torsdag 5 november 2015

ม.44 สู่ผู้นำคุณธรรมโลก ....หมู่บ้านศีล 5 ตำบลละ 5 ล้าน และการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วน สร้างชาติเป็นมหาอำนาจทางคุณธรรม.....โดยไม่ต้องมีเลือกตั้ง ...




ข่าวสดออนไลน์
คอลัมน์ ใบตองแห้ง


วันที่ 05 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 22:21 น.

น่าภูมิใจจัง คณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ กำลังจะส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านคุณธรรมของประชาคมโลก! เห็นไหม ไม่ต้องมีเลือกตั้ง คนไทยก็ไม่แพ้ชาติใด เรากำลังจะใช้ ม.44 หมู่บ้านศีล 5 ตำบลละ 5 ล้าน และการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วน สร้างชาติเป็นมหาอำนาจทางคุณธรรม

ประเทศไทยกำลังก้าวหน้า ขณะที่พม่ากำลังถอยหลัง กลับไปสู่เลือกตั้งแบบฝรั่ง น่าสงสารจัง

ประเทศไทยจะเป็นแบบอย่างไม่เหมือนใคร สามารถปลูกฝังประชาชนให้มีศีลธรรมด้วยผู้นำที่มาจากคณะปฏิวัติ ไม่ประหลาดหรอก เพราะประเทศนี้ต้องใช้ตรรกะตาลปัตร ผู้นำที่ประชาชนเลือก มีแต่เลวชั่วโกง ผู้นำที่มาจากรัฐประหาร กลับเป็นคนดีคนซื่อ รักชาติบ้านเมือง สามารถสอนสั่งคนทั้งประเทศ "จงทำดี มีศีลธรรม ถือความสัตย์"

เมื่อดอกบัวผุดจากปากกระบอกปืน การปกครองด้วย คุณธรรมจึงใม่จำเป็นต้องพะวงเรื่องเสรีภาพ สิทธิมนุษยชน ไม่เคยมีรัฐประหารที่ไหนในโลก ปกครองมาปีครึ่งยังไม่ทำให้ใครตาย เพราะผู้นำมีเมตตาธรรมไม่โหดร้าย แต่ก็ไม่เคยมีรัฐประหารที่ไหนในโลก ที่แค่ใส่เสื้อแดงเข้าไปนั่งบิ๊กซีวันอาทิตย์ แล้วถูกเรียกรายงานตัวในค่ายทหาร

เมื่อประชาชนเชื่อถือความสัตย์ซื่อ ของผู้นำ ก็เป็นโอกาส ที่ประเทศจะกวาดล้าง "ปราบโกง" ด้วยอำนาจเบ็ดเสร็จ พ้นช่วงนี้ไป ค่อยพูดกันใหม่เรื่องความโปร่งใส เรื่องอำนาจ ที่ตรวจสอบถ่วงดุลวิพากษ์วิจารณ์ได้ ประชาชนมีส่วนร่วม ฯลฯ ขณะที่ GT200 เว้นวรรคไว้ เพราะเป็นเรื่องลี้ลับราวกับโหรดูดวงเมือง

ถึงอย่างไร เราก็เป็นรัฐประหารที่เคารพกฎหมาย ผู้นำไม่เคย ทำตามอำเภอใจ ผู้นำเคารพกฎหมาย และเรียกร้องให้ประชาชน เคารพกฎหมาย ซึ่งกฎหมายสูงสุดในวันนี้คือมาตรา 44

เราเป็นรัฐประหารที่เคารพ กระบวนการยุติธรรม แม้เป็นรัฏฐาธิปัตย์ก็ไม่ก้าวล่วงอำนาจศาล องค์กรอิสระ ไม่ยุบศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งที่ไม่มีรัฐธรรมนูญ ไม่ยุบ กกต.ทั้งที่ไม่มี เลือกตั้ง ป.ป.ช.ทำหน้าที่ไต่สวนนักการเมือง ส่ง สนช.ถอดถอน ตามกระบวนการ ไม่เกี่ยวอะไรกับ คสช.แม้ คสช.ตั้ง สนช. อัยการสูงสุดสั่งฟ้องวันเดียวกันก็เรื่องบังเอิญไม่เกี่ยวกัน แม้ คสช.ปลด-ตั้งอัยการสูงสุด

สนช.ตั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้ง ป.ป.ช.ชุดใหม่ อยู่ไปอีก 9 ปี ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ คสช.

รัฐบาลทำตามหน้าที่ เมื่อมีความเสียหายจากโครงการจำนำข้าว ก็ต้องเรียกให้ชดใช้ตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดฯ โดยยังมีศาลปกครองกลั่นกรองอีกชั้นหนึ่ง "ถ้าไม่ได้ทำผิด ก็ไม่เห็นต้องกลัวอะไร"

เพียงแต่ขณะเดียวกัน คสช.ก็ต้องใช้มาตรา 44 คุ้มครองคณะทำงานซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบความเสียหายจำนำข้าว "โดยสุจริต" ไม่ให้ถูกฟ้องแพ่ง อาญา วินัย อย่าย้อนสิว่า "ถ้าสุจริตไม่เห็นต้องกลัวอะไร" ประโยคนี้มีไว้ใช้กับคนผิด คนสุจริตอาจถูก "อำนาจมืด" รังแกได้ จึงต้องใช้มาตรา 44 ป้องกันไว้ ไม่ให้ต้องรับผิดตามกระบวนการยุติธรรม

เรามีผู้นำที่ห่วงใยเมตตา ประชาชนทุกฝ่าย จึงอยากให้ เชื่อฟัง "ขอเวลาอีกไม่นาน" อุตส่าห์พูดอุตส่าห์สอนยังไม่เลิกขัดแย้ง ยังไม่เลิกต่อต้าน จนหงุดหงิดด้วยความหวังดี แค่พูดว่า ถ้าประเทศยังไม่สงบเรียบร้อย "หากต้องปิดประเทศก็ต้องทำ" พูดในสภายังเอามาขยายความข้างนอกให้เสียหาย

ประเทศไทยจะก้าวไปข้างหน้า ประชาชนต้องอยู่ในโอวาท ไม่งั้นก็ติด "กับดักประชาธิปไตย" ประชาธิปไตยฝรั่งไม่สามารถนำไทยไปสู่ "ผู้นำคุณธรรมโลก" เพราะประชาธิปไตยฝรั่งสอนว่าประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจ ทำให้เรียกร้องต่อสู้กันจนบ้านเมืองวุ่นวาย ประชาธิปไตยฝรั่งสอนให้คนเท่ากัน ทำให้ไม่รู้จักเคารพผู้หลักผู้ใหญ่ คนไร้การศึกษามีหนึ่งเสียงเท่าคนดีมีการศึกษา ประชาธิปไตยฝรั่งสอนให้เรียกร้องเสรีภาพ อ้างสิทธิมนุษยชน ไม่เชื่อฟังคำสั่งแล้วยังไม่ยอมให้ปรับทัศนคติ จะปล่อยไว้เป็นพ่อหรือไง

ประเทศไทยต้องปกครองด้วยศีลธรรม สำคัญกว่าการปกครองด้วยระบบกฎหมาย (Rules of Law) เพราะถ้า คนไทยไม่รู้จักแยกแยะดีชั่ว กฎหมายก็ไม่มีประโยชน์อะไร

ฉะนั้น การปกครองที่เหมาะสมกับสังคมไทยคือ "ประชาธิปไตยแบบจัดสรรปันส่วน" ที่ไม่ใช่แค่ระบบคิดคะแนนเลือกตั้งแบบ "แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร" แต่คือระบอบที่ต้องมีคนดี มีผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้มีคุณธรรม สถาบันกองทัพ เป็นเสาหลักดูแล จัดสรรปันส่วน ว่าประชาชนควรมีอำนาจเท่าไร

ถ้าไม่ปกครองด้วยระบอบนี้ เลือกตั้งไปก็ไลฟ์บอย คนดีมีศีลธรรมก็ยึดอำนาจใหม่

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar