torsdag 3 december 2015

แพคอนกรีตไม่แตก ....แต่อาจถูกพลิกคว่ำจมใต้บาดาล.. ถ้าไม่ระมัดระวังคงไปไม่ถึงฝั่ง.?..





แพคอนกรีตไม่แตก คอลัมน์ ใบตองแห้ง
วันที่ 03 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 23:07 น.

คลื่นลมโหมกระหน่ำ แต่ประชาชนไม่ต้องกังวล เราไม่ได้อยู่บนเรือแป๊ะ เราอยู่บนแพขนานยนต์ รับประกันไม่ล่ม เพราะใช้คอนกรีตเสริมเหล็กหลายชั้นมั่นคง ขอเพียงอย่าติเรือทั้งโกลน อย่าติโขนยังไม่ทรงเครื่อง อย่าติลิเกตลกตามท้องเรื่อง ยังแต่งตัวไม่เสร็จจะสวยได้อย่างไร อย่าทำแพแตกเดี๋ยวตายกันหมด เคยฟังนิทานอีสปไหม

แต่เอ๊ะ นิทานอีสปไม่มีหัวโขนนะ นี่คำพังเพยไทย ซึ่งมีให้เลือกใช้ตามสถานการณ์ ช่วงนี้มีฮิตบางคำเช่น เต่าใหญ่ไข่กลบ น้ำลดตอผุด กินปูนร้อนท้อง ขว้างงูไม่พ้นคอ คอเป็นเอ็น ฯลฯ พวกอาจารย์มหาวิทยาลัยน่าจะเอาไปใช้สอนเด็กให้เป็นคนดีบ้าง อย่าเอาแต่ทฤษฎีฝรั่งเลย

รัฐบาล คสช.เจอมรสุมอุทยานราชภักดิ์ ถามว่าหนักไหม ก็น่าประหลาดใจเพราะเรื่องเล็กไม่น่าเป็นเรื่องใหญ่ ไม่น่าต้องลั่นวาจา "ประหารชีวิต 7 ชั่วโคตรไหม" ไม่น่าต้องคุมตัว"ไอ้ตู่ไอ้เต้น"จนรองนายกฯ ติงว่าบานปลาย เพราะโตๆ กันแล้วน่าจะคิดเองได้

พล.อ.อุดมเดช คิดเองได้ ประชาชนก็คิดเองได้ จริงไหม ประชาชนไม่ใช่เด็กอมมือจะได้ชี้นกเป็นไก่อู คนไทยรู้จักฟังหูไว้หู ไม่ใช่ฟังไอ้ตู่แล้วจะปักใจเชื่อว่าทหารทุจริต ไม่ใช่ฟังรายการคืนความสุขแล้วเชื่อว่าคนติดคุกวางแผนปล้นค่ายทหาร ค่ายทหารนะ ไม่ใช่มหาวิทยาลัย ทุกเรื่องต้องไตร่ตรองด้วยเหตุผล

เพียงแต่ฟัง พล.ร.อ.พะจุณณ์ แล้วก็งง นี่มันเกิดอะไร

สถานการณ์ วันนี้เป็นห่วง คสช.ไหม ไม่ห่วงได้ไง ท่านกำลังต่อแพให้เราไปด้วยกัน ถ้าแพแตกเราตายหมด ทั้งผู้เฒ่าผู้แก่ลูกเล็กเด็กแดง แต่ท่านรอด (อ้าว) เพราะท่านว่ายน้ำเป็น ฉะนั้นไม่ต้องห่วงท่าน แต่ถ้าห่วงชีวิตตัวเองก็ต้องช่วยกันรักษาแพ (ตัวอย่างเช่น คนรวยต้องช่วยใช้การบินไทย)

ว่าที่จริงเรื่องอุทยานราชภักดิ์ ไม่น่ามีน้ำหนักทำลายคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างหนา ซึ่งอยู่บนเอกภาพของกองทัพ และรัฏฐาธิปัตย์ ม.44 หรืออย่างน้อยก็น่าจะเบากว่านี้ ถ้าในทางยุทธวิธี ทหารรู้จักรับมือ "สงครามการเมือง" ไม่พูดไม่ทำอะไรให้เรื่องบานปลาย (รู้จักพูดหล่อๆ ไหม หัดดูมาร์คเสียบ้าง)

กรณีอุทยานราชภักดิ์ ถ้าพูดอย่างรวบรัด ก็ต้องบอกว่าเป็น "อุบัติเหตุ" สะดุดขาตัวเอง แต่ถ้ายกระดับขึ้นมองมุมกว้าง ก็ต้องบอกว่าเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ทุกรัฐบาล เมื่ออยู่นานไประดับหนึ่ง ก็มักสะดุดเรื่องอื้อฉาว ถูกกล่าวหาโดยกระแสสังคม (แล้วก็ถูกรุมกินโต๊ะ) ขึ้นกับแต่ละรัฐบาลจะรับมืออย่างไร

เพียงแต่ นี่เป็นรัฐบาลทหาร ที่แม้ดูเหมือนแข็งปั๋ง มีอำนาจ ห้ามวิพากษ์วิจารณ์ แต่ก็มีด้านกลับเช่นกัน ทั้งความไม่ถนัดในการรับมือกระแสสังคม ทั้งความเปราะบางของอำนาจ

อะไรคือความเปราะบางของอำนาจ "ความชอบธรรม" ไงครับ เปล่า ไม่ได้ท่องสูตรว่าต้องมาจากเลือกตั้ง คสช.ไม่ใช่ปกครองได้ด้วยปืนอย่างเดียว ฐานอำนาจ คสช.ก็มาจากฉันทานุมัติ ทั้งโดยจำยอมและยอมรับของสังคมเช่นกัน

พูดง่ายๆ คสช.เข้ามายึดอำนาจในวันที่สังคมอับจน ไม่มีทางออก (อันที่จริงมี แต่มีคนปิดถนนปิดเมืองปิดทางออก) ในภาวะเช่นนั้น ไม่ต้องแพขนานยนต์หรอก แค่ขอนไม้ผุๆ ลอยมาผู้คนก็รักษาชีวิตไว้ก่อน ภาวะจำยอม ความกลัว "ผีเลือกตั้ง" กลัวความแตกแยก สร้างต้นทุนขั้นต่ำให้ คสช.มี "ความชอบธรรม" ที่จะใช้อำนาจรักษาความสงบ "ชั่วคราว" เพื่อหาทางออก

เพียงแต่ปี ครึ่งผ่านไป คสช.ก็ยังไม่สามารถหาทางออกได้ ข้ามน้ำไม่ได้ จากต้นทุนที่สังคมมอบให้ "ชั่วคราว" ก็กลายเป็นอยู่ยาว ต้องเข้าไปจัดการปัญหาต่างๆ ทั้งที่ต้นทุนมีไม่เพียงพอ มีแต่ ม.44 ที่ใช้จนไม่รู้จะใช้ยังไง ไอ้ตู่ไอ้เต้นเซ็นไม่รู้กี่ใบไม่เห็นกลัว

พอ สะดุดเรื่องอื้อฉาว อำนาจที่เปราะบางนี้ก็ใช้ไม่ได้ ยิ่งใช้ยิ่งบานปลาย พูดง่ายๆ ท่านบอกให้คน "เคารพกฎหมาย" คือ ม.44 ถ้าบอกว่ามีคนจะก่อม็อบก่อความวุ่นวายก็พออ้างได้ แต่เมื่อมีคนตรวจสอบกองทัพแล้วใช้ ม.44 จะอธิบายอย่างไร

มองข้ามช็อต เรื่องอุทยาน เหลือเวลา 4 เดือนร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ยังมองไม่เห็นว่าจะข้ามน้ำได้อย่างไร ขณะที่ลอยแพเคว้งคว้างไป ก็อาจสะดุดตอใหม่ๆ ทุกเมื่อ

ผมเชื่อครับ ไม่มีใครล้ม คสช.ได้หรอก นักวิชาการ นักศึกษา นปช.จะมีน้ำยาอะไร แพคอนกรีตเสริมเหล็กไม่มีวันแตก แต่ถ้าลอยๆๆๆๆ ไม่ถึงฝั่งซักที ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar