söndag 30 september 2012

"โง่กว่าควายและรถไถนา"..คือ นายอดิศร์ อาจมนิด้า.... เรื่องจำนำข้าว.... ขายข้าวได้ราคาดี...ทำไมพวกนักวิชาการที่ไม่เคยทำนาไม่รู้จักอาชีพของชาวนาต้องเดือดร้อนออกมาต่อต้าน? เป็นคำถามที่มีคำตอบ เพราะพวกเขาเป็นทาสรับใช้นายทุนที่ขูดรีดเอารัดเอาเปรียบประชาชนกลัวจะเสียผลประโยชน์!








ภาพจาก  Thai  E- News
ทุนผูกขาดศักดินาเหนือรัฐ ที่มีอิทธิพลอเมริกาครอบงำ บรรยาย
ภาพ--จะกดขี่บีบคั้น และ ขูดรีด ไปถึงไหน?


 
โดย   Beesam

เรื่องจำนำข้าวนี่มันต้องดีแน่ ๆ ไม่งั้นพวกอัปรีย์คงไม่ดิ้นกันขนาดนี้หรอก

ไม่ได้มองทางหลักการอะไรหรอกนะครับ เพราะไม่ต้องเถียงอะไรกับพวกที่ดิ้นพราด ๆ กันอยู่ตอนนี้มากสักเท่าไหร่

เนื่องจากได้เห็นข้อมูลที่พยายามอ้างเอามาดิ้นต่อต้านการจำนำข้าวกันนั้น มันไม่เข้าท่า ไม่มีเหตุผลซักอย่าง

อย่างพวกอาจารย์นิด้า แหล่งรวมพวกนักวิชาการเผด็จการนี่ ออกมาประกาศจะฟ้องศาลปกครองบ้าง ผู้ตรวจการบ้าง ศาลรัฐธรรมนูญ บ้าง อ้างว่าผิดรัฐธรรมนูญ ขัดกับหลักการค้าเสรีที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ผมก็ไม่เห็นเขาไปบังคับชาวนาทุกคนว่าต้องจำนำข้าวนี่ครับ ใครไม่อยากจำนำก็ไม่ต้องไปจำนำ เก็บข้าวเอาไว้เองก็ได้ มันขัดกับหลักการค้าเสรีตรงไหนวะ หรือเป็นอาจารย์นิด้านี่มันต้องแสดงความเห็นแบบห่วยแตกอย่างนี้เท่านั้นใช่ ไหม ถึงจะได้เป็นคณบดี ศ. รศ.กัน เพราะหัวหน้าใหญ่ที่นั่นสั่งไว้ว่า ต้องกวนตีนชาวบ้านแบบนี้แล้วจะได้ดี

หรือพวกที่ชอบออกมาโวยวายว่า ไทยจะเสียตำแหน่งผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดของโลกไป ถามว่ามันจะตายหรือ ถ้าไม่ได้เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดของโลกน่ะ ไทยเคยส่งออกน้อยกว่าประเทศอื่นอย่างอินเดีย จีน มาหลายปีแล้วในสมัยก่อน ไม่เห็นจะมีใครโวย แล้วทำไมไม่พูดให้ครบล่ะ ว่าถึงแม้จะไม่ได้ส่งออกข้าวมากที่สุดในโลก แต่รายรับเป็นเงินดอลล่าร์ หรือยูโร ที่ผู้ส่งออกไทยจะได้รับนั้นมันยังมากกว่ารายรับจากการขายข้าวของเวียดนาม เยอะ เพราะเราขายแพงกว่า และแพงกว่าอย่างนี้มานานแล้วด้วย แต่ก็ยังดันทะลึ่งขายได้ ขนาดแพงกว่าข้าวเวียดนามตันละหลายสิบเหรียญสหรัฐมาตลอด จะบอกให้ว่าสหรัฐขายข้าวได้แค่ปีละสามล้านตัน แต่ข้าวอเมริกันนั้นราคาสูงที่สุดในโลก ราคาที่ขายสามล้านตันนั้นเกือบเท่าราคาที่ไทยขายสี่ล้านตัน และเวียดนามขายเกือบห้าล้านตัน ( ไปดูได้จากเวบไซท์เรื่องราคาข้าวในตลาดโลก ถามอากู๋ได้เลย)

นี่หมดมุขก็หันมาด่าชาวนาก็ยังมี ว่าขี้เกียจ ให้รัฐบาลช่วยเป็นหลัก รัฐบาลช่วยเกษตรกรชาวนานี่พ่อแม่พวกมึงจะตายโหงตายห่ากันหรือ เวลาราคายางตกเห็นวิ่งมาด่ารัฐบาลว่าไม่มีฝีมือ ตอนนี้ราคายางสูงขึ้นมาเกินร้อยบาทแล้ว ยังไม่เห็นหมาสักตัวที่เป็น สส. ปชป.ทั้งกลุ่มยกขบวนมากวนตีนนายก ฯ แม่งออกมาของคุณรัฐบาลสักคำว่าทำได้
เรื่องของเรื่องมันก็แค่ พวกสลิ่ม อำมาตย์ ปชป มันกลัว ว่าชาวนาจะรักนายกรัฐมนตรี รักพรรคเพื่อไทย รักรัฐบาล ที่มีนโยบายทำให้ชาวนาหายจน ไม่ต้องทนโดนตกเขียวจากพ่อค้าที่พวกนั้นมันช่วยอยู่ เลือกตั้งครั้งต่อ ๆ ไปมันกลัวว่าจะจมดินมากกว่านี้เท่านั้นแหละ แม่งถึงได้ดิ้นกันพราด ๆ แบบนี้


เพิ่มเติมครับ

ผมเข้าใจท่านที่กังวลกับบทบัญญัติเรื่องการประกอบกิจการที่เป็นการแข่งขัน กับเอกชน แต่อยากนำเสนอว่า การรับจำนำข้าวนั้น ไม่ใช่การประกอบกิจการที่เป็นการแข่งขันกับเอกชนแน่นอน

การจำนำนั้นกฎหมายระบุว่า คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่า ผู้จำนำ ส่งมอบ สังหาริมทรัพย์ให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งเป็นผู้ครอบครองเรียกว่า ผู้รับจำนำ เพื่อประกันการชำระหนี้ ทรัพย์สินที่จำนำได้คือ ทรัพย์สินที่สามารถเคลื่อนที่ได้ ข้าวนั้นเป็นสังหาริมทรัพย์ที่เคลื่อนที่ได้และที่รัฐบาลรับจำนำนั้น ก็เป็นเมล็ดเรียบร้อยแล้ว

ดังนั้น ต้องดูว่าปัจจุบันเอกชนทำกิจการอะไร เขารับจำนำเมล็ดข้าวหรือเปล่า ปรากฏว่าไม่มีการดำเนินกิจกรรมนี้ หรือมีแต่ไม่เปิดเผยก็ไม่ทราบ แต่ถ้ามีจริง ๆ พวกเขาเท่านั้นที่จะฟ้องร้องรัฐบาลว่าแข่งขันกับเอกชนได้ ไม่ใช่พวกอาจมที่นิด้าและที่อื่น ๆ ซึ่งรับจ๊อบพ่อต้าข้าวมาจะเสือกมาฟ้องครับ ไม่ได้เป็นผู้เสียหายแต่ประการใด

เพราะกิจการของเอกชนคือการรับซื้อข้าวขาดเลยจากชาวนา การปล่อยเงินกู้เพื่อตกเขียวนั้น เป็นสัญญากู้ยืมเงินทั่วไปครับ ไม่ใช่การรับจำนำข้าว เพราะมันยังไม่ได้มีสังหาริมทรัพย์คือเมล็ดข้าวเกิดขึ้น ยังเป็นต้นข้าวอยู่ แต่การรับจำนำข้าวนั้น คือการเอาเมล็ดข้าวเก็บเกี่ยวแล้วมาจำนำเป็นประกันการชำระหนี้ โรงสัทั่วไปของเอกชนไม่ได้รับจำนำข้าว แต่รับซื้อข้าวขาดจากชาวนาเลย

ธกส.ก็ไม่ได้รับจำนำข้่าว แต่ปล่อยกู้ตามสัญญากู้ยืมเงินทั่วไป โดยมีที่นาเป็นประกันการกู้ยืม เมื่อชาวนาขายข้าวให้โรงสีได้ก็เอาเงินไปไถ่ถอนที่นาคืนจาก ธกส. เรื่องจำนำข้าวนี้จึงไม่ได้เข้าข้อห้ามเรื่องการแข่งขันกับธุรกิจเอกชนที่ รับซื้อข้า​วซึ่งกลุ่มอาจมนิด้าและอีกร้อยกว่าคนมันเอามาอ้างแต่ประการใด



                     บุคคลที่สังคมรังเกียจไม่ควรเอาเป็นตัวอย่าง 

                                                       ภาพจากThai  E -News



 
อดิศร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ลูกหลานอำมาตย์ไม่อยากเห็นชาวนาเงยหน้าอ้าปาก ให้ชาวนาขายข้าวให้อำมาตย์ และนายทุนเกียนละ 8 พัน พวกอำมาตย์ฟันฟรีๆไป 7 พัน ถ้าจำนำข้าว ชาวนาจะได้มากกว่า 1.5 หมื่น มีโอกาสปลดหนี้ มีอนาคตบ้าง อดิศร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา เป็นนักวิชาการเห็นแก่นายทุนหน้าเลือดขูดรีดชาวนา ถึงเวลาแล้ว ที่ชาวนาต้องปฏิวัติ อย่าให้อำมาตย์นายทุนกดขี่อีกต่อไป


หมายเหตุ-   น่าจะให้ควายและรถที่ใช้ไถนาไปสอนหนังสือเป็นนักวิชาการ  เพราะฉลาดกว่าอาจารย์นิด้าคนนี้    ที่ไม่มีสมองไม่รู้จักหน้าที่ของตนเองไปเสือก(ขออนุญาติใช้คำไม่สุภาพ)เรื่องคนอื่นที่ตนเองไม่รู้และไม่ใช่หน้าที่ของตนเอง"โง่กว่าควายและรถไถนา" ที่รู้จักหน้าที่ของตนเองในการทำนา.

ท้ายนี้ขอนำ  จดหมายลูกศิษษ์สอนอาจารย์ มาให้อ่านเปรียบเทียบ.  

จดหมายถึงอาจารย์ 

อาจารย์ครับ ผมหงุดหงิดกับอาจารย์มากเลยครับ อาจารย์ลอง ใช้หัวแม่เท้าด้านขวา คิดต่างสมอง ดูว่าจะไปร้องศาลขั้นตอนไหนดีกว่ากันครับ ผมเอาแค่ตัวอย่างข้าวขาวนะครับ
ต้นทุนการผลิตข้าวนาปี
ที่ รายการ จำนวนเงิน (บาท/ไร่)
1 ค่าเมล็ดพันธุ์ 300
2 ค่าเตรียมดิน 350
3 ค่าปุ๋ยเคมี 980
4 ค่าเช่าที่ดิน 450
5 ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง / หล่อลื่น 150
6 สารกำจัดแมลง / วัชพืช 350
7 ค่าซ่อมแซมอุปกรณ์ 200
8 ค่าดอกเบี้ยเงินกู้ 170
9 ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ 250 หว่านข้าว,หว่านปุ๋ย,ฉีดยา,ขนส่งข้าว
10 ค่าเก็บเกี่ยว 400
รวม 3,600 /ไร่

ต้นทุนการผลิตข้าวนาปรัง
ที่ รายการ จำนวนเงิน(บาท/ไร่)
1 ค่าเมล็ดพันธุ์ 300
2 ค่าเตรียมดิน 350
3 ค่าปุ๋ยเคมี 980
4 ค่าเช่าที่ดิน 450
5 ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง / หล่อลื่น 300
6 สารกำจัดแมลง / วัชพืช 350
7 ค่าซ่อมแซมอุปกรณ์ 200
8 ค่าดอกเบี้ยเงินกู้ 170
9 ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ 200 หว่านข้าว,หว่านปุ๋ย,ฉีดยา,ขนส่งข้าว
10 ค่าเก็บเกี่ยว 400
รวม 3,750 /ไร่
ที่มา กรมส่งเสริมการเกษตร http://www.newwavefarmer.com/forum/index...opic=309.0

เอาแบบสุดๆ ให้ชาวนา กำไรเยอะๆไปเลยนะ ตัดค่าเช่า ค่าดอกเบี้ย เหลือ 3,000 บาท/ไร่
แล้วทำได้ 1 ตัน/ไร่ (ธรรมดาประมาณ 800-880 กก.ต่อไร่)

ต้นทุนข้าว 5 กก = 15 บาท (เอาแบบโปรโมชั่น ไม่มีค่าขนส่งด้วย)
ชาวนาขายข้าวโครงการรับจำนำ 15,000 บาท/ตัน
ข้าว 5 กิโล ขายได้ = 75 บาท
มีกำไรจากการปลูกข้าว 5 กิโล = 60 บาท ต่อ 4 เดือน (แบบสุดๆ ปีละ 3 ครั้ง)
(ชีวิตต้องขึ้นกับโชคชะตา ทั้งภัยจากธรรมชาติ จากสัตว์ วันดีคืนดีอาจเจองูกัดอีก ชีวิตช่างบัดซบจริงๆ)


เจ้าของโรงสีขายข้าว
รับจำนำ 15,000 บาท/ตัน เท่ารัฐบาล (กล้าไหมละ)
ลงทุนค่าสีข้าว ตันละ 500 บาท รวม 15500 บาท /ตัน
ค่าบรรจุถุงข้าว 5 กก. / ถุง = 5 บาท ค่าการตลาด 10 บาท/ถุง
ลงทุนข้าว 5 กก. = 92.5 บาท
ขายข้าวในประเทศ ถุง 5 กก. ถุงละ 120 บาท (จะปรับอีกแล้วนี่)
มีกำไรจากการขายข้าว 5 กิโล = 27.5 บาท ขายได้ทุกวันทั้งปี
(พวกคุณลงทุนกันก็แค่ช่วงแรก ตอนนี้ก็นอนกางพุงกันหมด ชีวิตช่างมีความสุขฉิบหาย)

เจ้าของร้านขายอาหาร
ข้าว 1 กิโล = 15 จาน ขายจานละ 5 บาท (หายากมากแล้ว) = 75 บาท/กิโล
ข้าวถุง 5 กิโล = 75 จาน ขายจานละ 5 บาท = 375 บาท/ถุง
ลงทุนข้าวถุง 5 กิโล 120 บาท +100 (ค่าหม้อ+ไฟหุง+ค่าล้างจาน) = 220 บาท
มีกำไรจากการขายข้าว 5 กิโล = 155 บาท ขายได้ทุกวัน
( วันดีคืนดีท่านก็ขึ้นราคาข้าวราดแกง ทั้งที่ต้นทุนมันไม่ได้พุ่งขึ้นเลย )

เป็นไงครับ อาจารย์ ท่านทานข้าวหรือแดกหญ้าครับ ถึงจะไปร้องศาล ปล่อยให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้นบ้าง แค่เศษของพวกท่านเถอะครับ

ป.ล. หากท่านถูกชาวนากระทืบตาย ผมขอไม่เสียน้ำตาให้อาจารย์นะครับ

ด้วยความห่วงใยในสุขภาพ ปากจะทำให้ร่างกายส่วนอื่นเดือดร้อนนะครับ

โกมินทร์

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar