torsdag 13 juni 2013

.ศาลฎีกาพิพากษากลับยกฟ้อง.ผู้บริสุทธิ์....บอกอะไรแก่ประชาชน?... ฤาเวลาและโอกาสที่ฝ่ายประชาธิปไตยรอคอยใกล้จะมาถึงแล้ว...ถนนประชาธิปไตยทุกสาย เดินหน้าใกล้ถึงจุดหมายปลายทางเข้ามาทุกขณะแล้ว...

ถึงเวลาแล้วหรือยัง?....ที่ระบบยุติธรรมไทยจะทำกฎหมายให้เป็นกฎหมายที่ยุติธรรม.....  ฝากถามศาลยุติธรรมไทย....ทราบหรือไม่ว่ามีผู้บริสุทธิ์จำนวนอีกเท่าไหร่ที่ถูกใส่ร้ายโดยไม่ได้ทำผิดถูกตัดสินจำคุกด้วยความอยุติธรรม " ตามใบสั่ง " ของกฎเถื่อนเผด็จการอำมาตย์ชั่ว.....





ศาลฎีกาพิพากษากลับ ยกฟ้อง 'วาสนา-ปริญญา' จัดเลือกตั้งมิชอบ
ศาลฎีกา พิพากษากลับ ยกฟ้อง อดีต กกต."วาสนา-ปริญญา" กรณีจัดเลือกตั้งมิชอบเมื่อปี 2549 ชี้ ถาวร เสนเนียม ในฐานะโจทก์ ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง
วันที่ 13 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลอาญารัชดา คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาได้นั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ฟ้องสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ อดีตประธาน กกต. นายปริญญา นาคฉัตรีย์ นายวีระชัย แนวบุญเนียร พล.อ.จารุภัทร เรืองสุวรรณ พล.ต.ต.เอกชัย วารุณประภา อดีตเลขาธิการ กกต. เป็นจำเลยที่ 1-6
ในคดีที่นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร่วมกันเป็นจำเลยในฐานความผิดปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2541 มาตรา 24 และมาตรา 42 กรณีกำหนดจัดการเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตรอบที่ 2 โดยไม่มีอำนาจ และออกหนังสือเวียนให้เปิดรับผู้สมัครรายเดิมเวียนเทียนสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต โดยมิชอบ เมื่อวันที่ 23 และวันที่ 29 เมษายน 2549
โดยคดีนี้ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ลงโทษจำคุก พล.ต.อ.วาสนา นายปริญญา และนายเอกชัย ไว้คนละ 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งจำเลยทั้ง 3 คน เป็นเวลา 10 ปี ส่วนจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 6 ได้ยกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ขณะ พล.อ.จารุภัทร จำเลยที่ 5 ได้ลาออกจาก กกต.ไปก่อน นายถาวร เสนเนียม (โจทก์) จึงถอนฟ้อง ขณะที่นายวีระชัย ได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2555 ด้วยโรคไตวาย
ศาลฎีกา ได้มีคำพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นายถาวร โจทก์ ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง จึงไม่มีอำนาจในการฟ้อง
โดย: ไทยรัฐออนไลน์
13 มิถุนายน 2556, 11:20 น.
http://www.thairath.co.th/content/pol/350955

ข่าวเพิ่มเติม
10:15 น.

ฎีกาพิพากษากลับยกฟ้องวาสนาจัดเลือกตั้งปี 49
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2556 ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีที่นายถาวร เสนเนียม ส.ส.ประชาธิปัตย์เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ อดีตปธ.กกต.กับพวก รวม 4 คน เป็นจำเลยความผิดฐานกระทำผิดพ.ร.บ.ว่าด้วย กกต.พ.ศ. 2541 กรณีที่ได้มีการจัดเลือกตั้งใหม่ วันที่ 23 เม.ย. 49 ซึ่งมีลักษณะเพื่อประโยชน์ให้ผู้สมัคร พรรคไทยรักไทยเลี่ยงเกณฑ์ได้รับคะแนนเสียงไม่ถึงร้อยละ 20
โดยศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า ทั้งตามกม.พ.ร.บ.ว่าด้วยกกต.และประมวลกม.อาญา นายถาวร โจทก์ยังไม่ถือว่าเป็นผู้เสียหายโดยตรง จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย โดยฎีกาของจำเลยฟังขึ้นจึงพิพากษากลับให้ยกฟ้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้จำคุกจำเลยคนละ 4 ปี โดยไม่รอลงอาญาและให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง เป็นเวลา 10 ปี ต่อมาจำเลยได้ยื่นฎีกา
http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=685101&lang=T&cat=

........................................................................................................................

by  Cool

ประวัติศาสตร์ของเมืองไทยนี่มันซ้ำรอยบ่อยมากๆ โดยเฉพาะในเรื่องของความเลวระยำ...
การเอาคนไปประหารถึงสามคนโดยที่เขาเหล่านั้น "ไม่มีความผิด" และอีกหลายๆคนที่ต้องซัดเซพเนจรไปจากบ้านเกิดเมืองนอน เป็นเรื่องธรรมดาเหลือเกินในประเทศนี้

นายชิต นายเฉลียว และ นายบุศย์ ก่อนที่จะต้องรับกรรมที่พวกเขาไม่ได้ก่อนั้น เรื่องราวของความจริงก็ได้ถูกเล่าให้ลูกๆและเมียได้ฟัง แถมด้วยคนสนิทชิดเชื้ออีกหลายคน(เช่นเดียวกับท่านอาจารย์ปรีดี)
แต่มันก็ยังคงเป็นเรื่องที่เราต้อง "ซุบซิบ" กันไปอีก...จนกว่าจะมีคนกล้าหาญสักกลุ่ม(หรือสักคน)...ที่เห็นถึงความถูกต้องว่าจะต้องทำประวัติศาสตร์ให้มันถูกต้องตามความเป็นจริง
และเช่นเดียวกับคำพูดของ สนธิบัง ที่ว่า "ถึงตายไปก็บอกไม่ได้"

การกระทำของคนเหล่านี้ ที่ยอมปกปิดความลับเพื่อใครคนใด เพื่อจุดประสงค์อันใดก็ตาม ย่อมไม่เกิดผลดีต่อสังคมในประเทศนี้ มันจึงเป็นผลต่อเนื่องที่สังคมของประเทศนี้อยู่ได้ด้วยการใส่หน้ากากเข้าหากัน อยู่ได้บนความบาดหมางที่ไม่ตั้งอยู่บนความจริง

ส่วนท่าน วาสนา ที่ลงทุนเอ่ยปากออกมาแล้วว่า ท่านมีสิ่งที่เรียกว่า "ความจริง" แล้วใยจะต้องรอให้ท่านเสียชีวิตไปก่อนถึงจะให้ลูกเมียเปิดเผย
ทำไมท่านโยนปัญหาที่เป็นเผือกร้อนไปยังคนที่ท่านรัก ทำไมไม่ใช่ท่านเสียเองที่จะเป็นคนยืดอกกล่าว "ความจริง" ต่อสังคมในเมื่อท่านและพวกก็ยืนยันในความบริสุทธิ์ที่ตนเองมี!!!

ทำในสิ่งที่ถูกต้องเถิดท่านวาสนา อย่าเป็นเหมือนนายชิต นายเฉลียว นายบุศย์หรือท่านปรีดี ที่ยอมให้ความไม่ถูกต้องอยู่เหนือความจริง ลูกหลานของเราจะได้เริ่มต้นเดินไปในทางที่ถูกเสียที

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar