tisdag 18 juni 2013

ลิเกคณะศิษย์ทองดว้งตอนอวสาน .....ระนาดก็ไม่ตี...กลองปี่ก็ไม่เชิด ไม่เห็นในวันเกิด...หุ่นเชิดมันใจหาย ง้างดาบรอ.จะต่อตี...คิดอีกที.มีวอดวาย ศานเทวา.หน้ามันหงาย...จำต้องย้าย.ท้องพระโรง คิดไปเรื่อยเปื่อย...เสียงเจื้อยไก่ขัน นี่เราหลับฝัน...เห็นพวกมัน.ทั้งโขยง พวกขี้ตีนเทวดา...พวกขี้ข้า.หน้าพระโรง สะดุ้งตื่นยังมึนงง...บ่องตง” สมน้ำหน้ามึง “........






[IMG]


Posted Image

เมื่อลิเกคณะศิษย์ทองด้วงตอนอวสานกำลังจะผ่านไป การแย่งชิงบัลลังค์ก็ได้เริ่มขึ้นระหว่างลูกสาวกับลูกชายของกษัตริย์ภูมิพล เมื่อพ่อมีอันเป็นไปโดยไม่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว ฝ่ายสุรยุทธ์ ตาโปนหัวหน้าอำมาตย์ก็เรื่มเคลื่อนไหวอย่างเงียบๆ "แบบลักไก่ "โดยได้ไปทำพิธีขอเจ้าสาวคือนางคานทองสวรรค์ "ตุ่มสองขา " ซึ่งเป็นสาวแก่ที่แต่งหน้าทาแป้งรอวันรอคืนเพื่อขึ้นนั่งราชบัลลังก์แทนพ่อ ( กษัตริย์ภูมิพล ) โดยไม่คำนึงถึงกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงค์ ซึ่งตามประเพณีว่าด้วยการขึ้นครองราชย์ การที่สุรยุทธ์ไปขอให้พระเทพ ฯให้ขึ้นเป็นกษัตริย์จึงเรียกว่าเป็น "การลักไก่ "โดยอาศัยช่วงที่กษัตริย์ภูมิพลป่วยหนักอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถสั่งการอะไรได้ แผนการณ์ขั้นต่อไปก็จะดันทุรังให้เปรมขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการแทนกษัตริย์ภูมิพล โดยวางแผนโค่นล้มรัฐบาลนายกยิ่งลักษณ์ลง ซึ่งพวกอำมาตย์ศักดินาก็กำลังทำอยู่เวลานี้ในรูปแบบต่างๆกัน แม้กระทั่งมีการขอพระราชทานนายกตาม มาตรา ๗ ที่พวกสมุนอำมาตย์กำลังเรียกร้องอยูในเวลาปัจจุบัน

เมื่อ "ลิเกคณะศิษย์ทองด้วง " จบตอนที่หนึ่งลงไปแล้ว ตอนที่สองต่อไปก็กำลังเริ่มต้น เป็นฉากของลูกสาวจอมบู้ที่สืบทอดความเหี้ยมโหดไม่แพ้พระบิดา ได้ร่วมมือกับพวกอำมาตย์ที่กลัวจะสูญเสียอำนาจและกำลังใกล้จะตาย..... ประเทศไทยคงหนีไม่พ้นสงครามกลางเมืองอย่างเด็จขาด ตอนที่สองนี้คงเป็นฉากสุดท้ายของราชวงค์อำมหิต "คณะลิเกศิษย์ทองด้วง" อย่างเด็จขาดแน่นอน ....ตามคำทำนายของโหรหลวงเมื่อตอนตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ .....

โดย แสงตะวัน

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar