพที่นับได้ และบาดเจ็บเป็นจำนวนหลายพัน หายสาบสูญไปเป็นศพไม่มีญาติอีกนับไม่ถ้วน มันคือผลงานจากใบสั่งของกษัตริย์ผู้เป็นเจ้าของระบอบราชาธิปไตยแบบใหม่นั่นเอง
ดังนั้นกษัตริย์จึงไม่ใช่เทวดาฟ้าดินที่ไหน แค่เป็น "เทวดาในร่างคน...เข่นฆ่าคนดั่งซาตาน " นับเป็นการกระทำของคนธรรมดาที่เป็นฆาตกรโดยสันดาน เริ่มจากเรื่องราวในอดีตฆ่าพี่ชายแท้ๆของตนเอง ที่มาของคำว่า
"๙มิถุนา ๙ฆ่า๘" น้องฆ่าพี่ขึ้นนั่งบัลลังก์ เป็นกษัตริย์รัชกาลที่๙ เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๙ ซึ่งขณะนั้นมีอายุเพียง ๑๘ ปี ก่อนหน้านั้นเขายังเป็นเพียงเด็กชายเล็กที่วิ่งตามพี่ชายคือ กษัตริย์อานันทมหิดลในเวลานั้น จากเด็กชายเล็กเมื่อขึ้นเป็นกษัตริย์ที่มีแม่เป็นเพียงสามัญชนคนธรรมดาที่"ทะเยอทะยานกระหายอำนาจ" อยากให้ลูกชายทั้งสองคนได้เป็นกษัตริย์ โดยสอนให้ลูกเป็นคนเห็นแก่ตัวทรยศคตโกงต่อประเทศชาติ อาศัยฐานะการเป็นกษัตริย์ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย ยึดครองผูกขาดรวมศูนย์อำนาจสั่งการทั้งหมดไว้ในมือคนเดียว ทั้งการเมือง การเศรษฐกิจ การทหาร ทางศาลทั้งระบบมาเป็นอำนาจภายใต้คำสั่งของกษัตริย์ สำหรับใช้จัดการกับฝ่ายศัตรู กษัตริย์จึงมัวเมาเหลิงอำนาจ เป็นเหลือบศักดินากาฝากสังคม ทำนาบนหลังคน เสพสุข และร่ำรวยมหาศาลกลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก ฉนั้นจึงไม่ใช่สมมุติเทพเทวดาฟ้าดินมาจากไหนหากเป็นเด็กมาจากครอบครัวที่แม่เป็นเพียงสามัญชนคนธรรมดาเท่านั้นเอง
ภายใต้ระบอบราชาธิปไตยแบบใหม่ ( NeoAbsoluteMonarchy ) เรารู้แจ้งเห็นจริงว่าจอมโจรฆาตกรที่แท้จริง สั่งขัดขวางทำลายระบอบประชาธิปไตยมาตลอดเวลา โดยอยู่เบื้องหลังสั่งให้ทหารยึดอำนาจครั้งแล้วครั้งเล่าทำความเสียหายให้แก่ประเทศชาติและทำร้ายเข่นฆ่าสั่งฆ่าประชาชนมาโดยตลอดนั้นคือ "กษัตริย์ในคราบนักบุญ" ที่เป็นเจ้าของระบอบเผด็จการราชาธิปไตยใช้ปกครองประเทศไทยมาเป็นเวลา ๖๙ ปี (๒๔๘๙-๒๕๕๘)
วันนี้กษัตริย์ไม่สามารถอำพรางทำตัวเป็นสมมุติเทพเทวดาหลอกประชาชนไทยได้อีกต่อไปแล้ว เพราะหัวโขนรูปชฎาที่ครอบหน้าไว้ได้ถูกถอดออกให้ประชาชนไทยทั้งภายในประเทศและต่างประเทศทั่วโลกได้เห็นรับรู้ความจริง โดยเฉพาะครั้งล่าสุดจากการกระทำอย่างโจ่งแจ้ง เมื่อ๒๒ พ.ค.๕๗ ที่ให้ทหารยึดอำนาจรัฐจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และวันนี้คนไทยรู้ความจริงว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังสั่งการให้ทหารฆ่าประชาชนที่มาชุมนุมมือเปล่าเมื่อปี๒๕๕๓ อย่างโหดเหี้ยมอำมหิต๙๙ ศพที่นับได้ และบาดเจ็บเป็นจำนวนหลายพัน หายสาบสูญไปเป็นศพไม่มีญาติอีกนับไม่ถ้วน มันคือผลงานจากใบสั่งของกษัตริย์ผู้เป็นเจ้าของระบอบราชาธิปไตยแบบใหม่นั่นเอง
ดังนั้นกษัตริย์จึงไม่ใช่เทวดาฟ้าดินที่ไหน แค่เป็น "เทวดาในร่างคน...เข่นฆ่าคนดั่งซาตาน " นับเป็นการกระทำของคนธรรมดาที่เป็นฆาตกรโดยสันดาน เริ่มจากเรื่องราวในอดีตฆ่าพี่ชายแท้ๆของตนเอง ที่มาของคำว่า
"๙มิถุนา ๙ฆ่า๘" น้องฆ่าพี่ขึ้นนั่งบัลลังก์ เป็นกษัตริย์รัชกาลที่๙ เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๙ ซึ่งขณะนั้นมีอายุเพียง ๑๘ ปี ก่อนหน้านั้นเขายังเป็นเพียงเด็กชายเล็กที่วิ่งตามพี่ชายคือ กษัตริย์อานันทมหิดลในเวลานั้น จากเด็กชายเล็กเมื่อขึ้นเป็นกษัตริย์ที่มีแม่เป็นเพียงสามัญชนคนธรรมดาที่"ทะเยอทะยานกระหายอำนาจ" อยากให้ลูกชายทั้งสองคนได้เป็นกษัตริย์ โดยสอนให้ลูกเป็นคนเห็นแก่ตัวทรยศคตโกงต่อประเทศชาติ อาศัยฐานะการเป็นกษัตริย์ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย ยึดครองผูกขาดรวมศูนย์อำนาจสั่งการทั้งหมดไว้ในมือคนเดียว ทั้งการเมือง การเศรษฐกิจ การทหาร ทางศาลทั้งระบบมาเป็นอำนาจภายใต้คำสั่งของกษัตริย์ สำหรับใช้จัดการกับฝ่ายศัตรู กษัตริย์จึงมัวเมาเหลิงอำนาจ เป็นเหลือบศักดินากาฝากสังคม ทำนาบนหลังคน เสพสุข และร่ำรวยมหาศาลกลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก ฉนั้นจึงไม่ใช่สมมุติเทพเทวดาฟ้าดินมาจากไหนหากเป็นเด็กมาจากครอบครัวที่แม่เป็นเพียงสามัญชนคนธรรมดาเท่านั้นเอง
เมื่อกษัตริย์ผู้ปกครองประเทศที่ทำตัวไม่เหมาะสม ก็เป็นหน้าที่ของคนไทย ทุกคนภายในประเทศ ที่จะช่วยกันจัดการโค่นล้มระบอบกษัตริย์ลง เพราะแผ่นดินทั้งหมดเป็นของราษฎรไทยทุกคนไม่ใช่ของกษัตริย์ จะมาชุปมือเปิบ ผูกขาดอำนาจสั่งการและเป็นเจ้าของประเทศนี้คนเดียวไม่ได้ ในประเทศอื่นในเอเซีย เช่นลาว เวียตนาม อินเดีย เนปาล พม่า จีน และ ประเทศอื่นๆที่ไม่มีกษัตริย์ประเทศเขาก็อยู่ได้ อย่างสงบสุข สามารถพัฒนาประเทศได้เจริญรุ่งเรืองได้ ไม่จำเป็นต้องมีกษัตริย์ฆาตกรกระหายเลือดไว้
สำหรับสั่งให้ทหารฆ่าประชาชน เหมือนอย่างในประเทศไทย ไม่ต้องรอองค์อินทร์จากฟ้าหรือเทวดาองค์ใด มาสั่งปลดกษัตริย์ออกจากตำแหน่งได้ มีแต่ประชาชนไทยทั้งประเทศเท่านั้นพร้อมใจกันปฎิเสธไม่ยอมรับไม่ต้องการระบอบราชาธิปไตย กษัตริย์ก็อยู่ไม่ได้ .
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar